รู้ชีวิต…ด้วยดวงดาว / “ศ. ดุสิต”/วิธีดูไฝ-ปาน

รู้ชีวิต…ด้วยดวงดาว / “ศ. ดุสิต”

อ่านอนาคตของคุณไม่ยากหรอก…แค่รู้จักดาว 10 ดวงเท่านั้น!

เรื่องลึกในโหราศาสตร์ไทยชุด ‘คลังโหร’

 

วิธีดูไฝ-ปาน

 

ภาค ๑

วิธีดูไฝ-ปานในร่างกาย

 

เรื่องของไฝ-ปานหรือตำหนิในร่างกายคนเรานี้ มีอยู่ในตำราหลายเล่ม และบางเล่มก็แตกต่างกันไปตามแต่ทัศนะของผู้ที่มีประสบการณ์นั้น

ในระบบของโหราศาสตร์ไทยนี้ก็มีอยู่ ในตำรานรลักษณ์ศาสตร์ก็มีอยู่ ในตำราสรีรศาสตร์ไทยก็มีอยู่ และในตำราโหงวเฮ้งของจีนก็มีอยู่เช่นกัน ฯลฯ

ซึ่งก็ล้วนแล้วแต่มีคุณประโยชน์แก่ผู้ที่สนใจในเรื่องนี้ได้ทั้งนั้น

และผมก็จะได้นำเอาวิชาที่มีอยู่ในตำราต่างๆ เหล่านี้แหละมาเสนอแก่คุณผู้ที่สนใจ เนื่องจากเกิดมีผู้สนใจที่อยากจะรู้เรื่องนี้กันขึ้นมาหลายคน และมาขอให้ผมแบ่งปันความรู้ให้ด้วย

จึงเป็นเหตุให้ผมต้องมานั่งเรียบเรียงข้อความในตำราออกมาเพื่อที่คุณจะได้อ่านกันอย่างง่ายๆ ดังที่คุณจะได้อ่านต่อไปนี้แหละ

ที่แต่ก่อนมาผมไม่คิดจะเขียนเล่าเรื่องไฝ-ปานนี้ ก็เป็นเพราะผมเห็นว่าไอ้เรื่องตำหนิไฝปานนี่มันไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรนักหนากับชีวิตของคนเรา

จริงอยู่-มันมีความหมายของมันอยู่ในตัวของมันเอง แต่มันก็เป็นความหมายที่รู้แล้วก็ไม่เห็นจะได้ประโยชน์อะไรกับชีวิตเลย

เช่น รู้ว่ามีไฝตรงนี้ชีวิตจะเป็นอย่างนี้ ก็ไอ้แค่รู้เท่านั้น ชีวิตมันเป็นไปแล้วเพราะมันเกิดมาพร้อมกับตัวเรานี่นา

แต่เมื่อจะเล่าสู่กันฟังแล้วก็ต้องว่ากันไปตามวิสัยของผมที่ไม่ชอบทำอะไรแบบหยาบๆ จึงต้องแจงเรื่องราวให้ละเอียดอย่างที่คุณบางคนกำลังรำคาญอยู่นี่แหละ

และจะต้องรำคาญต่อไปเมื่อผมแจงเรื่องของไฝแต่ละเม็ดอีก (แต่คงแจงไม่หมดทุกเม็ดหรอกนะครับ เป็นเพราะแจงไม่ไหวน่ะ)

เอ้า-มาดูกันเลยว่า เราจะรู้จักว่าอะไรเป็นไฝอะไรเป็นปาน หรืออะไรเพียงแค่ตำหนิ นี่เป็นบทต้นของวิชานี้เลยครับ

 

ดูไฝ-ปานกันยังไง?

