แรกเริ่มเดิมทีตั้งใจว่าอยากจะเปรียบเทียบรถครอบครัวขนาดเล็ก ซึ่งกำลังเป็นเทรนด์ฮิตในบ้านเราอีกเซ็กเมนต์หนึ่ง เพราะหลายค่ายนำรถมาเปิดตัวชิงลูกค้ากันสนุกเหลือเกิน

โดยเฉพาะการมาถึงของ “เซียนต้า” มินิเอ็มพีวี 7 ที่นั่งจากโตโยต้า

ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา

แต่เหลียวซ้ายและขวา หารถใกล้เคียงได้ยากเย็นเหลือเกิน

ที่(เคย)มีคือ “ฮอนด้า ฟรีด” ก็หยุดทำตลาดไปก่อนแล้ว ซึ่งยังไม่ชัดว่าปีหน้าฮอนด้า จะส่งฟรีด โมเดลใหม่ เข้ามาบู๊กับเซียนต้าหรือไม่

เนื่องจากทั้ง 2 รุ่นถือเป็นมวยถูกคู่จริงๆ

ทั้ง 2 รุ่นใช้พื้นฐานจากรถซิตี้คาร์เหมือนกัน โดยฟรีด ใช้แพลตฟอร์มเดียวกับ “แจ๊ซ” ส่วนเซียนต้า ใช้โครงสร้างเดียวกับ “วีออส”

ทั้งมีจุดเด่นที่ประตูผู้โดยสารตอนหลังเปิดสไลด์ข้างเหมือนกัน รวมถึงเป็นรถที่นำเข้าจากอินโดนีเซียเหมือนกันอีกต่างหาก

ฟรีด ทำตลาดในไทย 2 รุ่น แต่ยอดขายไม่เปรี้ยงปร้างมากนักเนื่องจากราคาที่ตั้งมาแม้เทียบกับออปชั่นจะสมน้ำสมเนื้อ แต่โดยรวมแล้วคนไทยส่วนใหญ่มองว่าแพงไปสักหน่อย

ท้ายที่สุด ฮอนด้า เทน้ำหนักให้รถกลุ่มเอสยูวี จัดมาแบบครบทุกตลาดในบ้านเรา

โดยตัวเล็กสุดที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อต้นปีที่ผ่านมาคือ “บีอาร์-วี” มียอดขายเดินได้สวยทีเดียว

ไหนๆ ก็ไหนๆ เมื่อไม่มีรถที่ใกล้เคียงกับเซียนต้า จึงถือโอกาสจับเจ้าบีอาร์-วี มาประดาบกันเสียเลย

และจริงๆ แล้วคู่นี้ถือว่าแตกต่างกันไม่มากนัก โดยเฉพาะราคาตัวท็อปห่างกันแค่ไม่กี่หมื่นบาทเท่านั้น

รวมทั้งยังเป็นรถที่เปิดตัวออกมาในปีเดียวกันด้วย

แม้เซียนต้าอาจจะได้เปรียบหน่อยๆ เพราะใช้พื้นฐานจากซิตี้คาร์ ขณะที่บีอาร์-วี ใช้พื้นฐานจากอีโคคาร์ รุ่น “บริโอ” แต่ก็ใช้เครื่องยนต์จากซีตี้คาร์ คือ แจ๊ซ และซิตี้

จริงๆ แล้วในตลาดยังมีรถครอบครัว 7 ที่นั่งขนาดเล็กที่น่าสนใจอีกรุ่นคือ “ซูซูกิ เออร์ติก้า” แต่เนื่องจากเปิดตัวออกมาพักใหญ่แล้ว อีกทั้งราคาตัวท็อปถูกกว่าหลักแสนบาท เครื่องยนต์ก็เล็กกว่า หากนำมาร่วมก๊วนด้วยอาจไม่เหมาะสมเท่าใดนัก

มาดูรูปลักษณ์ภายนอกก่อน “บีอาร์-วี” เป็นมินิเอสยูวี ที่แม้จะใช้พื้นฐานเดียวกับบริโอ และถือเป็นคู่แฝดคนละฝากับ “โมบิลิโอ” มินิเอ็มพีวีพื้นฐานจากบริโอเช่นกัน ที่ออกมาทำตลาดก่อนหน้านี้

แต่ภาพรวมไม่มีคราบของบริโอ ให้เห็นแม้แต่น้อย ต่างกับ “โมบิลิโอ” ที่มีกลิ่นอายของบริโอ อยู่หลายส่วน

รูปลักษณ์ออกแนวเอสยูวีหล่อๆ กระจังหน้าคาดโครเมียมขนาดใหญ่ ไฟหน้าโปรเจ็กเตอร์ทรงเรียวเล็กเชื่อมต่อกับกระจังหน้า ต่ำลงมาเป็นช่องไฟตัดหมอก

โป่งล้อพร้อมคิ้วสีดำเป็นชิ้นเดียวกับกันกระแทกใต้กันชนหน้า ซึ่งออกแบบให้มีมิติซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของรถเอสยูวี

ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว พร้อมยางขนาด 195/60

ชายล่างด้านข้างเป็นสีดำ เชื่อมระหว่างชายด้านหน้าและด้านหลังลื่นไหลเป็นเส้นเดียวกัน

