ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 22 - 28 พฤศจิกายน 2562 |
---|---|
คอลัมน์ | ในประเทศ |
เผยแพร่ |
หลังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบอนุมัติหมายจับนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี) อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานและพวกอีก 3 คน
ในคดีฆาตกรรม “บิลลี่” พอละจี รักจงเจริญ นักสิทธิมนุษยชนชาวกะเหรี่ยง ตามคำขอของพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน
ต่อมานายชัยวัฒน์พร้อมพวกทั้ง 3 เข้ามอบตัวกับดีเอสไอ ปฏิเสธให้การชั้นพนักงานสอบสวน จึงถูกนำตัวส่งศาลขออนุมัติฝากขัง ก่อนได้รับอนุญาตให้ประกันตัว หลักทรัพย์คนละ 800,000 บาท
ล่าสุด 18 พฤศจิกายน ดีเอสไอยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตฯ ขอให้พิจารณาเพิกถอนประกันตัวนายชัยวัฒน์และพวกทั้ง 3 ด้วยเหตุผลว่า หลังนายชัยวัฒน์ได้รับการปล่อยตัวก็ไปพบสื่อมวลชนและให้สัมภาษณ์สื่อหลายช่องทาง
มีเนื้อหาบิดเบือนการสอบสวนและการปฏิบัติหน้าที่ของดีเอสไอ
เจตนาสร้างความสับสนในการรวบรวมพยานหลักฐานทำให้พยานรู้เห็นเหตุการณ์และต้องการร่วมมือกับพนักงานสอบสวน อาจเกิดความเข้าใจผิดในการปฏิบัติหน้าที่ของดีเอสไอและไม่ให้ความร่วมมือ
ไม่ใช่การแสดงความเห็นโดยสุจริต เนื่องจากดีเอสไอแจ้งข้อกล่าวหาและสอบสวนนายชัยวัฒน์ต่อหน้าทนายความ ให้โอกาสแก้ข้อหาและแสดงข้อเท็จจริง แต่นายชัยวัฒน์กับพวกปฏิเสธให้การทุกคำถาม
กลับไปให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนโดยทราบดีว่า ดีเอสไอไม่สามารถชี้แจงตอบโต้หรือแสดงพยานหลักฐานต่อสื่อมวลชนได้
เพราะเป็นความลับในการสอบสวน
การกระทำของนายชัยวัฒน์ ไม่ใช่การสู้คดีตามกฎหมาย มีเจตนาให้สังคมสับสนเข้าใจผิด กดดันการสอบสวน
อีกทั้งการที่ผู้ต้องหาจะเข้าพื้นที่เกิดเหตุ ย่อมส่งผลทางจิตวิทยาให้คนในพื้นที่หวั่นไหวไม่กล้าให้การหรือความร่วมมือ ถือเป็นการยุ่งเหยิงต่อพยานหลักฐานและเป็นอุปสรรค เสียหายต่อการสอบสวน
จึงขอศาลพิจารณาวินิจฉัยการปล่อยตัวชั่วคราว หรือกำหนดเงื่อนไขการปล่อยตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ดังนี้
ห้ามไม่ให้นายชัยวัฒน์ให้สัมภาษณ์สื่อหรือให้ข้อมูลทางคอมพิวเตอร์ อันส่งผลกระทบต่อการสืบสวนสอบสวน
ห้ามไม่ให้ผู้ต้องหาทั้ง 4 เข้าพื้นที่อุทยานฯ แก่งกระจาน เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่พนักงานสอบสวนพบวัตถุพยานอันสำคัญและยังมีพยานบุคคล พยานหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้องในคดีจำนวนมาก อาจทำให้พยานเกรงกลัวไม่กล้าให้ข้อเท็จจริงเพิ่มเติมแก่พนักงานสอบสวน ผู้ต้องหาอาจเข้าไปก่อความเสียหายต่อพยานหลักฐานที่อยู่ระหว่างรวบรวมเพิ่มเติม
ให้ผู้ต้องหาทั้ง 4 ใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หรือกำไลอีเอ็ม ที่ใช้ตรวจสอบจำกัดการเดินทางเพื่อป้องกันหลบหนีและฝ่าฝืน ไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ขอห้ามไม่ให้เข้าไปในพื้นที่อุทยานฯ แก่งกระจาน
ศาลรับคำร้องไว้พิจารณา และนัดพร้อมสอบถามคู่ความทั้งสอง เกี่ยวกับคำร้องขอเพิกถอนการปล่อยตัวชั่วคราววันที่ 25 พฤศจิกายน ซึ่งตรงกับวันที่นายชัยวัฒน์และพวกต้องมารายงานตัวตามนัดศาล หลังครบกำหนดฝากขังครั้งแรก
