ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 24 - 30 มีนาคม 2560 |
---|---|
คอลัมน์ | ต่างประเทศ |
เผยแพร่ |
เจ้าหน้าที่รัฐบาลซีเรียและตัวแทนจากกลุ่มต่อต้านรัฐบาล เริ่มต้นนั่งโต๊ะเจรจาเพื่อหาข้อยุติความขัดแย้งในซีเรีย เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ทีผ่านมา นับเป็นการเจรจาซึ่งมีองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เป็นตัวกลางเป็นครั้งที่สี่แล้ว
แม้จะยังไม่รู้ว่าความขัดแย้งยืดเยื้อนี้จะจบลงเมื่อใด แต่การทำความรู้จักกับตัวละครหลักที่มีผลประโยชน์อยู่ในสนามรบแห่งนี้เอาไว้ ก็อาจทำให้สามารถทำนายผลลัพธ์ที่อาจเกิดขึ้นในไม่ช้านี้ได้
“กองกำลังรัฐบาลซีเรีย” นำโดย บาชาร์ อัล-อัสซาด ประธานาธิบดี มีกำลังทหาร 300,000 นาย ปัจจุบันลดจำนวนเหลือครึ่งหนึ่ง แต่ยังได้รับการสนับสนุนจากทหารนอกประจำการ และกองกำลังเฮซบอลเลาะห์จากเลบานอน รวมไปถึงนักรบจากอิหร่าน อิรัก และอัฟกานิสถาน
กองกำลังรัฐบาลซีเรียได้รับแรงสนับสนุนสำคัญจาก “รัฐบาลรัสเซีย” ที่ร่วมโจมตีทางอากาศจนสามารถยึดเมืองยุทธศาสตร์สำคัญหลายๆ เมืองกลับคืนจากกลุ่มกบฏได้
ปัจจุบันรัฐบาลซีเรียยึดครองพื้นที่คิดเป็น 34 เปอร์เซ็นต์ของประเทศ มีประชากรอยู่ในพื้นที่คิดเป็น 65.5 เปอร์เซ็นต์ ของจำนวนประชากรทั้งหมด 16 ล้านคน ที่ยังอยู่ในซีเรีย
“กองกำลังกลุ่มกบฏ” ซึ่งประกอบไปด้วยกลุ่มที่แตกแขนงไปอีกหลายกลุ่ม มีกำลังทหารราว 10,000 ถึง 100,000 นาย
ในช่วงแรกรวมตัวกันภายใต้ชื่อกลุ่ม “กองกำลังปลดปล่อยซีเรีย” หรือเอฟเอสเอ ก่อนที่กลุ่มดังกล่าวจะแตกย่อยออกไป เป็น “กลุ่มอาห์ราร์ อัล-ชาม” กลุ่มที่มีแนวคิดอิสลามสุดโต่ง รวมถึง “กลุ่มจาอิช อัล-อิสลาม” กลุ่มต่อต้านรัฐบาลที่ได้รับการสนับสนุนจากซาอุดีอาระเบีย และเป็นกลุ่มที่ส่งตัวแทนไปร่วมเจรจาสันติภาพมาแล้วด้วยก่อนหน้านี้
กลุ่มกบฏยึดครองพื้นที่ในซีเรีย “เพียง 13 เปอร์เซ็นต์” มีประชากรอาศัยในพื้นที่คิดเป็น 12 เปอร์เซ็นต์ของประชากรที่ยังเหลือในประเทศ
“กลุ่มนักรบญิฮาด” ในซีเรียมีอยู่ด้วยกัน 2 กลุ่มที่เป็นคู่แข่งกันคือ “กลุ่มกองกำลังรัฐอิสลาม” หรือไอเอส และ “กลุ่มฟาเตห์ อัล-ชาม ฟรอนต์” อดีตสาขาหนึ่งของกลุ่มก่อการร้าย อัล เคด้า
“ไอเอส” ถือกำเนิดขึ้นจากความวุ่นวายในสงครามกลางเมืองซีเรีย เข้ายึดพื้นที่ขนาดใหญ่ในซีเรียและอิรัก ในปี 2014 พร้อมประกาศพื้นที่ “รัฐอิสลาม” ก่อนก่อการและเผยแพร่โฆษณาชวนเชื่อในการก่อการร้ายในต่างประเทศ
ปัจจุบันไอเอสอยู่ในสถานะที่ถดถอยลง หลังจากต้องเผชิญกับหลายแนวรบ โดยเฉพาะปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของ “กลุ่มพันธมิตรนำโดยสหรัฐอเมริกา” และกองทัพ “รัสเซีย”
