จรัญ พงษ์จีน : ไม้ตายทางการเมือง จากคำสั่ง คสช.16/61 ถึงงัดคดีมาต่อรอง

จรัญ พงษ์จีน

ปี่กลองการเมืองยิ่งดังกระหึ่มมากเท่าไหร่ บรรดานักเลือกตั้งยิ่งคึกคักตื่นเต้นมากขึ้นเป็นลำดับ

มีทั้งวิ่งรอกเสนอตัวขอเป็นผู้สมัครกับพรรคการเมืองให้อลหม่าน

นักเลือกตั้งบางคนได้ข้อเสนอเด็ดๆ จากพรรคโดยตรงก็มี

ว่ากันว่า บางพรรคแบ่งเกรดนักเลือกตั้ง เอ บี ซี

เคยเป็น ส.ส. 2 สมัย ถือว่าเกรดเอ มีฐานเสียงแน่นแน่เอาไปเลย 8 หลัก

ตลาดการเมืองจึงมีบรรยากาศและสีสันฉูดฉาด

แต่พลัน คสช.ประกาศคำสั่งที่ 16/2561 นักเลือกตั้งถึงกับออกอาการสะดุด

พรรคการเมืองหลายพรรคเกิดภาวะเครียด เมื่อพิเคราะห์เจาะลึกคำสั่ง คสช.ฉบับนี้ เหมือนมียุทธการ “สลายฐานเสียง” ซ่อนเร้นอยู่ด้วย

เพราะเป็นคำสั่งที่เชื่อมโยงกับประกาศของคณะกรรมการการเลือกตั้ง 2 ฉบับ ชนิดที่เรียกว่าแนบเป็นเนื้อเดียวกัน

1. ประกาศว่าด้วยเรื่องจำนวนสมาชิก ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ที่แต่ละจังหวัดจะพึงมี และจำนวนเขตเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้งของแต่ละจังหวัด เผยแพร่ในราชกิจจานุเษกษา วันที่ 19 กันยายน 2561

2. ระเบียบ กกต.ว่าด้วยการแบ่งเขตเลือก ส.ส. พ.ศ.2561 เผยแพร่ในราชกิจจานุเบกษา วันที่ 18 กันยายน 2561

กล่าวคือ เมื่อเผยแพร่ในราชกิจจานุเบกษาแล้ว กกต.จะต้องพิจารณาระเบียบ กกต.ว่าด้วยการแบ่งเขตเลือกตั้ง

โดยเฉพาะระเบียบ กกต.ว่าด้วยการแบ่งเขตเลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ.2561 ในข้อ 7 ระบุว่า จังหวัดใดมี ส.ส.ได้เกิน 1 คน ให้แบ่งเขตจังหวัดออกเป็นเขตเลือกตั้งเท่าจำนวน ส.ส.ที่พึงมี ให้ผู้อำนวยการ กกต.พิจารณาแบ่งพื้นที่ของเขตเลือกตั้งแต่ละเขตให้ติดต่อกันและจัดให้มีจำนวนราษฎรในแต่ละเขตใกล้เคียงกัน

จังหวัดแบ่งเขตแต่ละจังหวัดใน 3 รูปแบบภายใน 14 วัน

ภายใน 10 วัน รับฟังความเห็นจากพรรคการเมืองและประชาชน

จากนั้นภายใน 3 วัน ผอ.กกต.จังหวัดประมวลความเห็นว่าจะปรับปรุงหรือไม่ รายงานต่อ กกต. เพื่อเลือกรูปแบบที่ดีที่สุดแล้วแบ่งเขตเลือกตั้งออกมา

กระบวนการทั้งหมดให้แล้วเสร็จใน 60 วัน

นั่นหมายถึง กกต.ต้องประกาศแบ่งเขตเลือกตั้งไม่เกินกลางเดือนพฤศจิกายน

แต่คำสั่ง คสช. 16/2561 โผล่เสียบกลางด้วยเป้าหมายยืดเวลา “กกต.” เคาะเขตเลือกตั้งได้นานขึ้น

เมื่อนักเลือกตั้งแห่รุมถล่มคำสั่งแทรกแซงของ คสช. “อิทธิพร บุญประคอง” ประธาน กกต.ยอมรับว่าพิจารณาแบ่งเขตเลือกตั้งเสร็จรอบแรกตั้งแต่วันที่ 5 พฤศจิกายน อยู่ระหว่างทบทวนความถูกต้องก่อนออกประกาศ บังเอิญมีปัญหาสุขภาพต้องไปผ่าตัดตา

