ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 7 - 13 มิถุนายน 2562 |
---|---|
คอลัมน์ | ยานยนต์ |
ผู้เขียน | สันติ จิรพรพนิต |
เผยแพร่ |
ยานยนต์ สุดสัปดาห์/สันติ จิรพรพนิต [email protected]
ทดสอบ ‘นิสสัน เทอร์ร่า’
‘พีพีวี’ เทคโนโลยีเหนือชั้น
หลังการเปิดตัว “นิสสัน เทอร์ร่า” เป็นน้องใหม่ในเซ็กเมนต์ “พีพีวี” หรือปิกอัพดัดแปลงในบ้านเราเมื่อราวๆ ไตรมาส 3 ปีที่แล้ว ถือว่ายอดขายพอไปวัดไปวาได้ มีรถวิ่งให้เห็นบนถนนบ้าง
นิสสันเชิญสื่อมวลชนไปทดสอบกันมาแล้ว ผมเองส่งทีมงาน “ข่าวสดยานยนต์” ไปร่วมขบวนทัพกับเข้าด้วย
จึงต้องรอทิ้งช่วงพักใหญ่ๆ กว่าจะยืมรถมาทดสอบด้วยตัวเองอีกรอบ
ที่ได้มาเป็นตัวท็อป “2.3VL 4WD 7AT” สีน้ำตาล “เอิร์ธบราวน์” (Earth Brown) สีซิกเนเจอร์ในการทำตลาด
พวงมาลัยพร้อมระบบมัลติฟังก์ชั่น มีปุ่มสตาร์ต-สต๊อป และตัวรับสัญญาณบริเวณมือจับด้านนอก กุญแจรีโมตอัจฉริยะ (Intelligent Key) เพิ่มความปลอดภัยด้วยระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer และระบบเตือนภัยแบบ VSS ทำให้ไม่ต้องควักกุญแจออกมากดรีโมตในการล็อก-ปลดล็อกประตู
เรียกว่าใส่กุญแจไว้ในกระเป๋านิ่งๆ ได้เลย
ขึ้นไปนั่งหลังพวงมาลัย ทัศนวิสัยแจ่มว้าวมากๆ แม้ขนาดตัวถังใหญ่บะละฮึ่ม แต่ด้วยความสูงของรถดูไม่อึดอัดมากนักเวลาขับขี่บนถนน และยังกะเก็งสถานการณ์ล่วงหน้าได้ดีกว่ารถเก๋งที่เตี้ยกว่า
อุปกรณ์ใช้งานต่างๆ อยู่ใกล้มือ
มาตรวัดแสดงข้อมูลการขับขี่อัจฉริยะแบบ 3 มิติ Multifunction Intelligent Display (MID) ที่แสดงผลข้อมูลการขับขี่ ระยะเวลาที่เข้ารับการตรวจสอบสภาพรถ ระดับอุณหภูมิภายนอกรถ นาฬิกาดิจิตอล เสียงเตือนในกรณีที่ไม่ได้ปิดไฟหน้า และสัญญาณเตือนกันการลืมกุญแจภายในรถ
มาตรวัดยังแสดงโหมดออฟโรด บอกข้อมูลการขับขี่ในโหมดขับเคลื่อนต่างๆ รวมถึงบอกองศาความลาดเอียงของตัวรถด้วย
ตรงกลางเป็นหน้าจอแบบทัชสกรีนขนาด 7 นิ้ว พร้อมระบบนำทาง เชื่อมต่อกับ USB / HDMI และลำโพง 6 จุด สามารถควบคุมระบบเสียงและโทรศัพท์ได้โดยตรงจากพวงมาลัยคนขับ
ระบบความบันเทิงมีทั้งวิทยุ เครื่องเล่น DVD และ MP3 พร้อมช่องใส่แผ่นดิสก์ 1 ช่อง
ระบบปรับอากาศกระจายความเย็นรอบทิศทางแบบ 360 องศา สามารถควบคุมความเร็วของพัดลมจากที่นั่งตอนหลังได้อีกด้วย
เบาะนั่งคู่หน้าสบายลงตัวแบบ Zero Gravity เบาะนั่งแถวที่ 2 นอกจากจะเข้าออกได้อย่างง่ายดายแล้ว ยังมาพร้อมระบบพับเบาะอัตโนมัติ ที่สามารถสั่งการได้จากตำแหน่งผู้ขับ แค่เพียงการกดที่ปุ่มเดียว มีที่วางแก้วน้ำครบทุกที่นั่ง
คันเกียร์จับกระชับมือ มีปุ่มปรับระบบขับเคลื่อนอยู่ใกล้ๆ
ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ 4×4 พร้อมระบบล็อกไฟฟ้า ฟังก์ชั่น shift-on-the-fly สามารถเปลี่ยนจากการขับขี่แบบสองล้อ เป็นระบบขับเคลื่อนสี่ล้อโดยไม่ต้องหยุดรถ
การทดสอบทริปนี้มีโอกาสได้ใช้บ้างเพราะเจอฝนเข้าพอดี อีกทั้งไม่ได้ไปลุยขึ้นเขาลงห้วยที่ไหน จึงอาศัยช่วงฝนตกนี่แหละลองใช้ ความรู้สึกตัวรถดูมั่นใจขึ้น
ช่วงการออกตัวต้องบอกว่ามีความอืดหน่อยๆ แต่ไม่ถึงกับทำให้อึดอัด แต่เมื่อไปที่ความเร็วกลาง-ปลาย ไหลลื่นได้ดีมาก
เสียงลมเข้ามาให้ห้องโดยสารน้อยมากครับ เนื่องจากใช้กระจกแบบ Acoustic glass ยิ่งบวกกับเครื่องเสียงที่ถือว่าไม่แย่ ทำให้การขับขี่สุนทรีย์มากขึ้น
แม้ “นิสสัน เทอร์ร่า” จะเป็นปิกอัพดัดแปลงมาจาก “นาวาร่า” แต่ออปชั่นต่างๆ ไม่แพ้เอสยูวีก็ว่าได้
แชสซีส์กับตัวรถใส่ยางรองตัวถังแบบซับแรงกว่า 10 จุด บวกกับระบบกันสะเทือนด้านหลังแบบ 5 Link ช่วยลดแรงสะเทือนและอาการโคลงของตัวรถที่ค่อนข้างสูงไปได้ดีทีเดียว
