หนุ่มเมืองจันท์ : คำตอบ

หนุ่มเมืองจันท์facebook.com/boycitychanFC

วันก่อน แวบเข้าร้านหนังสือ กวาดหนังสือ “Future : ปัญญาอนาคต” ของ “ภิญโญ ไตรสุริยธรรมา” มาแจกพี่เพื่อนน้อง 3 เล่ม

หนังสือเล่มนี้ดีมากครับ

แนะนำเลย

ช่วงปีใหม่ ผมจัดการหนังสือเล่มนี้เสร็จเรียบร้อย พร้อมกับตั้งใจว่า “ปัญญาอนาคต” จะเป็นหนังสืออีกเล่มหนึ่งที่จะซื้อแจกหรือเป็นของขวัญให้กับพี่-เพื่อน-น้อง

นอกเหนือจากหนังสือของตัวเอง

แฮ่ม…

ผมถือว่า “Future : ปัญญาอนาคต” เป็นหนึ่งในหนังสือชุด “หนุ่มเมืองจันท์”

เพราะ “ภิญโญ” เป็นคนเมืองจันท์เหมือนกันครับ

แต่หนุ่มกว่า 555

“ภิญโญ” ต่อจุดความคิดและปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในโลกให้กลายเป็นภาพภาพหนึ่งที่ไม่เหมือนใคร

ไม่ชัดเจนมาก แต่เห็นโครงร่างบางอย่างให้ครุ่นคิดต่อ

หนังสือเล่มนี้ผมถือว่าเป็นหนังสือมองอนาคตที่ละเมียดละไมมาก

ภาษาของเขากลมกล่อมและคล่องคอ

ย้ำอีกครั้ง

เป็นหนังสือที่ไม่ควรพลาดครับ

หลังจากกวาดหนังสือของ “ภิญโญ” เสร็จเรียบร้อย ผมก็เริ่มหาเหยื่อรายต่อไป

มาเจอเล่มนี้ครับ

“คำตอบ”

เป็นหนังสือของ “พี่ด้วง” ดวงฤทธิ์ บุนนาค สถาปนิกชื่อดังของเมืองไทย

ความหนา 400 กว่าหน้า

ทั้งเล่มมีแต่ “คำถาม”

และ “คำตอบ”

“พี่ด้วง” ตอบคำถามในแอพพลิเคชั่น “ARK.fm” เมื่อ 2 ปีกว่า

จนวันนี้หลายคนเลิกเล่นไปแล้ว แต่เขาก็ยังตอบคำถามของผู้อ่านในแอพนี้

ตอนนี้ประมาณ 9,080 คำถาม

หนังสือเล่มนี้รวบรวมคำถามและคำตอบในช่วงแรกๆ

ไม่รู้ว่ากี่คำถาม

ไม่มีสารบัญแยกหมวดหมู่

ไม่มีบทที่ 1 บทที่ 2

เป็น “คำถาม-คำตอบ” ต่อเนื่องไปเรื่อยๆ จนจบเล่ม

ตอนแรก ผมก็รู้สึกแปร่งๆ

น่าจะแยกกลุ่มคำถามสักนิด

แต่พออ่านไปเรื่อยๆ ก็รู้สึกสนุกดี

“ดวงฤทธิ์” ต้องการออกแบบการอ่านให้เป็นแบบนี้ครับ

ให้เหมือนกับเนื้อหาสดๆ ในจอคอมพิวเตอร์

อ่านไปเรื่อยๆ

เป็นรสชาติใหม่ที่ดีงาม

เพราะเราไม่ต้องอ่านเรียงกัน

แต่เปิดเจาะตรงไหนก็ได้

เหมือนกับเสี่ยงทาย “คำถาม”

และลุ้นกับ “คำตอบ”

ผมชอบวิธีการตอบคำถามของ “ดวงฤทธิ์”

คมคาย

และกวน…

คำถามที่ถามมามีทุกเรื่องครับ

ตั้งแต่เรื่องสถาปัตย์ ชีวิต ครอบครัว ความรัก การทำงาน หรือแม้แต่เรื่องส่วนตัวของ “พี่ด้วง”

เลิกกับใคร เพราะอะไรก็ถาม

ที่สำคัญ “พี่ด้วง” ก็ตอบ

แต่บางคำถามก็จริงจัง

เป็นคำถามแห่งยุคสมัยของคนหนุ่มสาว

“เรียนในสิ่งที่ไม่ชอบ ในสิ่งที่ไม่มั่นใจ ทำอย่างไรจึงจะอยู่กับมันได้คะ ประมาณว่าเราเลือกแล้วว่าจะเอาอันนี้ แต่ก็ไม่ใช่ความฝันสักเท่าไร”

“พี่ด้วง” ตอบแบบ “ตีแสกหน้า” เลยครับ

“อันนั้นเป็นคำพูดของเด็กอายุ 8 ขวบ ที่คอยต่อว่าทุกๆ อย่างที่เกิดขึ้นในชีวิตแล้วพร่ำบ่นว่านี่ไม่ใช่ชีวิตของฉัน

หรือคำพูดของเด็กอายุ 22 ที่หลงใหลกับความสำเร็จมากพอที่จะรับผิดชอบชีวิตตัวเองทุกๆ วินาที ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในวิธีที่ชีวิตหยิบยื่นให้