การประกาศแบ่งเขตเลือกตั้งเลยสะดุด

เหตุผลของประธาน กกต. ทำให้พรรคการเมืองหลายพรรคฟังแล้วสะอึก เพราะคำสั่ง 16/2561 ไม่รู้ว่าจะส่งผลให้การประกาศแบ่งเขตเลือกตั้งออกมารูปแบบไหน

จะกระทบกับฐานเสียงที่อยู่ในมือหรือเปล่า

ถ้า กกต.แก้รูปแบบปรับ “ฐานเสียง” ใหม่ ให้อีกฝ่ายได้ประโยชน์ นั่นเท่ากับบีบบังคับนักเลือกตั้งให้อลหม่านอีกรอบ อาจถึงขั้นย้ายพรรคก่อนกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 11 ธันวาคม

เซียนการเมืองแอบกระซิบข้างหูว่า ยุทธการสลายฐานเสียง ช่างสอดรับกับประโยคเด็ดของ “สมศักดิ์ เทพสุทิน” แกนนำพรรคพลังประชารัฐที่ว่า “รัฐธรรมนูญฉบับนี้ดีไซน์มาเพื่อพวกเรา”

อะไรทำนองนั้น!

 

อีก 1 ยุทธการที่กำลังดังกระหึ่มในกระแสการเมืองยามนี้ หนีไม่พ้นคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าวและระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือจีทูจี ล็อต 2

อย่างที่รู้ๆ กัน คดีจำนำข้าวจีทูจี ล็อต 1 จบลงหลังศาลสั่งจำคุก “บุญทรง เตริยาภิรมย์” อดีต รมว.พาณิชย์และพวก 28 คน ตั้งแต่วันที่ 25 สิงหาคมปีที่แล้ว

“บุญทรง” อยู่ในคุก 1 ปีกับอีก 1 เดือนเศษๆ

จู่ๆ ปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ทนายความของ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” อดีตนายกฯ ซึ่งเป็นจำเลยคดีข้าวจีทูจี ล็อต 1 โผล่ขึ้นมาปูดว่ามีความพยายามจาก ป.ป.ช. บางคน หยิบคดีข้าวจีทูจีมาดำเนินคดีต่อ หวังกล่าวหาบุคคลเพิ่มเติมจากคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

แถมยังบอกว่า จำเลยบางรายที่ยอมซัดทอดนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และเครือญาติ จะกันไว้เป็นพยาน

เสียงร้องของทนาย “ยิ่งลักษณ์” ดังว่อนไม่กี่วันก็หายวูบไปในกระแสการเมืองซึ่งคุกรุ่นไปด้วยกลิ่นโชยของการเลือกตั้งที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ตอกย้ำว่าจะมีขึ้นในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ปีหน้า

กระทั่งเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนนี้เอง พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันท์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ให้สัมภาษณ์ว่า อดีต รมว.พาณิชย์นอนป่วยด้วยโรคหมอนรองกระดูกสันหลังอักเสบที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ ในวันที่ 27 พฤศจิกายน แพทย์โรงพยาบาลตำรวจนัดดูอาการเพื่อเตรียมผ่าตัด

ถัดมาอีกไม่กี่วัน พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช. ออกมาทะลวงเป้าคดีข้าวจีทูจี ล็อต 2 ว่า มีอนุกรรมการไต่สวน 2 ชุดร่วมไต่สวน พบมีผู้กระทำผิดเพิ่มขึ้น จึงเสนอเข้าบอร์ด ป.ป.ช.ให้มีมติไต่สวนเพิ่มเติมกับผู้ที่เกี่ยวข้อง

เซียนการเมืองกระซิบอีกครั้งว่า ให้จับตาดูดีๆ มติ ป.ป.ช.อาจโผล่ก่อนประกาศกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.

ถ้ายุทธการนี้เสร็จสมพร้อมชื่อ “เจ๊” คนดังในเครือญาติ “ชินวัตร” พ่วงในคดีข้าวจีทูจี ล็อต 2

นักเลือกตั้งที่ซบพรรคเพื่อไทย พรรคไทยรักษาชาติ และพรรคในเครือ มีสิทธิ์กระโดดหนีไปอยู่พรรคอื่นที่หนุนรัฐบาล “ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ก็เป็นได้