กรองกระแส / คำตอบเลือกตั้ง เป็นระบอบเผด็จการกินได้ หรือประชาธิปไตยกินได้

กรองกระแส

คำตอบเลือกตั้ง

เป็นระบอบเผด็จการกินได้

หรือประชาธิปไตยกินได้

 

ยิ่งใกล้ถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2562 มากเพียงใด ยิ่งทำให้การปะทะระหว่าง “เผด็จการกินได้” กับ “ประชาธิปไตยกินได้” มีความคมชัดมากเพียงนั้น

อย่างน้อยก็มีพรรคการเมืองจำนวนหนึ่งชู “เผด็จการกินได้”

ความหมายก็คือ 1 ยกย่องความล้ำเลิศของรัฐประหาร 1 แสดงให้เห็นความจำเป็นที่จะต้องสืบทอดอำนาจของคณะรัฐประหาร และ 1 ทุกอย่างรวมศูนย์ไปที่การสนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป

ไม่เพียงแค่ 4 ปี หากแต่ทำท่าว่าอาจยาวนานยิ่งกว่านั้น

นั่นก็เห็นได้จากบทบาทของพรรคพลังประชารัฐ ประสานกับพรรครวมพลังประชาชาติไทย พรรคประชาชนปฏิรูป พรรคพลังธรรมใหม่

ขณะเดียวกันก็มีพรรคการเมืองจำนวนหนึ่งชู “ประชาธิปไตยกินได้”

ความหมายก็คือ 1 ไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหาร มองไม่เห็นความล้ำเลิศของรัฐประหาร มองเห็นแต่ทรุดโทรม 1 จึงไม่เห็นความจำเป็นที่จะยินยอมให้มีการสืบทอดอำนาจของคณะรัฐประหาร และไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีอีกต่อไป

จึงเรียกร้องให้ประชาชนสำแดงประชามติ ปฏิเสธผ่านการเลือกตั้ง

 

เผด็จการกินได้

ประชาธิปไตยกินได้

 

ไม่ว่าคำว่า “เผด็จการ” ไม่ว่า “ประชาธิปไตย” ไม่ว่าคำว่า “กินได้” อันเป็นคำขยาย มีความสัมพันธ์ต่อกันและกันอย่างแนบแน่น

คำว่า “เผด็จการ” คำว่า “ประชาธิปไตย” สะท้อนลักษณะทาง “การเมือง”

คำว่า “กินได้” สะท้อนลักษณะทาง “เศรษฐกิจ” สะท้อนชีวิตและความเป็นอยู่โดยพื้นฐานของประชาชน

คำขวัญ “เผด็จการกินได้” เมื่อเผชิญกับคำขวัญ “ประชาธิปไตยกินได้”

จึงไม่เพียงแต่สะท้อนถึงความสัมพันธ์ แอบอิงระหว่างเศรษฐกิจกับการเมือง หากแต่ยังสะท้อนถึงผลสะเทือนที่จะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอนระหว่างกระบวนการทางการเมือง กับกระบวนการทางเศรษฐกิจ ยากอย่างยิ่งที่จะแยกออกจากกัน

พรรคพลังประชารัฐ พรรครวมพลังประชาชาติไทย พรรคประชาชนปฏิรูป พรรคพลังธรรมใหม่ กำลังแสดงบทบาทให้เห็นว่า “เผด็จการกินได้” เป็นอย่างไร

โดยอ้างอิงจากความสำเร็จตลอดเกือบ 5 ปีภายหลังรัฐประหาร

ขณะเดียวกัน พรรคเพื่อไทย พรรคประชาชาติ พรรคอนาคตใหม่ พรรคไทยรักษาชาติ พรรคเพื่อชาติ กำลังพิสูจน์ให้เห็นว่า ตลอดเกือบ 5 ปีที่ผ่านมา สะท้อนความล้มเหลวของรัฐประหาร สะท้อนความล้มเหลวของเผด็จการ

และมีแต่การเลือกตั้ง และมีแต่ประชาธิปไตยเท่านั้นจึงจะทำให้ประชาชนรอดพ้นจากหายนะ เป็นประชาธิปไตยต่างหากที่ “กินได้” มิใช่เผด็จการ

 

ทางเลือกในการเลือกตั้ง

เผด็จการ ประชาธิปไตย

 

ตลอดเวลาหลังจากนี้เป็นต้นไป ประชาชนจึงเป็นเป้าหมายอย่างสำคัญที่จะต้องพบกับแต่ละการเคลื่อนไหวอันมาจาก 2 กลุ่มความคิดที่แตกต่างกันอย่างเกือบจะสิ้นเชิง

1 คือ กลุ่มที่เห็นชอบกับการรัฐประหาร ต้องการสถาปนาระบอบรัฐประหารขึ้น

1 คือ กลุ่มที่ไม่เห็นชอบกับการรัฐประหาร ต้องการสถาปนาระบอบประชาธิปไตยมาเป็นเครื่องมือในการทำลายระบอบรัฐประหาร

พรรคการเมืองจึงต้องมีความแจ่มชัดว่าจะเลือกเดินหนทางใด

ไม่ว่าพรรคการเมืองที่มีความแจ่มชัดแล้วอย่างพรรคพลังประชารัฐ พรรครวมพลังประชาชาติไทย พรรคประชาชนปฏิรูป พรรคพลังธรรมใหม่ ในด้านที่ยืนอยู่กับรัฐประหาร ยืนอยู่กับความสำเร็จของระบอบรัฐประหาร

ไม่ว่าพรรคการเมืองที่มีความแจ่มชัดแล้วอย่างพรรคเพื่อไทย พรรคประชาชาติ พรรคอนาคตใหม่ พรรคเพื่อชาติ ในด้านที่ยืนอยู่ตรงกันข้ามกับรัฐประหาร ยืนอยู่ตรงกันข้ามกับความล้มเหลวของระบอบรัฐประหาร

ไม่ว่าพรรคการเมืองที่ยังมีความไม่แจ่มชัดอย่างพรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคชาติพัฒนา จำเป็นต้องมีความแจ่มชัดว่าจะเลือกหนทางสายใด

ระหว่าง “เผด็จการกินได้” กับ “ประชาธิปไตยกินได้”

 

พรรค กลุ่ม การเมือง

สายตาประชาชน

 

การเลือกตั้งในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 จึงเป็นการเลือกตั้งที่สำคัญและทรงความหมายเป็นอย่างสูง ไม่ว่าต่อระบอบรัฐประหาร ไม่ว่าต่อระบอบประชาธิปไตย

เพราะจะเป็นวันแห่งการตัดสินใจ เลือกอนาคตของประเทศ

การเลือกอนาคตของประเทศวางอยู่บนพื้นฐานแห่งการตัดสินใจของประชาชนว่าจะเดินหน้าไปบนหนทางสายใด ไปบนหนทางที่มีความเชื่อว่า “เผด็จการกินได้” หรือเดินไปบนหนทางที่มีความเชื่อว่า “ประชาธิปไตยกินได้”

   วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 จะได้คำตอบ