“ดารา” และ “แฟนคลับ” นับเป็นของคู่กัน โดยดารานั้นจะโด่งดังเป็นที่รู้จักย่อมต้องมีแฟนคลับคอยสนับสนุน แต่ถ้าความรักความชอบมีมากเกินพอดีจนนำไปสู่พฤติกรรมแปลกๆ ก็อาจเป็นภัยคุกคามชีวิตคนดังได้เช่นกัน

“เคยเจอหลายรูปแบบมาก” ดีเจต้นหอม-ศกุลตลา เทียนไพโรจน์ ว่าถึงพฤติกรรมแปลกๆ ของแฟนคลับที่เคยเจอมา โดยหนักสุดเป็นกรณีที่ถูกบุกเข้ามาถึงห้องจัดรายการวิทยุเลยทีเดียว

“คือเขาก็ติดต่อมาหาหอมเรื่อยๆ ทางเฟซบุ๊ก แต่การติดต่อของเขาเนี่ย จะเป็นการคุยฝ่ายเดียว หอมก็ไม่เคยตอบกลับ เขาก็จะรายงานว่าเขาอยู่ไหน ทำอะไร บอกว่าเนี่ยเปลี่ยนเบอร์แล้วนะ โทร.มาด้วย เหมือนเราเป็นแฟน เหมือนเราสนิทกันเลย ซึ่งหอมก็ไม่เคยตอบกลับเลย เพราะว่าเราไม่รู้จัก”

“เขาก็มาหาหอมหลายครั้งแล้วแต่ไม่เจอ เขาก็จะเข้ามาในห้องจัด มานั่งรอ แล้วทุกคนก็จะตกใจว่าเขาคือใคร”

“พอดีวันนั้นหอมจัดแฉแต่เช้า มี บุ๊คโกะ (ธนัชพันธ์ บูรณาชีวาวิไล) หรือใครสักคนหอมจำไม่ได้ อีกคนหนึ่งจัดรายการอยู่ แล้วเขาก็เปิดประตูเข้ามาในห้องจัดเลย”

“แล้วทุกคนก็กำลังจัดรายการอยู่ พูดไปด้วยแล้วก็คอยมองเขาไปด้วย คืองงอะ เหมือนว่าเขามีช่อดอกไม้หรืออะไรสักอย่างในมือด้วย”

ซึ่ง “โชคดีว่ามีทีมงานนั่งอยู่มุมทางเดิน ทีมงานก็กั้นไว้ ก็ถามว่ามาหาใคร เขาก็บอกว่ามาหาต้นหอม แต่ทีนี้ทีมงานเคยมีประวัติของคนนี้ไว้ ว่าคนนี้เคยบุกเข้ามาแล้ว ก็เลยให้กลับไปก่อน”

“กลัวนะ” ต้นหอมสารภาพ

แล้วว่า “เพราะเขาก็เคยเอาของมาฝากให้หอม แล้ววันนึงเขาก็มาทวงคืน แต่ของที่ให้หอมก็ไม่ได้รับ”

เมื่อเกิดเรื่องราวดังนั้น ทางตึกจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จึงสร้างมาตรการให้ผู้มาติดต่อแลกบัตรทุกครั้ง หากเป็นแฟนคลับก็ให้รออยู่ที่ด้านล่างเท่านั้น เพื่อความปลอดภัยของศิลปินและพนักงาน

ขณะที่ หนึ่ง อีทีซี – อภิวัฒน์ พงษ์วาท แม้จะเป็นผู้ชายแต่ก็ไม่วายเจอพฤติกรรมสุดแปลกเช่นกัน

“เขาเป็นผู้หญิงครับ ตอนแรกเราก็รู้จักเขาปกตินี่แหละ เราก็คิดว่าเขาเป็นคนที่ดูดวงแม่น เหมือนมีสัมผัสที่ 6 ซึ่งเขาก็จะมาทักเราเรื่องโชคชะตา หลายเรื่องมันก็ตรง แต่หลังๆ เริ่มทักแปลกๆ”

“ประมาณว่าตอนนี้คุณกำลังมีเคราะห์นะ แต่การที่จะให้เคราะห์นั้นหายไป ต้องมีคนนึงยอมเสียพรหมจรรย์ให้กับคุณ”

“เขาก็พูดอ้อมๆ มาหลายครั้ง จนสุดท้ายเขาบอกว่า เขานี่แหละจะเสียสละพรหมจรรย์ให้”

ฟังเท่านั้น หนึ่งบอก “ก็หนีเลยครับ ตัดบท พยายามไม่คุย”

แม้ปัจจุบันนี้จะไม่ได้เจอกันแล้ว แต่เหตุการณ์แบบนี้ก็ทำให้เสียความรู้สึก

“เพราะเรารู้สึกดีกับเขาว่าเป็นแฟนคลับที่น่ารัก เป็นแฟนเพลงที่มาให้กำลังใจ เวลาจะหักความสัมพันธ์ก็ลำบากใจเหมือนกัน”

“ต้องพูดเลี่ยงๆ ไปบอกไม่ได้ว่าอย่ามายุ่ง คุณบ้า ค่อยๆ เฟดตัวออกไปดีกว่า”

เช่นเดียวกับ โดม เดอะสตาร์ – จารุวัฒน์ เชี่ยวอร่าม ที่เจอแฟนคลับคอยตามไปทุกที่

“เขาไม่ได้ตามในเชิงเป็นแฟนคลับ ไม่ได้อยู่ในแก๊งแฟนคลับด้วย ซึ่งถ้ามาเป็นแก๊งก็พูดคุยกันได้”

