ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 27 มกราคม - 2 กุมภาพันธ์ 2560 |
---|---|
คอลัมน์ | รักคนอ่าน |
เผยแพร่ |
วันก่อนฉันได้มีโอกาสกลับไปกินเกาเหลาเนื้อ ร้านที่พ่อเคยซื้อให้กินประจำ
ฉันไม่เคยรู้ด้วยซ้ำว่าร้านมันอยู่ตรงไหน ไม่เคยมาด้วยกันกับพ่อ ไม่เคยนั่งกินที่ร้าน ไม่รู้ว่าพ่อสั่งอะไรกลับไปให้
แต่วันไหนที่พ่อถามว่า “วันนี้กินเนื้อมั้ย” ก็หมายความว่าพวกเราจะได้กินเกาเหลาจากร้านนี้ เราก็จะนั่งรอให้พ่อกลับมา ซึ่งก็จะเป็นช่วงบ่ายแก่ๆ ในวันหยุด ในห้องครัวที่ระอุไอของแดด มีพัดลมเปิดเอื่อยๆ คลอกับเสียงเพลงจากวิทยุ
เมื่อมาถึง พ่อก็จะให้แกะเกาเหลาเทลงหม้อแล้วอุ่นบนเตา
ระหว่างที่พวกลูกๆ อุ่นเกาเหลา พ่อก็จะไปเปลี่ยนเป็นชุดอยู่บ้าน คือกางเกงยีนส์ขาสั้นกับเสื้อยืดเก่าๆ พ่อเคยบอกฉันว่าอุ่นกับข้าวในไมโครเวฟไม่อร่อย “ให้เกียรติของกินหน่อย”
พวกเราก็จะนั่งมองไขมันแผ่นเล็กๆ จากเนื้อ ค่อยๆ ละลายหายไปจนเหลือแต่น้ำซุปสีเข้มกับเนื้อชิ้นโตๆ จากนั้นพ่อก็จะเอาผักกาดหอมใส่ในชามแต่ละชาม แล้วตักเกาเหลาราดลงไป
การรอคอยพ่อที่จะเดินเข้ามาพร้อมถุงเกาเหลาเนื้อเป็นความทรงจำหนึ่งที่ประกอบขึ้นในลิ้นชักสมองของฉันที่แปะป้ายเอาไว้ว่าพ่อ
เกือบจะเป็นลิ้นชักที่ใหญ่ที่สุด และต่อขยายเชื่อมโยงกับอีกหลายความทรงจำ
อเบาท์ไทม์เป็นหนังประเภทที่ฉันตั้งใจจะไม่ดู แต่สุดท้ายก็จะได้ดูทุกทีในทางใดทางหนึ่ง ด้วยเหตุผลว่าเป็นคนไม่ชอบหนังรัก เพราะดูทีไรก็เศร้าใจเสียเปล่าๆ ว่าชีวิตคนในหนังมันช่างดีจัง ช่างมีคำตอบ ช่างโก๊ะกังแต่ยังน่ารัก
การหลบหนีโลกความจริงไปในหนังมันโหดร้ายเกินไปและฉันทนไม่ได้ที่จะดูชีวิตดีๆ ของผู้คนได้แค่ไม่เกิน 2 ชั่วโมง ก่อนจะออกมาจากโรงหนังและเผชิญกับชีวิตเดิมๆ ของตัวเอง
แต่อเบาท์ไทม์ที่ปะหน้าเป็นหนังรักด้วยรูปคู่จู๋จี๋ระหว่างพระเอกนางเอกบนปกดีวีดี กลับเล่าถึงหนุ่มคนหนึ่ง ที่ได้รับพรสวรรค์พิเศษที่ตกทอดผ่านเฉพาะผู้ชายในตระกูล คือการเดินทางย้อนเวลา
ภาพยนตร์เรื่องนี้เขียนบทและกำกับฯ โดย ริชาร์ด เคอร์ติส ซึ่งถือว่าเป็นมืออาชีพกับหนังแนวโรแมนติก คุณอาจเคยได้ดูผลงานของเขามาแล้ว Love Actually นั่นเขาก็เขียน หรือ Notting Hill นั่นก็ฝีมือเขาเช่นกัน
พล็อตก็ไม่ได้มีอะไรใหม่ ทั้งหนังรักหนังโหดก็ใช้เรื่องการย้อนเวลากันมากมาย
แต่พอดีหนังเรื่องนี้พูดถึงเรื่องพ่อ และการย้อนเวลากลับไปโดยรู้ว่าไม่อาจจะแก้ไขอะไรได้ แต่นั่นกลับทำให้เรื่องซ้ำๆ ในแต่ละวันนั้นมีความหมาย จุดเปลี่ยนและจุดประกอบความเป็นคนคนหนึ่งเริ่มมาจากอะไรเล็กๆ น้อยๆ ที่บางทีเราก็คิดเล่นๆ ว่าจะเกิดอะไรขึ้น…ถ้าเพียงแต่… ซึ่งเราก็ได้แต่คิดเล่นๆ ไปอย่างนั้น แล้วก้มหน้าก้มตาใช้ชีวิตในแต่ละวันซึ่งเป็นผลจากการตัดสินใจของเราต่อไป
ฉันดูหนังเรื่องนี้จบลงแบบน้ำตาอาบหน้า ฉากธรรมดาๆ ที่แม้แต่พระเอกยังบอกว่าทำมันซ้ำๆ มาทั้งชีวิตอย่างการไปดื่มชาพักผ่อนที่ริมทะเลกลับมีความหมาย
ฉันคิดถึงพ่อ คิดถึงแว่นตากันแดดที่พ่อใส่ทุกครั้งเวลาขับรถพาครอบครัวไปเที่ยวที่หัวหิน
คิดถึงกลิ่นครีมกันแดดที่พ่อเอามาทาหลังให้
คิดถึงไอติมกะทิใส่ลูกตาลเชื่อมที่แบ่งกันกินกับพ่อ
ทะเลไม่ได้มีความหมายแค่ทะเล
และอาหารก็ไม่ได้มีความหมายแค่อาหาร
บางที, การดื่มกินสิ่งที่อยู่ตรงหน้าในเวลาปัจจุบันก็ไม่สำคัญเท่ากับเราบันทึกมันอย่างไรในความทรงจำ
“About Time” (2013) Domhnall Gleeson / Rachel McAdams / Bill Nighy
Dir : Richard Curtis