จิตหนึ่ง ใจเดียว เพื่อ “นาย”!! / ฉบับประจำวันที่ 29 พ.ย. – 5 ธ.ค. 2562

“สงสารลูกที่ต้องมาเจอกับเกมการเมือง”

คือเสียงจากนายทวี ไกรคุปต์ บิดาของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)

น.ส.ปารีณา ที่นาทีนี้กลายเป็นนักการเมืองหญิงเด่นดัง

ในฐานะเป็นกำลังสำคัญในทางการเมืองของพรรคพลังประชารัฐ

ที่นอกจากเป็นกำลังส่งให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้เป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว

น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ยังทั้งอาสา และทั้งได้รับการผลักดันให้เป็น “กำลัง” สำคัญในการออกไปต่อกรกับพรรคฝ่ายค้านในทางการเมืองอย่างเข้มข้น เอาจริงเอาจัง

ตั้งแต่พรรคอนาคตใหม่ไปจนถึงการรับภารกิจใหญ่ เข้าไปเพื่อดำเนินการปลดประธานกรรมาธิการ ฐานที่ถูกกล่าวหากระทำการเชิญ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รวมถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี มาให้การต่อกรรมาธิการ อย่างพร่ำเพรื่อ มีเป้าหมายทางการเมือง มากกว่าต้องการข้อเท็จจริง

มองในเชิง “ยุทธวิธี” นี่ย่อมเป็นการ “รุก” ทางการเมืองอีกแนวหนึ่ง

ยิ่งทำให้ น.ส.ปารีณายิ่งสกาวแวววาว

กระนั้น

อาจเป็นความผิดพลาดที่ประเมินว่า การขับเคลื่อนจะต้องดำรงไว้เฉพาะการรุก

หรือได้บทเฉพาะ “นางเอก”

โดยลืมไปว่า การต่อสู้ต้องเจอการตอบโต้ หรือรุกกลับจากฝ่ายตรงข้ามเช่นกัน

เพียงแค่ “วิวาทะในที่ประชุม” ที่ถูกถ่ายทอดออกมาสู่สาธารณะ น.ส.ปารีณาก็ไม่อาจดำรงบทบาทนางเอกเอาไว้เพียงฝ่ายเดียว

หากแต่มีภาพ “นางร้าย” พ่วงมาด้วย

เพราะคู่ต่อสู้ก็ยัดภาพอัปลักษณ์กลับมาที่เธอด้วย

จึงไม่ได้มีแต่ภาพสวย หากแต่มีภาพน่าเกลียดด้วย

แถมแบก “ค่าใช้จ่าย”ก้อนใหญ่ด้วย

เมื่อเจอการเปิดโปงฟาร์มไก่เขาสน หมู่ที่ 6 ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ของ น.ส.ปารีณา 1,700 ไร่

ซึ่งอาจไม่ใชต้อ่ง่เสียที่ดินมหึมาไป

น.ส.ปารีณาก็คงต้องเหน็ดเหนื่อยกับการชี้แจง และอาจกลายเป็นผู้ต้องหา ที่ต้องเผชิญคดีป่าไม้ ซึ่งมีโทษปรับและจำคุก อันหนักหนายิ่ง

 

นี่จึงกลายเป็นชะตากรรมอันพลิกผันของหัวหมู่ทะลวงฟัน อย่าง น.ส.ปารีณา

ซึ่งแม้เธอจะร้องขอความช่วยเหลือจากพรรค จากรัฐบาล

แต่ก็ดูเหมือนจะมีเสียงตอบรับ ไม่มากนัก มีการเพียงโยนให้ข้าราชการประจำ เป็นฝ่ายหาทางช่วย

แต่รัฐมนตรี

แต่นาย

ต่างยืน โดยมีระยะห่าง มิอยากเอาตัวไปพัวพัน

ทั้งที่สิ่งที่เธอทำ มีการกล่าวอ้างเป็นยุทธศาสตร์และยุทธวิธีของพรรคพลังประชารัฐ

ที่ทำขึ้นล้วนเพื่อ “นาย”

รักษาฐานะของ “นาย” ราว “ไข่ในหิน”

แน่นอน คำว่า “นาย” ในที่นี้

มิได้หมายถึง นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค

มิได้หมายถึง นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค

หากแต่เป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

หากแต่เป็น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ

เสียมากกว่า

นี่จึงเป็นความเจ็บปวดที่เธอจะต้องกล้ำกลืน

และถือเป็นค่าใช้จ่ายราคาแพง

ที่ยามเมื่อทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อนาย ต่อพรรค ก็มีเสียงสรรเสริญเยินยอว่า เจ๋ง เก่งกล้า

แต่เมื่อยามมีปัญหา ดูเหมือนมีแต่คนถอยหนี

จึงไม่ประหลาดใจที่นายทวี ไกรคุปต์ ผู้พ่อ จะบอกรู้สึกสงสารลูก

เพราะนอกจากจะถูกเกมการเมืองตามไล่ล่าแล้ว

อาจต้องเจอคดีอาญา ที่โทษร้ายแรงถึง “คุก” รออยู่ข้างหน้า

หรือนี่คือการตอบแทนอันมีค่า สำหรับ ส.ส.หญิง ปารีณา ไกรคุปต์

ผู้มี

จิตหนึ่ง

ใจเดียว

เพื่อ “นาย”!!