คำร้องดีเอสไอ เป็นผลจากการที่นายชัยวัฒน์ให้สัมภาษณ์สื่อ แฉผู้มีอิทธิพลซึ่งเคยถูกตนเองจับกุมที่ดิน รีสอร์ตรุกป่าและคดีล่าสัตว์ อยู่เบื้องหลังจัดฉากละครบิลลี่หายตัว ใส่ร้ายตนเองให้ตกเป็นผู้ต้องหาคดีฆาตกรรม
ทั้งแสดงความมั่นใจ ชิ้นส่วนกระดูกที่ค้นพบและอ้างเป็นหลักฐานสำคัญในคดี ไม่ใช่กระดูกของบิลลี่ โดยรู้ว่าดีเอสไอเอามาจากไหน
พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอสั่งพนักงานสอบสวนถอดเทปคำให้สัมภาษณ์ของนายชัยวัฒน์ทันที กระทั่งนำมาสู่การยื่นคำร้องต่อศาลเพิกถอนการปล่อยตัวชั่วคราวดังกล่าว
ขณะเดียวกัน 6 องค์กรกลุ่มชาติพันธุ์และสิทธิมนุษยชนได้เข้ายื่นหลังสือถึงนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) และนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวง ให้สั่งพักราชการ หรือให้นายชัยวัฒน์กับพวกออกจากราชการไว้ก่อน
รวมถึงเรียกร้องให้ปกป้องคุ้มครองพยานโดยเฉพาะครอบครัวของบิลลี่ พ้นจากการข่มขู่คุกคามจากอิทธิพลใดๆ
วันที่ 18 พฤศจิกายน นายจตุพร บุรุษพัฒน์ เปิดเผยว่า
สำนักงานปลัด ทส.ได้รับหนังสือจากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ขอให้พิจารณาย้ายนายชัยวัฒน์ไปเป็น ผอ.สำนักงานทรัพยากรจังหวัด (ทสจ.) ปัตตานี แทนคนเดิมที่ย้ายไปเป็น ผอ.ทสจ.ยะลา
นายจตุพรยืนยันเป็นการโยกย้ายตามวาระปกติ ไม่เกี่ยวกรณีดีเอสไอยื่นขอถอนประกันตัว อย่างไรก็ตาม คำสั่งย้ายครั้งนี้ ทำให้นายชัยวัฒน์พ้นหน้าที่ตัดขาดจากกรมอุทยานฯ ไปอยู่สังกัดสำนักงานปลัดกระทรวง
การย้ายนายชัยวัฒน์เป็น ผอ.ทสจ.ปัตตานี เกิดเสียงคัดค้านจาก ส.ส.และนักการเมือง 3 จังหวัดภาคใต้ว่าไม่เหมาะสม แม้รัฐธรรมนูญรับรองว่ายังเป็นผู้บริสุทธิ์ แต่ทำให้ประชาชนไม่สบายใจ กังวลใจและไม่ไว้วางใจ
“ขอให้นายกรัฐมนตรีลงมาดูแลเรื่องนี้ และขอให้ทบทวนคำสั่งโยกย้ายดังกล่าว เพราะคน 3 จังหวัดภาคใต้ก็ต้องการคนเก่ง คนดีที่ไม่มีปัญหามาทำงานในพื้นที่เช่นกัน” นายอันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี พรรคประชาธิปัตย์ระบุ
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ อดีต ผอ.ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) กล่าวว่า การย้ายนายชัยวัฒน์เป็น ผอ.ทสจ.ปัตตานี ไม่เป็นไปตามจารีตปฏิบัติในการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการไปในพื้นที่ 3 จังหวัด
ไม่คำนึงถึงความรู้สึกและความทุกข์ของประชาชนที่ต้องอยู่ในสถานการณ์ความไม่สงบ มีความรู้สึกถูกกดทับว่า 3 จังหวัดภาคใต้เป็นพื้นที่ลงโทษข้าราชการที่มีปัญหา และประชาชนไม่มีความหวังแก้ปัญหาขัดแย้ง ความไม่สงบในพื้นที่
ขณะที่นายชัยวัฒน์ ผู้ต้องหาคนสำคัญเริ่มตระหนักถึงสถานการณ์ที่ไม่ค่อยดีนัก ตัดสินใจปิดปากงดสัมภาษณ์สื่อทุกประเด็น
ถึงจะสายเกินไป ไม่ทำให้อะไรดีขึ้น แต่อาจช่วยให้สถานการณ์ไม่เลวร้ายไปกว่านี้
ดีเอสไอยื่นขอศาลพิจารณาเพิกถอนการปล่อยตัวชั่วคราวนายชัยวัฒน์ ถือเป็นอาฟเตอร์ช็อก
ศาลมีคำวินิจฉัยอย่างไรต่อพฤติการณ์ของผู้ต้องหาที่พยายามต่อสู้นอกกติกา
จับตาวันที่ 25 พฤศจิกายนนี้