 

ผมจะแจงอย่างสั้นๆ เท่านั้นว่าไฝคือยังไง และปานคือยังไง…คือยังงี้ครับ

ไฝ… คือเนื้อที่นูนงอกพ้นผิวหนังขึ้นมา มีลักษณะเป็นเม็ด จะเป็นสีอะไรก็ได้ แดง, น้ำตาล, เขียวอ่อน หรือสีดำ กินเนื้อที่ไม่มากนัก เรียกว่าเม็ดไฝ

ปาน…  คือเนื้อเยื่อที่นูนขึ้นจากระดับผิวหนังแล้วแผ่เป็นแผ่นไปบนผิวหนังนั้น มีลักษณะราบเรียบ ไม่เป็นเม็ดเหมือนไฝ เป็นผิวราบไปกับผิวหนัง กินเนื้อที่มากกว่าไฝ มีทั้งปานแผ่นเล็ก ขนาดแค่ ซ.ม.เดียวก็มี หรือเป็นแผ่นผืนใหญ่กว้างเป็นคืบเป็นศอกก็ยังมี เรียกว่าแผ่นปาน

ทั้งไฝและปาน อาจมีขนขึ้นที่บริเวณนั้นก็ได้ แต่ส่วนใหญ่มักไม่มีขน ไฝและปานที่มีขนขึ้น จะมีคุณลักษณะพิเศษเกิดขึ้นด้วย จะให้คุณหรือโทษก็แล้วแต่ว่าไฝปานนั้นสถิตอยู่ที่ใดของร่างกาย มีขนาดและคุณภาพของเม็ดไฝและแผ่นปานเป็นอย่างไร (จะแจงเรื่องนี้ในตอนหลัง)

ตอนนี้มารู้จักกับที่มาที่ไปของไฝ-ปานกันก่อนดีกว่า

 

ดูไฝ-ปานในดวงจักรราศี

 

ก่อนอื่นขอทำความรู้จักเกี่ยวกับราศีและอวัยวะต่างๆ ของร่างกายก่อน

  1. ราศีบอกส่วนของร่างกาย

เมษ – ศีรษะและใบหน้า

พฤษภ – คอ

มิถุน – บ่า แขน มือ

กรกฎ – ทรวงอก บริเวณทรวงอก

สิงห์ – หลัง และสันหลัง

กันย์ – สะดือ และท้องน้อย

ตุล – บั้นเอว ส่วนของหน้าท้อง

พิจิก – อวัยวะเพศ บริเวณของอวัยวะเพศ

ธนู – สะโพก และโคนขา

มังกร – เข่า และตอนเหนือหัวเข่า

กุมภ์ – น่อง และตอนใต้เข่า

มีน – เท้า และนิ้วเท้า

นอกจากการอ่านโดยราศีอย่างที่เห็นนี้แล้ว เรายังสามารถใช้ราศีที่วางลัคนาเป็นศีรษะ และนับราศีต่อมาเรื่อยไปก็ได้เช่นกัน (แต่ต้องคำนึงถึงภาวะในการใช้ว่าถ้าราศีทั่งสองมีความขัดแย้งกันขึ้นมา คุณจะตัดสินใช้ส่วนไหนหรือใช้ความหมายนั้นไปในทางใด ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้พยากรณ์เอง)

  1. ตรียางค์บอกส่วนต่างๆ ของร่างกาย

ร่างกายแบ่งออกเป็นสามส่วนคือ…

(ก) ลัคนาเสวยปฐมตรียางค์ ให้พิจารณาที่ศีรษะ นัยน์ตา หู จมูก ขมับ แก้ม และหน้า

(ข) ลัคนาเสวยทุติยตรียางค์ ให้พิจารณาคอ บ่า แขน สีข้าง อก ท้อง และสะดือ

(ค) ลัคนาเสวยตติยตรียางค์ ให้พิจารณาท้องน้อย อวัยวะเพศ ทวารหนัก อัณฑะ ต้นขา เข่า และเท้า

ส่วนต่างๆ ดังกล่าวนี้ให้พิจารณาถึงตำหนิ แผลเป็น ไฝปาน ความไม่สมบูรณ์ หรือส่วนที่ไม่สมประกอบของอวัยวะต่างๆ โดยให้ถือเอาที่ตรียางค์กำเนิดเป็นจุดหลัก

ราศีข้างขวาของลัคน์ เป็น อวัยวะข้างขวา

ราศีข้างซ้ายของลัคน์ เป็น อวัยวะข้างซ้าย

โศลกที่ ๒๕ ของพฤหัตชาดกระบุว่า ถ้าราศีเหล่านี้มีบาปเคราะห์สถิต จะมีแผลเป็นหรือรอยแผลเป็น หรือแผลที่มีความเจ็บปวด

