ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 24 - 30 มกราคม 2563 |
---|---|
คอลัมน์ | ต่างประเทศ |
เผยแพร่ |
ยื่นเรื่องเข้าสู่ “สภาดูมา” สภาผู้แทนราษฎรของรัสเซียไปเป็นที่เรียบร้อยสำหรับ “ร่างแผนปฏิรูปรัฐธรรมนูญ” ตามข้อเสนอของวลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีผู้ทรงอิทธิพลแดนหมีขาว
ในความเคลื่อนไหวที่ฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองจับไต๋ว่าเป็นแผนการอันแยบยลของปูตินในความพยายามที่จะทำให้ตนเองอยู่ยืนยงเป็นผู้นำรัสเซียไปตลอดกาล
หลังจากเมื่อปลายสัปดาห์ก่อนมีการขยับรับลูกจากกลุ่มนักการเมืองในคาถา เมื่อดิมิทรี เมดเวเดฟ นายกรัฐมนตรีผู้เคยเป็นประธานาธิบดีขัดตาทัพให้ปูตินมาแล้ว ได้นำคณะรัฐมนตรีตบเท้าลาออกยกคณะ เพื่อเปิดทางสู่การยกเครื่องปฏิรูประบบการเมืองรัสเซียใหม่ภายใต้วิสัยทัศน์ของปูติน ผู้ครองเก้าอี้ประธานาธิบดีรัสเซียมายาวนานที่สุด
ซึ่งได้เสนอวิสัยทัศน์นี้ไปในระหว่างการแถลงนโยบายประจำปีของการบริหารประเทศไปก่อนหน้านั้น
การเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของปูตินครั้งนี้ถูกฝ่ายตรงข้ามมองว่าเป็นแผนการยื้ออำนาจผูกขาดทางการเมืองไว้ในมือตนเองของปูติน เป็นการเดินกลยุทธ์แบบเนียนๆ อย่างที่เราได้เห็นปูตินทำมาแล้ว ด้วยการจัดวางตนเองมานั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีคั่นเวลาช่วงปี 2008-2012 และให้เมดเวเดฟขึ้นเป็นประธานาธิบดีหุ่นเชิดของตนเอง หลังจากที่ปูตินเป็นประธานาธิบดีมาติดต่อกัน 2 สมัยในช่วงก่อนหน้าระหว่างปี 2000-2008 เพื่อรอการหวนกลับคืนบัลลังก์ประธานาธิบดีต่อของปูตินในสมัยที่ 3 ในปี 2012 และจนถึงปัจจุบันซึ่งเป็นสมัยที่ 4
โดยกระบวนการจำต้องเว้นวรรคเป็นประธานาธิบดีของปูติน เป็นไปตามบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญรัสเซียที่กำหนดให้ประธานาธิบดีดำรงตำแหน่งติดต่อกันได้ไม่เกิน 2 สมัยเท่านั้น
การผลักดันแผนปฏิรูปรัฐธรรมนูญครั้งนี้ของปูตินจึงถูกมองเป็นแผนการรองรับการดำรงอยู่ในอำนาจต่อไปของปูติน หลังจากที่เขาจะหมดวาระการเป็นประธานาธิบดีรัสเซียสมัยที่ 4 ลงในปี 2024
มีการตั้งข้อสังเกตจากบรรดานักวิเคราะห์และผู้เชี่ยวชาญในแวดวงการเมืองว่าร่างแผนปฏิรูปรัฐธรรมนูญของปูตินมุ่งมั่นที่จะลดทอนอำนาจของประธานาธิบดีให้อ่อนแอลง และเพิ่มบทบาทอำนาจให้กับรัฐสภามากขึ้นแทนโดยมีตนเองชักใยอำนาจอยู่หลังฉาก
โดยภายใต้ร่างแผนปฏิรูปรัฐธรรมนูญของปูตินเสนอให้รัฐสภาเป็นผู้มีอำนาจในการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี โดยประธานาธิบดีรัสเซียจะไม่สามารถคัดค้านการเสนอชื่อผู้ดำรงตำแหน่งดังกล่าวของรัฐสภาได้
