นพมาส แววหงส์ : BEAUTY AND THE BEAST “เทพนิยาย”

นพมาส แววหงส์

BEAUTY AND THE BEAST “เทพนิยาย”

กำกับการแสดง
Bill Condon

นำแสดง
Emma Watson
Dan Stevens
Luke Evans
Josh Gad
Kevin Kline
Ewan McGregor
Ian McKellen
Emma Thompson
Stanley Tucci

ยุคสมัยของเราคุ้นเคยกับ Beauty and the Beast มานานกว่ายี่สิบห้าปีแล้ว นับแต่หนังการ์ตูนชื่อนี้จากค่ายดิสนีย์ออกสู่สายตาประชาชนใน ค.ศ.1991 และได้รับรางวัลลูกโลกทองคำสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม แนวมิวสิเคิลและคอเมดี้ ไปครอง ยิ่งกว่านั้นยังได้รับเสนอชื่อเข้าชิงออสการ์ในสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม

ปีนั้นเป็นปีที่รางวัลออสการ์เป็นของ ฮันนิบาล เล็กเตอร์ ใน Silence of the Lambs (แอนโธนี ฮอปกินส์, โจดี้ ฟอสเตอร์) ค่ะ

แต่ประวัติการณ์สำคัญในวงการภาพยนตร์ที่ Beauty and the Beast ทำไว้คือการเป็นหนังการ์ตูนเรื่องแรกที่ได้รับเสนอชื่อเข้าชิงออสการ์ในสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม

ซึ่งถือว่าทำให้หนังการ์ตูนได้รับการยอมรับนับถือเทียมบ่าเทียมไหล่ในโลกภาพยนตร์ ไม่ได้ถูกจัดอยู่ในประเภทแอนิเมชั่นซึ่งก่อนนี้แปลว่าเป็นหนังสำหรับเด็กเท่านั้น

จากนั้น ชื่อ Beauty and the Beast หรือในภาษาไทยว่า “โฉมงามกับเจ้าชายอสูร” ก็เป็นที่คุ้นหูทั่วไป ไม่ได้เพียงอยู่ในบรรณพิภพของฝรั่งเศสเท่านั้น

ไม่กี่ปีต่อมา Beauty and the Beast ก็ก้าวเข้าสู่โลกละครเวที กลายเป็นมิวสิเคิลที่อลังการ และปรากฏในสื่อต่างๆ อีกหลายรูปแบบ

กาลเวลาผันผ่านไปสองทศวรรษครึ่ง ความสำเร็จของหนังการ์ตูนคลาสสิคของดิสนีย์เรื่องนี้ ซึ่งยังตรึงตราในใจหลายๆ คน ทำให้ดิสนีย์อดไม่ได้ที่จะหยิบขึ้นมาปัดฝุ่นเล็กน้อยและนำเสนอใหม่อีกครั้ง

คราวนี้ไม่ได้ทำในรูปการ์ตูนแอนิเมชั่นอีกแล้ว แต่เป็นหนังที่ใช้คนแสดง หรือที่เรียกว่า live action

แนวของหนังยังเป็นในสไตล์ของมิวสิเคิลคอเมดี้เหมือนเดิม ใช้เพลงคุ้นหูหลายเพลงตามแบบเดิม ไม่ว่าจะเป็นเพลงประจำเรื่อง เพลงเปิดตัวนางเอก “Belle” เพลงเปิดตัวผู้ร้าย “Gaston” เพลงที่สิ่งของในปราสาทต้อนรับแบลล์ “Be Our Guest” เป็นต้น แต่ก็มีเพลงแต่งใหม่อยู่สองสามเพลงเหมือนกัน

ความแตกต่างที่ชัดเจนอีกอย่างยังอยู่ที่ความยาวของหนัง หนังการ์ตูนปรกติจะยาวราวเก้าสิบนาที ซึ่งกำลังกะทัดรัดพอดีสำหรับการจับให้เด็กมานั่งนิ่งๆ อยู่นาน และหนังปี 1991 ยาวแปดสิบสี่นาที ไม่ถึงชั่วโมงครึ่งดีด้วยซ้ำ

ครั้นมาถึงปัจจุบัน เมื่อไม่ได้ทำเป็นการ์ตูนแล้ว หนังเรื่องนี้ยาวถึงร้อยยี่สิบเก้านาที เท่ากับสองชั่วโมงเก้านาที ขนาดความยาวมากกว่าเดิมตั้งสี่สิบห้านาที

ซึ่งหมายความว่าเรื่องราวต้องละเอียดลออมากขึ้น เพลงยาวขึ้น แคแร็กเตอร์ลงลึกขึ้น สนุกมากขึ้น ฯลฯ

แต่ก็อาจหมายความว่าเรื่องราวยืดยาวและยืดเยื้อมากขึ้น ความกระชับลดลง แคแร็กเตอร์วุ่นวายมากขึ้น ความสนุกลดลง ก็เป็นได้