อย่างไรก็ตาม กลุ่มไอเอสยังคงยึดครองพื้นที่ในซีเรียเอาไว้ได้ถึง 33 เปอร์เซ็นต์ รวมไปถึงเมืองร็อกเกาะห์ และหลายเมืองตอนเหนือของประเทศ
ด้าน “กลุ่มฟาเตห์ อัล-ชาม ฟรอนต์” นั้น แยกตัวจากกลุ่ม อัล เคด้า เมื่อปี 2016 ร่วมเป็นพันธมิตรกับกลุ่มกบฏ “อาห์ราร์ อัล-ชาม” นับตั้งแต่ปี 2015 แต่ก็เกิดความขัดแย้งสู้รบกันเองในเดือนมกราคมที่ผ่านมา
สถานการณ์บังคับให้กลุ่มกบฏหลายกลุ่มร่วมเป็นพันธมิตรกับทั้ง “อาห์ราห์ อัล-ชาม” หรือไม่ก็ “ฟาเตห์ อัล-ชาม” ซึ่งในเวลาต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น “ตาห์รีร์ อัล-ชาม”
“กลุ่มชาวเคิร์ด” เป็นอีกกลุ่มในซีเรียที่มักวางตัวอยู่วงนอกความขัดแย้ง อาศัยอยู่ในเขตแดนกึ่งปกครองตนเองทางเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือของซีเรีย
หน่วยพิทักษ์ประชาชน (วายพีจี) ของกลุ่มชาวเคิร์ดกลายเป็นหุ้นส่วนสำคัญของกลุ่มพันธมิตรนำโดยสหรัฐอเมริกา ในการสู้รบกับกลุ่มไอเอส ในฐานะส่วนหนึ่งของกองกำลังประชาธิปไตยซีเรีย (เอสดีเอฟ)
กลุ่มวายพีจี ยึดครองพื้นที่ราว 20 เปอร์เซ็นต์ของซีเรีย บริเวณชายแดนตอนเหนือระหว่างซีเรียและตุรกี มีประชากร 12 เปอร์เซ็นต์ หรือราว 2 ล้านคนอาศัยในพื้นที่
กองกำลังเอสดีเอฟ ดำเนินปฏิบัติการโจมตีฐานที่มั่นไอเอสในเมืองร็อกเกาะห์ ขณะที่ “กองกำลังตุรกี” ที่เข้าร่วมปฏิบัติการโจมตีในซีเรีย เมื่อปี 2016 เปิดฉากโจมตีกลุ่มไอเอส รวมถึงกลุ่มวายพีจี ที่ทางการตุรกีมองว่าเป็นสาขาของกลุ่มกองกำลังพรรคแรงงานเคอร์ดิสถาน (พีเคเค) ที่ก่อกบฏในตุรกีเป็นเวลายาวนาน 32 ปี
“กลุ่มชาติมุสลิมสุหนี่” อย่างซาอุดีอาระเบีย กาตาร์ ตุรกี เป็นกลุ่มประเทศที่ให้การสนับสนุนเงินและกำลังทหารให้กับกลุ่มกบฏ ในการต่อสู้กับรัฐบาลอัสซาด ผู้ที่เป็นสมาชิกชนกลุ่มน้อยอัลลาไวท์ที่เป็นมุสลิมชีอะห์
ด้านรัฐบาลตุรกี และรัสเซีย แม้จะสนับสนุนกลุ่มที่เป็นขั้วตรงข้ามกัน แต่ในช่วงเดือนที่ผ่านมาทั้งสองชาติก็ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อหาข้อยุติทางการเมืองในความขัดแย้งซีเรีย อย่างต่อเนื่อง
ขณะที่ “กลุ่มพันธมิตรนำโดยสหรัฐอเมริกา” เข้าร่วมโจมตีฐานที่มั่นของกลุ่มไอเอสในซีเรีย ตั้งแต่ปี 2014 โดยกลุ่มพันธมิตรดังกล่าวประกอบไปด้วย ออสเตรเลีย บาห์เรน อังกฤษ แคนาดา ฝรั่งเศส จอร์แดน เนเธอร์แลนด์ ซาอุดีอาระเบีย ตุรกี และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
นับจากนี้การเจรจาระหว่างสองตัวละครหลัก ที่มีตัวละครสนับสนุนอีกหลายกลุ่มที่เริ่มขึ้นแล้วนั้น จะนำไปสู่สันติสุขในซีเรียได้หรือไม่คงต้องติดตาม