ผมรู้จักน้องคนหนึ่งที่เป็นสถาปนิกที่มีแขนเดียวครับ เขารักชีวิตในแบบที่เขามีและมุ่งมั่นจะเป็นสถาปนิกที่ยอดเยี่ยม

คุณไม่มีอะไรที่ขาดหายไปสำหรับชีวิตคุณหรอกครับ ไม่ว่าจะเรียนที่ชอบ ความไม่มั่นใจหรือความฝัน

ลองนึกถึงตัวเองไม่มีแขนสักข้างนึงสิครับ

สิ่งที่คุณพร่ำบ่นมันจะดูเป็นการโอดครวญที่ไร้สาระไปทันที”

หรืออีกคำถามหนึ่ง

“ปกติหนูเป็นคนที่ทำอะไรจะมีเป้าหมาย เช่น เรียนภาษาญี่ปุ่นเพื่อจะไปเที่ยวเองไม่ง้อทัวร์ เป็นต้น แต่กับงานบางเรื่องหนูดูไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจน หรือถึงมีก็ไม่ได้จูงใจมากพอที่จะทำให้สุดตัว แสดงว่ามันไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการจริงๆ หรือเปล่า เราควรแก้มันอย่างไรดีคะ พี่มีมุมมองอย่างเวลาจะทำอะไรให้บรรลุ”

คราวนี้ “พี่ด้วง” ตอบสั้นๆ

“มันไม่มี “ชีวิต” ที่ “ใช่” หรอกครับ

มีแต่ “ชีวิต” ที่เรา “เลือก””

…จบ

 

อีกเรื่องหนึ่งที่คนชอบถาม

“ความรัก”

“แม้จะบอกว่าการที่เราเห็นคนรักมีความสุขเป็นสิ่งที่ควรทำ แม้สุขนั้นจะไม่มีเรา แต่มันก็เจ็บไม่เบานะคะ แถมยังต้องทำงานที่เดียวกันอีก

ถ้าไม่รักใครก็ไม่ต้องเจ็บใจใช่มั้ยคะ เหนื่อยที่ต้องยิ้ม บอกใครๆ ว่าโอเค จริงๆ ก็พยายามเข้าใจด้วยเหตุผล แต่อารมณ์มันไม่ค่อยไป”

คำตอบของ “พี่ด้วง”

“ผมอยากให้ลองสังเกตดูนะครับ เวลาที่เรารักเขาแล้วเขาไม่รักเรา สิ่งที่ทำให้เราเจ็บปวดนั้นไม่เกี่ยวข้องกับเขาเลย

มันเกี่ยวกับเราที่มีบทสนทนากับตัวเองว่า “ฉันไร้ค่า”

เราเจ็บปวดกับเสียงนั้นครับ

และมันก็ไม่เคยเกี่ยวกับเขาจริงๆ”

ครับ เราต่อว่าตัวเรา

แล้วเราก็เจ็บเอง

อีกคำถามนึง

“คนจะรักกัน มีอะไรเป็นปัจจัยคะ”

ผมชอบคำตอบนี้มาก

… “ความรัก” สิครับ และมันมักจะไม่มี “เหตุผล”

มีแต่ “ความเป็นไปได้”

สั้นๆ แค่นี้

คมมาก…

แต่ที่ผมชอบที่สุด เป็นคำถามที่ฝ่าวงล้อมความจริงจัง

ชนิดที่คนติดตามอ่านคงงง

“พี่ด้วง” ก็งง

“พี่คิดว่ามดจริงๆ แล้วหน้าตาเหมือนกันทุกตัวหรือเปล่าคะ”

“โอย น้อง คำถามนี้ พี่นั่งหัวเราะอยู่ 5 นาที”

ผมเชื่อว่า “พี่ด้วง” คงขำจริงจังทีเดียว

มีอีก 2-3 คำถามตามมา

จริงจังเหมือนเดิม

แต่น้องคนเดิมยังไม่หยุด

เธอมาอีกครั้ง

“เย่ ไม่อยากให้เครียดกันนะคะ ว่าแต่ยังไม่ได้คำตอบเลย (เรื่องมด)”

คราวนี้ “พี่ด้วง” ตอบ

“มดมันคงเห็นคนหน้าเหมือนกันหมดเหมือนกันเนอะ”

เป็นคำตอบที่น่ารักดี

แต่ยังมีคำถามที่เด็ดกว่า

ชนิดที่ “พี่ด้วง” ไม่คิดว่าจะถาม

“หนูอยากเป็นดาราค่ะ จะทำอย่างไรดีคะ เขาบอกว่าดาราสมัยนี้โปรไฟล์ต้องไฮโซมาก ต้องเรียนโรงเรียนดีๆ มหาวิทยาลัยดีๆ ค่าเทอมแพงๆ จริงเหรอคะ แล้วต้องตัวสูงๆ เท่านั้นหรือเปล่าคะ”

“พี่ด้วง” คงไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไร

“เออ น้องครับ คือ ผมเป็นสถาปนิก ไม่รู้จะช่วยยังไงจริงๆ ฮะ”

นึกเล่นๆ ว่าถ้าถามคำถามนี้กับผม

ผมจะแนะนำให้ถาม “ภิญโญ”

ต้องระดับ “ปัญญาอนาคต”