ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 30 ธันวาคม 2559 - 5 มกราคม 2560 |
---|---|
คอลัมน์ | สุจิตต์ วงษ์เทศ |
เผยแพร่ |
คนตาย เพราะขวัญหายออกไปจากร่างของคน ต้องมีพิธีเรียกขวัญ ให้ขวัญคืนร่างแล้วคนจะฟื้นคืนเป็นปกติ
ถ้าขวัญหายอย่างถาวรก็เอาศพไปฝัง แต่ฝังอย่างรอขวัญคืนร่าง
1. เรียกขวัญ
จัดคนตายอยู่ในท่านั่ง
หมอขวัญ (เป็นหญิง) ขับลำเป็นทำนอง “ฮ้องขวัญ” (คือ เรียกขวัญ) ด้วยคำคล้องจอง ให้กลับเข้าร่างตามเดิม เนื้อหาเล่าเรื่องความเป็นมาต่างๆ ของเผ่าพันธุ์
เครือญาติทั้งชุมชนร่วมกันร้องรำทำเพลงดีดสีตีเป่าอึกทึกครึกโครมที่สุดให้ดังกึกก้องทั้งท้องไร่ท้องนาและป่าเขา เพราะเชื่อว่าขวัญจะกลับคืนร่างถูกทาง ตามเสียงที่ได้ยิน
2. ฝังศพนั่ง
มัดศพท่างอตัว เหมือนนั่งยองๆ บรรจุทั้งร่างในภาชนะดินเผาทรงกลม มีสิ่งของอุทิศขนาดเล็กๆ ใส่รวมด้วย มีฝาปิด ฝังดินแนวตั้ง
ภาชนะฝังศพ (หมายถึงเครื่องปั้นดินเผาใส่ร่าง หรือกระดูกคนตาย) มี 2 แบบ ได้แก่
(1.) ก้นกลมมน (เหมือนหม้อดินเผา) พบในอีสานไม่น้อยกว่า 3,000 ปีมาแล้ว
(2.) ทรงกระบอกยาว (เหมือนแคปซูล) พบมากทางทุ่งกุลาร้องไห้ในอีสาน ราว 2,500 ปีมาแล้ว
[มีรายละเอียดอีกมากในหนังสือ โบราณคดีในพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ โดย สุกัญญา เบาเนิด กรมศิลปากร พิมพ์ครั้งแรก พ.ศ.2553 หน้า 125-162]
นางสาวสุกัญญา เบาเนิด (นักโบราณคดีชำนาญการ สำนักศิลปากรที่ 11 อุบลราชธานี) อธิบายว่าภาชนะดินเผามีฝาใบนี้ อายุประมาณ 2,500 ปีมาแล้ว น่าจะเป็นของอุทิศฝังร่วมกับศพ ในแหล่งโบราณคดีบ้านเมืองบัว อ.เกษตรวิสัย จ.ร้อยเอ็ด และพบทั่วไปตามแหล่งโบราณคดีบริเวณลุ่มน้ำมูลตอนกลาง จนถึงปากน้ำมูล จ.อุบลราชธานี เช่น แหล่งโบราณคดีบ้านโนนแก, แหล่งโบราณคดีบ้านก้านเหลือง
นางสาวเมธินี จิระวัฒนา (นักโบราณคดีชำนาญการ กองโบราณคดี กรมศิลปากร) บอกเพิ่มเติม (เมื่อ 9 กรกฎาคม 2558) ว่าภาพนี้บันทึกจากแหล่งโบราณคดีบ้านเมืองบัว อ.เกษตรวิสัย จ.ร้อยเอ็ด ราว พ.ศ.2545 พบร่วมกับภาชนะดินเผาทรงสูง ก้นกลม ที่เรียกว่า “แคปซูล” ยังพบแบบคล้ายกันในที่อื่นอีก เช่น แหล่งโบราณคดีบ้านกระเบื้องนอก อ.ชุมพวง จ.นครราชสีมา