ทั้งนี้ ถ้ามีศุภเคราะห์สถิต หรือเป็นโยคจะมีแค่ตำหนิแทน

แผล-ตำหนิที่เกิดจากดาวเคราะห์

ถ้าดาวเคราะห์ที่เป็นเหตุให้เป็นรอยแผล หรือเป็นตำหนิ ฯลฯ อยู่ในเรือนของตัวเอง หรือเสวยนวางค์ของตัวเอง หรืออยู่ในราศีสถิระ หรือเกาะนวางค์สถิระ แผลหรือตำหนิ ฯลฯ นั้นจะมีเป็นมาตั้งแต่เกิด

ถ้าดาวเคราะห์นั้นไม่อยู่ในฐานะดังกล่าวแล้ว ก็จะมีขึ้นในภายหลัง จากอุบัติเหตุ (คือจะมีหลังจากที่เกิดมาแล้ว)

ถ้าดาวเคราะห์นั้นเป็นดาวเสาร์ จะเป็นแผลเพราะถูกก้อนดิน ก้อนหิน หรือเพราะเป็นโรคจากสมุหฐานลม

ถ้าเป็นดาวอังคารเกิดจากไฟ อาวุธที่มีคม หรือสิ่งที่เป็นพิษ

ถ้าเป็นดาวพุธเพราะก้อนดินหรือพื้นดิน

ถ้าเป็นอาทิตย์เกิดเพราะไม้ หรือจากสัตว์ 4 เท้า

ถ้าเป็นจันทร์เกิดจากสัตว์มีเขา หรือจากสัตว์น้ำ เช่น ปลาปักเป้า เป็นต้น

ถ้าเป็นดาวเคราะห์อื่นจะไม่มีแผล

ถ้าดาวพุธร่วมกับอีกสามดาวเคราะห์ (บาปเคราะห์) อวัยวะซึ่งแสดงโดยเรือนนั้น ส่วนที่เป็นตำหนิ จะมีรอยแผลหรือรอยตำหนิ (ตามลักษณะดาวที่เข้มแข็งที่สุดในกลุ่มนั้น[ก็ในกลุ่มสามดวงนั่นแหละ])

บาปเคราะห์อยู่ในเรือนที่ ๖ จะเป็นเหตุให้เป็นแผลตามความหมายของราศีนั้นซึ่งเป็นเจ้าการ

  1. สีของไฝ, ปาน

ดาวศุภเคราะห์, ศรีตามทักษา = สีแดง

ดาวบาปเคราะห์, กาลีตามทักษา = สีดำ

  1. คุณภาพของไฝ-ปาน

ตรงนี้แหละครับที่เป็นจุดสำคัญยิ่งจุดหนึ่งในการที่จะดูไฝ-ปานกัน การดูคุณภาพของไฝปานนั้นเราดูกันที่เนื้อของไฝและปานครับ ดูว่ายังไง?

ดูว่าเนื้อของไฝปานนั้นมีความหยาบหรือเป็นเนื้อที่ละเอียดอ่อนนุ่ม เอาเพียงแค่ดูเนื้อเป็น ก็ทายไฝปานได้อย่างหนึ่งแล้ว คุณภาพที่ดีของไฝปานคือมีเนื้อที่ละเอียดครับ ยิ่งทั้งเนื้อดีและสีดีด้วยก็นับว่าชั้นเลิศไปเลย ไฝปานที่ดีมีคุณภาพจะส่งอานุภาพที่ทำให้ชีวิตของผู้เป็นเจ้าของไฝปานนั้นรุ่งเรืองหรือตกต่ำได้อย่างแน่นอน สีที่ดีอันเป็นที่นิยมกันนั้นคือสีแดง, ชมพู หรือเขียวอ่อน

แล้วถ้าเนื้อดีแต่สีไม่ดีล่ะ อย่างไฝหรือปานเนื้อละเอียดแต่สีดำ อย่างนี้จะให้คุณหรือให้โทษกันแน่…อยากรู้ไหมครับ ถ้าอยากรู้ก็ต้องติดตามกันต่อในฉบับหน้านะครับ