ต่างประเทสอินโดจีน : กัมพูชากับกาสิโนเวิล์ดคลาส

ในทัศนะของนายกรัฐมนตรี สมเด็จฯ ฮุน เซน กาสิโนคือ “ความจำเป็น” สำหรับประเทศอย่างกัมพูชา

กาสิโนไม่เพียงเป็นแหล่งที่มาของการลงทุนจากต่างประเทศที่ “เป็นที่ต้องการอย่างยิ่ง” เท่านั้น ยังเป็นตัวดึงดูด “นักท่องเที่ยว” ผู้ต้องการแสวงหาความบันเทิงเริงรมย์ที่สำคัญอีกต่างหาก

ยิ่งกาสิโนมีมาก ยิ่ง “บันเทิง” มากขึ้น ยิ่งบันเทิงมากขึ้นเท่าใด กัมพูชายิ่ง “เป็นสุข” มากขึ้นเท่านั้น

นั่นคือแนวคิดที่มาของการออกใบอนุญาตให้จัดตั้งกาสิโนสถานแห่งแรกขึ้นในประเทศเมื่อปี 1994 ผู้ที่ได้รับใบอนุญาตดังกล่าวคือ ตันซรี ดร.เฉิน ลิป เกียง เจ้าพ่อกาสิโนพันล้านจากมาเลเซีย

กาสิโนระดับ “เวิร์ลด์คลาส” แห่งแรกของกัมพูชาคือ นากาเวิร์ลด์ พนมเปญ ได้ใบอนุญาต 70 ปี บวกกับเงื่อนไข “ผูกขาด” ห้ามมีคู่แข่งอื่นใดในรัศมี 200 กิโลเมตรภายในระยะเวลา 40 ปีแรก

“นากาเวิร์ลด์” บริหารงานในรูปบริษัท นากาคอร์ป. จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ได้รับอานิสงส์จากหลายสาขาของกาสิโนในกัมพูชา

จนทุกวันนี้ได้ชื่อว่าเป็นเครือข่ายกาสิโนที่ใหญ่ที่สุดในอาณาบริเวณอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงไปแล้ว

 

นับตั้งแต่ใบอนุญาตใบแรกเรื่อยมาจนถึงทุกวันนี้ กัมพูชาออกใบอนุญาตประกอบกิจการกาสิโนภายในประเทศแล้วมากถึง 105 ใบให้กับผู้ประกอบกิจการสถานพนันที่ถูกต้องตามกฎหมายรวม 48 ราย

มีตั้งแต่ระดับหรูหรา เทียบเคียงกับกาสิโนสถานระดับโลกในพนมเปญและแหล่งใหญ่ของบ่อนพนันถูกกฎหมายของประเทศอย่างสีหนุวิลล์ เรื่อยไปจนถึงกาสิโนขนาดย่อมที่ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ดตามแนวชายแดนกัมพูชา-ไทย และกัมพูชา-เวียดนาม

ตั้งแต่บ่อนพนันขนาดย่อมไม่กี่โต๊ะ สล็อตไม่กี่เครื่อง อย่างที่ปอยเปตและไพลิน สำหรับมือพนันจากไทย หรือบาเว็ต และกัมโพธ สำหรับนักพนันเวียดนาม ไปจนถึงนากาเวิร์ลด์ กาสิโนใหญ่ที่สุดของประเทศที่มีโต๊ะพนันถึง 600 โต๊ะ มีเครื่องเล่นพนันหยอดเหรียญอยู่มากกว่า 5,000 เครื่อง

กาสิโนกลายเป็นอุตสาหกรรมทำรายได้มหาศาลถึง 4,000 ล้านดอลลาร์ต่อปีให้กัมพูชา ที่เรียกเก็บภาษีจากการนี้ได้ปีละ 50 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 1,600 ล้านบาท

ทั้งๆ ที่โดยกฎหมายแล้ว ผู้ที่เข้าไปเล่นพนันในบ่อนถูกกฎหมายเหล่านี้คือคนต่างชาติเท่านั้น ห้ามขาดไม่ให้ชาวกัมพูชาที่เป็นคนท้องถิ่นเข้าไปเล่นพนันภายในกาสิโนสถานเหล่านี้

เพื่อให้รัฐบาลสามารถอ้างได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่า กาสิโนของพวกเขามีไว้เพื่อ “ปล้นคนรวย” เอามา “แจกคนจน”

รัฐบาลกัมพูชายังสามารถอ้างได้เต็มปากเต็มคำว่า กิจการกาสิโนดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เดินทางเข้ากัมพูชาเพิ่มขึ้นมากมายนัก

 

ในปี 2017 ที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเยือนกัมพูชามากขึ้น 12 เปอร์เซ็นต์ เป็น 5.6 ล้านคน ถ้านับเฉพาะที่ท่าอากาศยานนานาชาติพนมเปญเพียงจุดเดียว อัตราการเพิ่มยิ่งสูงขึ้นเป็น 21 เปอร์เซ็นต์ในช่วงเดียวกัน

จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มมากขึ้นสูงสุดคือนักท่องเที่ยวจากจีน เพิ่มสูงถึง 46 เปอร์เซ็นต์ เป็น 1.2 ล้านคนในปีเดียวกันนั้น คิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 22 เปอร์เซ็นต์ของนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมด

รองลงมาเป็นเวียดนาม เพิ่ม 15 เปอร์เซ็นต์ และลาว 9 เปอร์เซ็นต์

กระทรวงการท่องเที่ยวกัมพูชาตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่า ภายในปี 2020 จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติควรเพิ่มเป็นปีละ 7 ล้านคน นักท่องเที่ยวจากจีนควรเพิ่มเป็น 2 ล้านคนในปีนั้น

ด้วยเหตุนี้ ดะโต๊ะ ฉั่ว กิม เซียะห์ กรรมการผู้จัดการ อาร์จีบี อินเตอร์เนชั่นแนล ผู้ผลิตเครื่องเล่นพนันรวมทั้งให้บริการซ่อมบำรุงจากปีนัง ประเทศมาเลเซีย ถึงได้ออกปากว่า

ฮุน เซน ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุด หรือจำกัดการออกใบอนุญาตประกอบกิจการกาสิโนในกัมพูชาไว้แต่อย่างใดทั้งสิ้น

เพื่อให้ที่นี่กลายเป็นฮับของบ่อนพนันของภูมิภาคให้ได้นั่นเอง