สถานการณ์สินบน “โรลส์-รอยซ์” ยังค้างๆคาๆอยู่ สถานการณ์ดัช นี “ความโปร่งใส”ก็มาเยือน

เหมือนกับ “ผีซ้ำด้ำพลอย”

ขณะที่บางคนมองจากสำนวนโหราศาสตร์ก็ต้องว่า “พระศุกร์เข้า พระเสาร์แทรก”

แม้ว่า”โรลส์-รอยซ์”จะเป็นเรื่องตั้งแต่ปี 2534

ขณะที่ดัชนีว่าด้วย”ความโปร่งใส”อันจัดอันดับโดย”องค์การ ความโปร่งใสระหว่างประเทศ”จะระบุอย่างเด่นชัดยิ่งผ่าน “รายงานประจำปี 2559”

จะเข้าใจสำนวน”ผีซ้ำด้ำพลอย”จำเป็นต้องอ่านของเก่า

“ปีศาจร้ายกาจราวี ให้ภูมีประชวรกลับมา ทั้งอาเพศผีซ้ำด้ำพลอย  ดูเป็นริ้วดังรอยนขา”

จากบางท่อนในพระราชนิพนธ์เรื่อง”อิเหนา”

กระนั้น สำหรับบางคนกลับชวนให้นึกถึงสำนวนไทยโบราณที่ว่า

“ขว้างงูไม่พ้นคอ”

 

จะทำความเข้าใจกับสำนวน “ขว้างงูไม่พ้นคอ” จำเป็นต้องเข้าใจรากที่มาของเรื่องราว

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่อง”ความโปร่งใส”

หากไปศึกษาจากรายงานของ “องค์การความโปร่งใสระหว่าง ประเทศ”ก็จะเข้าใจในเหตุผลที่เขาลดคะแนนของประเทศไทย แลดลดอันดับของประเทศไทย

เขาอ้างอิงถึงสถานการณ์ “ประชามติ”

นั่นก็คือ ประชามติรับหรือไม่รับ”ร่างรัฐธรรมนูญ”เมื่อเดือนสิงหาคม 2559

ผลที่ปรากฏออกมาก็คือ “รับ”ผ่านฉลุย

ที่ทำให้คะแนน”ความโปร่งใส”ของประเทศไทยตกอย่างชนิดรูดมหาราชเพราะเขาเห็นว่า ดำเนินการอย่างไม่โปร่งใส เปิดให้แต่ฝ่าย”รับ” แต่กีดกันฝ่าย”ไม่รับ”

งู”ประชามติ”จึงพันไปถึง”ความโปร่งใส”

 

จากนี้จึงเห็นได้ว่า การกระทำแต่ละอย่างโดยเฉพาะอย่างยิ่งของประเทศ ของรัฐบาล มิได้เป็นเรื่องโดดๆ

ตรงกันข้าม มีความเกี่ยวพัน มีความสัมพันธ์

เหมือนกับกรณีของ “ประชามติ” กลายเป็นปัจจัยหนึ่งทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศ “ไม่โปร่งใส”

ผ่าน”ประชามติ”ก็จริง แต่ก็ผ่านอย่างมี “ปัญหา”

ที่คิดว่าฉลุย เรียบร้อยคสช.ไปตั้งแต่เมื่อเดือนสิงหาคม 2559 แต่พอมาถึงเดือนมกราคม 2560 กลับไม่

เข้าลักษณะ “ขว้างงูไม่พ้นคอ”

ยิ่งเมื่อนำเอา “โรลส์-รอยซ์”ไปวางเรียงเคียงกับ “ความโปร่ง ใส” ยิ่งเข้าลักษณะ “ผีซ้ำด้ำพลอย”

หรือจะเรียกว่า “พระศุกร์เข้า พระเสาร์แทรก”ก็ย่อมได้

หรือจะสรุปตามหลักความเชื่อตั้งแต่ยุคพราหมณ์กระทั่งพุทธก็ได้ว่า “กรรมใดใครก่อ”