ขณะที่รัฐธรรมนูญรัสเซียฉบับปัจจุบันให้อำนาจนี้อยู่ในมือประธานาธิบดีในการทำหน้าที่แต่งตั้งนายกรัฐมนตรีแล้วให้รัฐสภาโหวตรับรองเห็นชอบ
ปูตินยังเสนอให้จำกัดวาระดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีรัสเซียในอนาคตไว้ได้ไม่เกิน 2 สมัยเท่านั้น จากเดิมรัฐธรรมนูญกำหนดให้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีได้ติดต่อกันไม่เกิน 2 สมัย จากนั้นสามารถเว้นวรรคไปแล้วค่อยกลับมาเป็นใหม่ได้ ดังที่เราเห็นปูตินทำมาแล้วอย่างที่เกริ่นมาข้างต้น
ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของปูตินยังเสนอให้กำหนดห้ามผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีที่อาศัยอยู่ในประเทศรัสเซียน้อยกว่า 25 ปี หรือถือสัญชาติอื่น หรือมีถิ่นพำนักอยู่ในต่างประเทศ ไม่สามารถขึ้นเป็นประธานาธิบดีได้
ต่อประเด็นนี้กลุ่มนักวิเคราะห์มองว่าเป็นมาตรการที่มุ่งหวังสกัดนักการเมืองฝ่ายค้านหรือฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองที่ลี้ภัยในต่างประเทศ ที่จะกลับมาเป็นภัยคุกคามต่อปูตินได้
อีกประเด็นสำคัญที่ถูกจับตาอย่างมากคือ สภาที่ปรึกษา (State Council) ที่คอยทำหน้าที่ให้คำปรึกษาแก่ประธานาธิบดี ซึ่งที่มีผ่านเป็นเพียงคณะทำงานที่ไม่ได้มีบทบาทมากนัก
แต่ในร่างแผนปฏิรูปรัฐธรรมนูญของปูติน มีการเสนอเพิ่มอำนาจอย่างมีนัยสำคัญให้แก่คณะทำงานชุดนี้
ที่เชื่อว่าปูตินจะนั่งเป็นประธานคณะทำงานเอง หลังจากเขาก้าวลงจากเก้าอี้ประธานาธิบดีไปแล้ว
โดยคณะทำงานชุดนี้จะเป็นกลไกสำคัญที่มีอำนาจกำหนดทิศทางนโยบายการบริหารประเทศและนโยบายต่างประเทศ ตลอดจนกำหนดแผนยุทธศาสตร์พัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของรัสเซีย
แนวทางนี้ถูกมองว่าเป็นกลยุทธ์ทางการเมืองคล้ายๆ กับที่นูร์ซุลตัน นาซาร์บาเยฟ ประธานาธิบดีคาซัคสถาน วัย 79 ปี ปูทางเพื่อการยึดกุมอำนาจไว้ ก่อนที่เขาจะลงจากตำแหน่งในปีที่แล้ว หลังจากเป็นผู้นำประเทศมายาวนานเกือบ 30 ปี
ปูตินสั่งการให้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาเพื่อประเมินผลรอบด้านของแผนปฏิรูปรัฐธรรมนูญฉบับนี้ของตน โดยรับปากว่าจะเปิดทางให้ประชาชนได้ลงประชามติแสดงความคิดเห็นที่มีต่อแผนปฏิรูปนี้ แต่ไม่ได้มีการบอกกล่าวว่าจะให้มีขึ้นเมื่อใด
แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้เหล่านักการเมืองฝ่ายค้านเริ่มเคลื่อนไหวปลุกระดมมวลชนให้ออกมาร่วมกันแสดงการต่อต้านแผนการยื้ออำนาจเพื่อหวังเป็นผู้นำตลอดกาลของปูตินกันแล้ว!