เพ็ญศรี เผ่าเหลืองทอง : ต้นไม้ใหญ่แห่งชนชั้น

ต้นไม้ใหญ่อายุสองร้อยปี เป็นเรื่องมหัศจรรย์ชนิดที่ต้องเดินทางไปดูกัน มีอยู่ทั้งในป่าลึก ในแหล่งท่องเที่ยวที่คนพากันเข้าไปดูได้ เช่น ต้นจามจุรีที่กาญจนบุรี เมื่อเร็วๆ นี้ต้นมะขามรอบสนามหลวงอายุเป็นร้อยปีก็เป็นข่าวใหญ่ เขาต้องการจะล้อมมันไปปฐมพยาบาล ผู้เชี่ยวชาญด้านพฤกษศาสตร์ก็บอกว่าถ้าล้อมปุ๊บเอาไปปั๊บนี่มันจะไม่รอดแน่ ต้องทิ้งไว้สักสามเดือนให้รากใหม่มันงอกออกมาก่อน

ต้นไม่มีชีวิตอยู่ได้รากต้องงอกออกไปเรื่อยๆ ยิ่งรากเยอะก็ยิ่งถอนไม่ขึ้น

เมื่อคืนก็อ่านคำสอนของหลวงปู่ชา ท่านบอกว่าเม็ดมะม่วงน่ะมันดูก็เห็นเป็นแค่เม็ดนะ แต่ความจริงต้นมะม่วงมันอยู่ในนั้น เอาไปฝังดินเดี๋ยวต้นเล็กๆ ก็งอกออกมา จากต้นเล็กเดี๋ยวก็เป็นต้นใหญ่ๆ มันน่ามหัศจรรย์ไหมล่ะ

อ่านไปก็รู้สึกว่าหลวงพ่อชานี่ท่านสุดยอด

นี่แสดงว่าอะไร ก็แปลว่าดีเอ็นเอมันอยู่ในนั้น เมื่อเม็ดมะม่วงได้อากาศดี ความชื้นดี ธาตุอาหารดี มันก็งอกขึ้นมาเป็นต้นมะม่วง ไม่เป็นอย่างอื่น

ต้นไม้นี่ต้นอะไรมันก็เป็นต้นไอ้นั่น ออกลูกมามันก็เป็นลูกอย่างนั้น ต้นมะม่วงก็ไม่ออกลูกสะเปะสะปะเป็นลำไยแน่ๆ

 

ต้นไม้ใหญ่สองร้อยปีมันหยั่งรากลึก รากงอกออกมาใต้ดินเรื่อยๆ ยิ่งงอกก็ยิ่งลึก เหมือนระบบศักดินาหรือชนชั้นนั่นแหละ มันไม่ได้อยู่มาแค่สองร้อยปีนะ มันอยู่มานานกว่านั้นไม่รู้กี่ร้อยปี เลิกทาสกันแล้ว ระบบเวียง วัง คลัง นา ก็หมดไปแล้ว แต่ความรู้สึกเรื่องชนชั้นลึกๆ ก็ยังไม่เปลี่ยน

ทาสหมดไปแต่ชนชั้นกลางยังมีสาวใช้

สาวใช้ก็ยังไม่เคยได้กินร่วมโต๊ะกับนาย

จานชามของสาวใช้ก็ยังต้องแยกออกไป บางบ้านก็ให้ไปล้างต่างหาก อย่ามาปนกับนาย

ชนชั้นมันยังติดมาใช่หรือไม่

ประเทศเราไม่ได้มีความเป็นมาอย่างสหรัฐอเมริกา ของเราลืมตาตื่นขึ้นมาก็มีชนชั้นซะแล้ว

คนขับรถเมล์ กระเป๋ารถเมล์ ชาวไร่ ชาวนา ตาสี ตาสา เราเรียกกันมาอย่างนี้

เดี๋ยวนี้ยังดี ชนชั้นกลางหันไปเป็นเกษตรกร ไปทำสวนผลไม้ ไปปลูกผักปลอดสาร ถ้าหากเป็นอย่างนี้กันมากๆ ก็คงกลมกลืนกันไป ไม่มีการแบ่งชนชั้น เพราะเป็นเกษตรกรเหมือนกัน ถึงเวลาผลผลิตไม่ดี ราคาไม่ดี ก็หันหน้ามาคุยกัน

เกษตรกรชนชั้นกลางยังนับถือเกษตรกรรุ่นเก่าด้วยซ้ำไป เพราะรุ่นเก่าถ่ายทอดความรู้ให้

อีกเวลาหนึ่งที่ชนทุกชั้นกลมกลืนกันก็คือที่โรงพยาบาลขนาดใหญ่ของรัฐ เมื่อถึงคราวเจ็บไข้ได้ป่วย หมอรักษาเท่าเทียมกัน เพราะว่ารักษาฟรีเหมือนกัน ต้องอดทนไปรอหมอเป็นชั่วโมงๆ ไปรอยาอีกเป็นชั่วโมงๆ เก้าอี้นั่งรอก็แทบไม่มีเพราะคนเป็นร้อยๆ

เรื่องตลกก็มี วันหนึ่งสามีเพื่อนก็ไปโรงพยาบาลขนาดใหญ่ของรัฐ พยาบาลทีแรกเรียกลุง พอให้กรอกอาชีพ กรอกว่าเป็น สนช. พยาบาลเปลี่ยนมาเรียกท่าน

ที่ธนาคาร เป็นระบบเอกชน ไม่ใช่ระบบรัฐ เดี๋ยวนี้เขาอบรมกันว่า ถึงจะใส่ขาสั้นลากแตะมา หรือจะใส่เสื้อนอกผูกไท้มา ก็ให้เรียกว่า “ลูกค้า” เหมือนๆ กัน

 

ที่สำนักงานที่ดินในจังหวัดภาคอีสาน ชาวนาก็ยากจนอยู่แล้ว จะไปทำเรื่องแบ่งแยกโฉนดในหมู่พี่น้อง ปาเข้าไปสามเดือนแล้วยังไม่เสร็จ ไม่รู้ว่ารอให้ชาวนาไปเก็บเล็กผสมน้อยคอยให้มีเงินมายื่นให้หรืออย่างไร

ที่สำนักงานที่ดินในจังหวัดภาคเหนือ คนกรุงไปซื้อที่ทิ้งๆ ไว้ ถึงเวลาจะต้องขีดเส้นแสดงทางสาธารณะเพิ่ม ไปแค่ชั่วโมงสองชั่วโมง ก็ทำเสร็จในวันเดียว ไม่เห็นจะต้องจ่ายเงินจ่ายทองอะไร

ไม่รู้ว่าจะกดขี่ขูดรีดตาสีตาสากันให้มันได้อะไรขึ้นมา ความคิดกดขี่เดิมไม่หายไปไหน

เรื่องของชนชั้นเป็นเรื่องไม่สร้างสรรค์

ความไม่เท่าเทียมกันทำให้ความร่วมมือกันน้อยลง ปรองดองไม่มีวันเป็นไปได้ ถ้ายังมีชนชั้น

แต่ก็นั่นแหละ มันก็เหมือนไม้ใหญ่หลายร้อยปี ย่อมยากที่จะโค่นหรือถอน