“แต่อันนี้แยกตัวออกไป แล้วคอยยืนมอง คอยตามรอย ตามเงา โบกมือบ๊ายบายเบาๆ”

ซึ่งทุกครั้งที่เจออะไรแปลกๆ เขาก็เลือกจะไม่สนใจ “ถ้าเรายิ่งไปให้ความสำคัญเขาก็ยิ่งทำแบบนั้นไปอีก สิ่งที่ทำได้คือเพิกเฉย จริงๆ อาจไม่มีอะไรก็ได้ แต่เราระวังตัวไว้ก่อนดีกว่า”

ด้านนักร้องสาวเสียงทรงพลังอย่าง แก้ม – วิชญาณี เปียกลิ่น ก็เล่าว่าเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ตั้งแต่ยังไม่เป็นเดอะสตาร์เลยด้วยซ้ำ

“ตอนนั้นเราเป็นนักร้องโรงเรียนของวงที่ภูเก็ต เวลาเราไปไหนมาไหนเขาก็ขับมอเตอร์ไซค์ตามข้างๆ เลย เรียกร้องความสนใจทุกงาน ตามไปที่บ้าน โทร.ไปที่บ้าน”

แม้จะรู้สึกกลัว แต่เธอเลือกที่จะ “นิ่งเฉย” ไว้ดีที่สุด

“สำหรับเราเข้าใจว่า การชื่นชมชื่นชอบมีเลเวลแต่ละคนไม่เท่ากัน ถ้าเขาชื่นชมที่ผลงานเราจริงๆ มันไม่น่าเกิดอะไรแบบนี้ เพราะการที่คุณให้กำลังใจเรา จริงๆ เป็นสิ่งที่ดีนะ แต่ว่าตัวเราเองให้ได้เท่านั้นก็ไม่สามารถให้ได้มากกว่านั้น”

ซึ่ง “ไม่น่าเชื่อนะคะว่าดิฉันจะผ่านเหตุการณ์แบบนั้นมาได้ รู้สึกสวย” แก้มบอกพลางหัวเราะ

ส่วน นัน – สุนันทา ยูรนิยม ที่แม้จะไม่ได้เป็นผู้หญิงหวานๆ แต่ก็ต้องพบกับแฟนคลับสุดแปลก

“มีน้องอยู่คนนึง เขาก็ไปโพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัวของเขา ว่าเราเป็นแฟนเขา คือเขาก็จะคิดเอง ว่าสุดท้ายเราก็ทิ้งเขาไป เขาอกหัก คิดไปเอง ไปไกลมาก”

“แล้วก็มีคนเอามาให้อ่าน เราก็ตกใจ รู้สึกว่าน่ากลัวจังเลย เป็นสังคมที่รู้หน้าไม่รู้ใจ เพราะน้องก็ดูเหมือนจะปกติดี แต่ไม่รู้ทำไมถึงใช้วิธีนี้ในการเรียกร้องความสนใจ แต่เราก็ใช้วิธีเพิกเฉยมันน่าจะดีที่สุด เพราะการเรียกร้องความสนใจ ถ้าเราให้ก็จะเป็นการตอบรับสิ่งที่เขาทำ ก็เลยตัดไปดีกว่า”

อย่างไรก็ตาม เธอว่า “จริงๆ เราก็จะระวังตัวพอสมควร”

“เรามีสเปซกับแฟนคลับ ถ้าแฟนคลับที่ดีเราก็ค่อนข้างใกล้ชิด แต่ถ้าคนไหนที่เขาไม่ได้หวังดีกับเราหรือเขาหวังอย่างอื่นจากเรา เราก็ขออนุญาตห่างๆ ดีกว่า เพื่อเป็นการป้องกันตัวด้วย เพราะเราไม่รู้ว่าเขาหวังอะไร ก็ต้องระวังตัวเพราะว่าไม่คุ้มที่จะเสี่ยงกับอะไรแบบนี้”

ดังนั้น สาวเจ้าจึงฝากถึงเพื่อนร่วมอาชีพว่า “ต้องดูแลตัวเองร้อยเปอร์เซ็นต์เลยนะ”

“อย่างข่าวที่มีคนยิงนักร้องฝรั่ง อ่านแล้วก็รู้สึกเลยนะว่า ถ้าเราเดินๆ อยู่มีใครไม่พอใจเขาก็เอามีดแทงเราได้เลยนะ มีการ์ดแล้วไงต่อ มีคนดูแลแล้วไงต่อ ไม่มีใครรับผิดชอบชีวิตเราได้ดีเท่ากับตัวเราเอง ก็ต้องดูแลตัวเองให้ดี”

“เช่น การให้พื้นที่ระหว่างตัวเองกับแฟนคลับ ไม่ได้แปลว่าเราต้องห่างกับเขามากมาย ถ้าเรารู้จักกัน เราสนิทกันแล้ว อันนั้นเราเข้าใจได้ แต่กับใครก็ตามที่เพิ่งเคยเจอ ต้องพิจารณาและดูรายคนเลยว่าคนนี้เป็นยังไง”

นั่นไม่ใช่ว่าหยิ่งหรืออะไร แต่ทั้งหมดก็เพื่อ “ความปลอดภัย” ของตัวดาราเอง