ไฟท้ายแบบ C shape ด้านบนติดราวหลังคามาให้ด้วย

ส่วน “เซียนต้า” มีกระจังหน้าขนาดใหญ่สีดำพร้อมโลโก้ ต่ำลงมาเป็นช่องดักลมสีดำ มีเส้นสีดำเชื่อมชายล่างกับไฟหน้าแบบโปรเจ็กเตอร์ Bi-Beam LED พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวัน Daytime Running Lights แบบ LED

กระจกมองข้างพับ/ปรับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว

จุดเด่นไม่พ้นประตูผู้โดยสารตอนหลังสไลด์ข้างแบบอัตโนมัติ ปิดด้วยระบบไฟฟ้า สามารถเปิด-ปิดได้จากที่นั่งคนขับ

ประตูด้านท้ายขนาดใหญ่ โดยมีเส้นสายสีดำบริเวณชายล่างลากเชื่อมไปยังไฟท้ายทั้ง 2 ด้าน

 

ภายใน “เซียนต้า” เน้นโทนดำ คอนโซลหน้ามีแถบเส้นสีเงินพาดขวาง และแทรกไว้เป็นจุดๆ

มาตรวัดเรืองแสงแบบ Optitron จอแสดงข้อมูลขับขี่ MID (Multi-information display) แบบ TFT ขนาด 4.2 นิ้ว

พวงมาลัยไฟฟ้า พร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียง ตรงกลางเป็นจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว พร้อมเครื่องเล่น DVD/CD/MP3/WMA และแสดงภาพจากกล้องมองขณะถอยหลังด้วย

ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ ควบคุมอุณหภูมิแบบ Digital ระบบสตาร์ตอัจฉริยะ (Push Start) และระบบเปิดประตูอัจฉริยะ (Smart Entry) ที่เก็บของบริเวณคอนโซลหน้า พร้อมระบบรักษาความเย็น (Cool Box) เกียร์อัตโนมัติแบบขั้นบันได

เบาะนั่ง 3 แถว 7 ที่นั่ง เบาะ 2 แถวหลังพับได้หลากรูปแบบในจังหวะเดียว

เพดานเจาะช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง และมีจอ LED ขนาด 8 นิ้วฝังอยู่ด้วย (อุปกรณ์ตกแต่งพิเศษเพิ่มเติม)

ทุกที่นั่งจะเจาะช่องวางแก้ว-เก็บของเอาไว้เพื่อความสะดวก

ส่วน “บีอาร์-วี” พวงมาลัย 3 ก้านเหมือนรุ่นโมบิลิโอ ผ่อนแรงด้วยระบบไฟฟ้า มีปุ่มสตาร์ต ระบบล็อกประตูเมื่อรถทำความเร็ว

คอนโซลหน้าคล้ายคลึงกับซิตี้คาร์ของค่าย

มาตรวัดเรืองแสงสีขาว พร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ MID ไฟแสดงผลการขับขี่แบบประหยัด

ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ มีหน้าจอสัมผัสขนาด 6.1 นิ้ว ที่รองรับทั้งระบบ iOS และ Android สามารถเชื่อมต่อ HDMI ลำโพง 4 ตำแหน่ง

เครื่องเสียงพร้อมระบบเชื่อมต่อบลูทูธ ช่องเชื่อมต่อ “ยูเอสบี” และ “เอยูเอ็กซ์” พร้อมจอแสดงข้อมูลและภาพจากกล้องมองหลังขณะถอย

รถรุ่นนี้ใส่ที่วางแก้วน้ำถึง 11 จุด

เบาะ 7 ที่นั่งสามารถพับปรับเปลี่ยนได้หลายรูปแบบตามการใช้งาน

 

หัวใจของทั้ง 2 รุ่นเริ่มจาก “บีอาร์-วี” ใช้เครื่องยนต์บล็อกเดียวกับแจ๊ซ และซิตี้ แบบ SOHC 4 สูบ 16 วาล์ว i-VTEC ความจุ 1,497 ซีซี รองรับพลังงานทางเลือก E85

ให้กำลังสูงสุด 117 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 146 นิวตันเมตร

ทำงานคู่กับระบบเกียร์ CVT ใหม่ พัฒนาภายใต้เอิร์ธดรีมเทคโนโลยี

ช่วงล่างหน้าหน้าแม็กเฟอร์สันสตรัต พร้อมเหล็กกันโคลง ส่วนด้านหลัง ทอร์ชั่นบีม แบบ H-shape

ด้าน “เซียนต้า” ไม่น้อยหน้าใช้เครื่องยนต์เดียวกับ “วีออส” แต่เป็นบล็อกเก่าเติมเชื้อเพลิงสูงสุด E20 แบบ DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว DUAL VVT-i ความจุ 1,496 ซีซี กำลังสูงสุด 108 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 140 นิวตัน-เมตร

ระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT พร้อมระบบ Sport Sequential Shift 7 สปีด

ความปลอดภัยทั้ง 2 รุ่นมาครบครันเพียงพอต่อการใช้งาน

สนนราคาถือว่าเบียดกันมาเลย รุ่นท็อป “เซียนต้า” จัดไปที่ 865,000 บาท

ส่วน “บีอาร์-วี” 820,000 บาท

จะชอบรถครอบครัวผู้โดยสารเข้าออกสะดวกหน่อยแบบ “เซียนต้า” หรือรถยกสูงนิดๆ ลุยได้หน่อยๆ แบบ “บีอาร์-วี”

ลองตัดสินใจกันดูครับ