การเข้าโค้งแรงๆ มีเสียงยางบดกับถนนเอี๊ยดอ๊าดบ้าง แต่ตัวรถนิ่งไว้ใจได้
ที่ชอบไม่พ้นเทคโนโลยีต่างๆ ที่นิสสันจัดมาให้แบบหนักๆ ทั้งกระจกมองหลังอัจฉริยะ ติดตั้งหน้าจอ LCD ที่กระจกมองหลังในการแสดงภาพที่มาจากกล้องด้านหลังตัวรถ แต่ถ้าใครไม่ชิน ปรับใช้แบบกระจกปกติก็ได้
ข้อดีของระบบนี้กรณีบรรทุกของเต็มพื้นที่จนบดบังสายตาเวลามองกระจกหลัง ปรับไปใช้แบบกล้องได้เพิ่มความปลอดภัย
แน่นอน ที่ไม่พลาดคือกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง ช่วยให้เห็นสภาพรอบตัวรถ ด้วยการสร้างภาพมุมสูง
มาดูรูปร่างหน้าตากันบ้าง กระจังหน้าแบบ V-Motion เอกลักษณ์การออกแบบเฉพาะของนิสสัน ไฟหน้า LED ทรงบูมเมอแรง พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวัน ต่ำลงมาเป็นไฟตัดหมอก
ตัวถังด้านข้างตีโป่งที่ซุ้มล้อ ทำให้รถดูใหญ่โตมากขึ้น กระจกมองข้างติดตั้งไฟเลี้ยว
ไฟท้าย LED แบบ light guide
ล้ออัลลอยขนาดใหญ่ 18 นิ้ว
รูปทรงภายนอกดูบึกบึนมิติตัวรถ (กว้าง x ยาว x สูง) ความยาว 1,865 x 4,885 x 1,835 ม.ม. ระยะฐานล้อ 2,850 ม.ม.
ความสูงจากพื้นถึงใต้ท้องรถ 225 ม.ม. เรียกว่าลุยไหนลุยกันได้สบาย
ขณะที่ภายในกว้างขวาง และมีความบันเทิงให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสารที่จอติดเพดานด้วย
ส่วนขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซล YS23DDTT ทวินเทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ ความจุ 2,298 ซีซี กำลังสูงสุด 190 แรงม้า/3,750 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร/2,000 รอบต่อนาที
ความปลอดภัยอื่นๆ เช่น ระบบ Active Safety ที่ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ และแบบ Passive Safety ที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยของผู้โดยสารขณะเกิดอุบัติเหตุ อาทิ เทคโนโลยีตรวจจับและส่งสัญญาณเตือนวัตถุ และบุคคลที่เคลื่อนไหวจากกล้องรอบคัน เพิ่มความปลอดภัยยามที่ต้องการจอดรถ หรือการเคลื่อนตัวช้าๆ
เทคโนโลยีเตือนจุดบอดหรือจุดอับสายตาอัจฉริยะ จะทำงานเมื่อพบว่ามียานพาหนะอื่นเข้าใกล้ตัวรถในบริเวณจุดอับสายตา และแจ้งเตือนผู้ขับขี่ทั้งเสียงและสัญญาณไฟกะพริบที่กระจกมองข้าง
ถุงลมนิรภัย 6 จุด ที่ตำแหน่งด้านหน้า ด้านข้างของเบาะแถวหน้า และม่านถุงลม
เบรก Brake Limited Slip Differential (B-LSD) ช่วยเพิ่มแรงเบรกเมื่อล้อลื่นไถล ให้คุณขับขี่ได้อย่างมั่นใจในทุกสภาพถนน
ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี หรือ Traction Control System (TCS) เมื่อเกิดเหตุล้อหมุนฟรี ระบบจะทำการลดการจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงและเพิ่มแรงเบรกอัตโนมัติ
ระบบออกตัวบนทางลาดชัน หรือ Hill Start Assist (HSA) ช่วยป้องกันการไถลลงเมื่อขับขึ้นทางลาดชัน
ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน หรือ Hill Descent Control (HDC) ช่วยควบคุมความเร็วเมื่อขับลงทางลาดชัน
เทคโนโลยีตรวจสอบแรงดันลมยาง
ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) ระบบกระจายแรงเบรก (EBD) และระบบช่วยเบรก (Brake Assist System : BA)
ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว หรือ Vehicle Dynamic Control (VDC) ช่วยรักษาการทรงตัวเมื่อเข้าโค้ง หรือหักเลี้ยว
“นิสสัน เทอร์ร่า” มีให้เลือก 3 รุ่นย่อย ตัวท็อปที่นำมาทดสอบอยู่ที่ 1,457,000 บาท ถือว่าราคาดีทีเดียว ส่วนอีก 2 รุ่นที่เหลือราคา 1,316,000 บาท และ 1,349,000 บาท