มวยยกแรก หลังดูเชิงมา 5 ปี / ฉบับประจำวันที่ 19-25 กรกฎาคม 2562

หลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ เมื่อเย็นวันที่ 16 กรกฎาคม
พล.อ.ประยุทธ์ได้ประชุม ครม.นัดพิเศษทันที
ถือเป็นการ “สร้างภาพ” ติดเครื่องปุ๊บ เดินหน้าปั๊บ แบบไร้รอยต่อ
พร้อมประกาศ
บัดนี้ ประเทศไทยเข้าสู่ขั้นตอนของการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขภายใต้รัฐธรรมนูญโดยสมบูรณ์แล้ว
ปัญหาทุกอย่างจะได้รับการแก้ไขตามกฎเกณฑ์ปกติในระบอบประชาธิปไตย
โดยไม่มีอำนาจพิเศษใดๆ อีกต่อไป
ท่ามกลางคำถาม ว่าเป็นเช่นนั้น จริงหรือ
อย่างน้อยที่สุดการที่ พล.อ.ประยุทธ์นั่งควบรัฐมนตรีว่าการกหระทรวงกลาโหมเอง
ก็แจ่มชัดว่า ไม่ต้องการ “เท้าลอย”
ยังแนบแน่นกับเหล่าทัพ
ส่วนอำนาจพิเศษ ฝ่ายค้านได้ออกมาแฉแล้วว่า คสช.ได้วางกลไกไว้ตามหน่วยงานต่างๆอย่างไร
เพื่อที่จะเป็นเกราะป้องกันตัวเอง
พล.อ.ประยุทธ์คงไม่ฮึกเหิม ออกลุยศึกโดยปราศจาก อาวุธและ อำนาจ อย่างแน่นอน

พรรคร่วมฝ่ายค้านเองก็ประกาศเดินหน้าลุยรัฐบาลเต็มรูปแบบ
ทั้งนี้ จะใช้เรื่องนโยบายรัฐบาล วัดฝีมือ ซึ่งถ้าเปรียบเป็นมวยก็ถือเป็นมวย “ยกแรก”
โดยจะพิจารณาตามกรอบนโยบายของรัฐบาลทุกกรอบ
และจะให้ความสำคัญกับนโยบายทุกมิติ
นับตั้งแต่ คุณสมบัติของรัฐมนตรี ที่ต้องมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ละเรื่อยไปถึงรายละเอียดในแต่ละนโยบาย
โดยพุ่งเป้าไปยัง 14 รัฐมนตรี แน่นอนนำโดยพล.อ.ประยุทธ์

การอภิปรายเรื่องนโยบาย แม้เป็น “มวยยกแรก”
แต่ก็เป็นมวยยกแรกที่คาดว่าจะเข้าแลกหมัดกันเมามัน แบบที่ไม้ต้องออกลีลา หรือดูเชิงกันอีกแล้ว
ด้วย 5 ปีที่ผ่านมา ก็เห็นแล้วว่า แกนนำมีเชิงมวยอย่างไร
และที่ผ่านมาอาจจะโชว์ลีลาเหมือน “มวยดี” แต่เพราะขาดซึ่งคู่ชก ชกลมโชว์เฉยๆ
ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์แทบจะไม่เจอรอยขีดขูดจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติเลย
แต่คราวนี้ต้องเจอสภาผู้แทนราษฏร ซึ่งเป็นตัวแทนของชาวบ้านจริงๆ และออกลีลามวยจริงๆ
ก็ต้องติดตามดูว่า ที่โชว์ลีลามาตลอด 5 ปีนั้น เจอชกจริงเข้า
แล้วจะเอาตัวรอดไหม
——————–