ในกรณีนี้ ความยาวที่ไม่กะทัดรัดเหมือนเดิมไม่ได้ช่วยมากนัก หนังไม่ได้มีมุมมองใหม่ๆ มากนัก การเดินเรื่องยังคงเหมือนเดิม ตั้งแต่ฉากแรกที่วางท้องเรื่องไว้ในลักษณะของเทพนิยายที่มีแม่มดในรูปของหญิงอัปลักษณ์ที่มาขอที่พักอาศัยชั่วคืนในวังเจ้าชายผู้เย่อหยิ่ง และถูกปฏิเสธจนแม่มดโกรธและสาปให้กลายร่างเป็น “สัตว์ร้าย” และปราสาทตกอยู่ในเวทมนตร์ คนในปราสาทกลายเป็นวัตถุ เครื่องเรือน นาฬิกา เชิงเทียน ถ้วยชาม ตู้ ฯลฯ เพียงแต่ว่าวัตถุเหล่านี้มีชีวิตและพูดได้เหมือนคน

เช่นเดียวกับคำสาปในเทพนิยายทั้งหลาย เวทมนตร์จะคลายไปเมื่อผู้โดนสาปได้เจอ “รักแท้”

ทว่า ความหวังของเจ้าชายอสูรดูจะมืดมน

ก็ใครเล่าจะมารัก “สัตว์ร้าย” และเวลากำลังนับถอยหลัง ตราบจนกลีบกุหลาบกลีบสุดท้ายร่วงหล่นลง คำสาปก็จะคงทนถาวรไปตลอดกาลนาน ไม่มีใครหรือสิ่งใดมาแก้คำสาปได้

นั่นคือ เมื่อสาวน้อยแสนสวยชื่อสวยว่า แบลล์ (ภาษาฝรั่งเศสแปลซื่อๆ เลยว่า สวย) ก้าวเข้ามาเป็นเชลยในปราสาทต้องมนตร์นี้

Luke Evans is Gaston and Josh Gad is LeFou, in Disney’s BEAUTY AND THE BEAST, a live-action adaptation of the studio’s animated classic, directed by Bill Condon.

สาวน้อยคนนี้อยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ แปลกแยกจากชาวบ้านอื่นๆ ตรงที่เป็นคนชอบอ่านหนังสือ และเมื่อเป็นสาวสวยที่สุดในหมู่บ้าน ก็ย่อมเป็นที่ต้องตาต้องใจของนายพรานหนุ่มผู้หลงตัวที่สุด ชื่อ กัสตอง (เพลงที่สนุกที่สุดเพลงหนึ่งในเรื่องคือเพลงเปิดตัวของตัวละครคนนี้)

แก่นเรื่องสำคัญอยู่ที่ความหลงตัว ความทระนง และการเชื่อถือรูปลักษณ์ภายนอกไม่ได้

ดังนั้น กัสตองจึงเป็นสัตว์ป่าตัวจริงในเรื่อง ไม่ใช่ตัวพระเอกที่มีหน้าตาเป็นสัตว์ป่า แต่มีจิตใจดีซ่อนอยู่ภายใน ข้อเสียหลักๆ ของพระเอกคือความบุ่มบ่ามและอารมณ์เสียได้ง่าย

หนังเรื่องใหม่นี้คลาคล่ำด้วยดาราชื่อดัง ซึ่งดูจะมาปรากฏตัวเพียงในฉากสุดท้าย แต่ให้เสียงอย่างสนุกสนานในปราสาทต้องมนตร์

มีทั้ง ยวน แม็กเกรเกอร์ เป็น “ลูมิแอร์” ในรูปของเชิงเทียนพูดได้

เอียน แม็กเคลเลน (พ่อมดแกนดาล์ฟใน Lord of the Rings และแม็กนีโต้ในหนังชุด X-Men) เป็น “คอกส์เวิร์ธ” ในรูปของนาฬิกาพูดได้

เอ็มมา ธอมป์สัน (Saving Mr. Banks) เป็น “มิสซิสพอตส์” ในรูปกาน้ำชาพูดได้ พร้อมกับลูกชายน่ารักชื่อ “ชิป” ในรูปของถ้วยชาบิ่น

ขณะที่บทนำเป็นของ เอ็มมา วัตสัน (จากเด็กหญิงเฮอร์ไมโอนี ในหนังชุด Harry Potters เอ็มมาโตเป็นสาวเต็มตัวแล้ว)

ส่วน แดน สตีเวนส์ ที่รับบท “บีสต์” นั้น เราได้เห็นหน้าเต็มๆ ในตอนท้ายที่กลายร่างเป็นเจ้าชายแล้วเท่านั้น นอกจากนั้น ได้ยินแต่เสียงทุ้มกังวานในตอนพูดและร้องเพลงอย่างไพเราะ

ตัวละครที่มีสีสันที่สุดน่าจะเป็น “กัสตอง” ซึ่งรับบทโดย ลุค เอแวนส์ (Dracula Untold) พร้อมด้วยคู่หูคู่ฮาคือ จอช แกด ในบท “เลอฟู”

บทสำคัญอีกคนคือ “มอรีซ” (เควิน ไคลน์) พ่อสติเฟื่องของแบลล์ที่เป็นตัวเชื่อมพาแบลล์ไปสู่ปราสาทต้องมนตร์แห่งนี้

ยังไงๆ เสียแฟนพันธุ์แท้ทั้งหลายก็คงพลาดไม่ได้ละค่ะ ถ้าไม่มีอะไรมากไปกว่าการมารำลึกถึงความหลังเมื่อครั้งยี่สิบหกปีที่แล้ว ซึ่ง Beauty and the Beast ยังตรึงตาตรึงใจอยู่

หนังคลาสสิคทั้งหลายย่อมมีเวอร์ชั่นสำหรับคนแต่ละรุ่นอายุ

นี่คือเวอร์ชั่นของปัจจุบันค่ะ