โดนัลด์ ทรัมป์ กับยูเอสเอ็มซีเอ ทำให้ “อเมริกาเป็นมหาอำนาจด้านการผลิต” อีกครั้ง

สหรัฐอเมริกา แคนาดา และเม็กซิโก บรรลุข้อตกลงด้านการค้าฉบับปรับปรุงใหม่ที่อาจนำมาใช้แทนความตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ หรือนาฟต้าในนาทีสุดท้าย

เรียกว่าความตกลงสหรัฐ-เม็กซิโก-แคนาดา หรือยูเอสเอ็มซีเอ

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐยกย่องยูเอสเอ็มซีเอ ว่าเป็นข้อตกลงประวัติศาสตร์ที่จะเปลี่ยนทวีปอเมริกาเหนือให้กลับมาเป็น “มหาอำนาจด้านการผลิต” อีกครั้ง และจุดชนวนให้เกิดการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ

ทรัมป์กล่าวในการแถลงข่าวที่ทำเนียบขาวว่า ข้อตกลงยูเอสเอ็มซีเอที่ครอบคลุมมูลค่าทางการค้าเกือบ 1,200 ล้านล้านดอลลาร์ “ถือเป็นความตกลงทางการค้าที่สำคัญที่สุดที่เราเคยทำมาจนถึงขณะนี้”

ข้อตกลงฉบับนี้ได้รับการประกาศครั้งแรกเมื่อคืนวันที่ 30 กันยายน ก่อนหน้ากำหนดเส้นตายในเวลาเที่ยงคืนอย่างเฉียดฉิว เป็นการยุติช่วงเวลามากกว่า 1 ปีของการเจรจาอันตึงเครียดซึ่งจุดชนวนโดยการตัดสินใจของทรัมป์ที่จะฉีกข้อตกลงนาฟต้าซึ่งใช้มานานถึงเกือบ 25 ปีทิ้ง

การฉีกข้อตกลงทางการค้าที่ใช้มานานของสหรัฐกับทุกประเทศนับตั้งแต่แคนาดา เม็กซิโก ไปจนถึงจีนและสหภาพยุโรป (อียู) ได้สร้างความสั่นสะท้านให้กับบรรดาผู้นำโลกและจุดชนวนให้เกิดความกลัวว่าเศรษฐกิจจะยุ่งเหยิงวุ่นวาย

แต่ในการแถลงข่าวอย่างเบิกบานที่สวนโรสการ์เด้นในทำเนียบขาว ทรัมป์กล่าวว่าการใช้กำแพงภาษีที่แข็งกร้าวบีบบังคับให้หลายๆ ประเทศเจรจาข้อตกลงการค้าที่ไม่เป็นธรรมใหม่ ถือเป็นการปกป้องสิทธิของสหรัฐที่สามารถทำได้

“สหรัฐสูญเสียเงินไปกับข้อตกลงการค้าต่างๆ โดยเฉลี่ยปีละเกือบ 800,000 ล้านดอลลาร์ ในนี้เป็นข้อตกลงกับจีน ข้อตกลงกับอียู ข้อตกลงกับทุกประเทศ ญี่ปุ่น เม็กซิโก แคนาดาและทุกๆ ประเทศ” นายทรัมป์กล่าว

และว่า “เราจะไม่ยอมให้เรื่องนั้นเกิดขึ้น”

นักวิเคราะห์ระบุว่า ยูเอสเอ็มซีเอคล้ายคลึงกับนาฟต้าในหลายๆ แง่มุม แต่มีการปรับปรุงการเข้าถึงสินค้าเกษตรกรรมของสหรัฐให้ดีขึ้นซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับนมที่แคนาดาพยายามจำกัดโดยเฉพาะเจาะจง

กฎระเบียบใหม่ออกแบบมาเพื่อปรับปรุงขีดความสามารถในการแข่งขันของแรงงานผลิตรถยนต์ของสหรัฐให้ดีขึ้น โดย 40-45 เปอร์เซ็นต์ของรถยนต์แต่ละคันจำเป็นต้องผลิตโดยคนงานที่มีรายได้มากกว่า 16 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง นอกจากนี้ 75 เปอร์เซ็นต์ของชิ้นส่วนรถยนต์จำเป็นต้องได้รับการผลิตขึ้นในแคนาดา เม็กซิโกหรือสหรัฐ มากกว่าข้อกำหนดเดิมที่ระบุไว้ในนาฟต้า 12 เปอร์เซ็นต์

นอกจากนี้ ข้อตกลงใหม่ยังกำหนดให้มีการผลิตชิ้นส่วนรถยนต์มากขึ้นในทวีปอเมริกาเหนือหากต้องการหลีกเลี่ยงกำแพงภาษี

 

ทรัมป์กล่าวกับกลุ่มผู้สนับสนุนในรัฐเทนเนสซีว่า ข้อตกลงใหม่หมายความว่า “อเมริกาชนะอีกครั้งและอเมริกาจะได้รับความเคารพนับถืออีกครั้ง เพราะในท้ายที่สุดแล้วเราให้อเมริกามาเป็นอันดับแรก”

“ข้อตกลงนี้จะเปลี่ยนแปลงทวีปอเมริกาเหนือให้กลับมาเป็นมหาอำนาจด้านการผลิตอีกครั้ง” นายทรัมป์กล่าว และว่า “ยูเอสเอ็มซีเอจะทำให้เราได้ห่วงโซ่การผลิตที่ถูกนำออกนอกประเทศไปกลับมาอีกครั้งจากข้อตกลงการค้าที่ไม่เป็นธรรม”

ความตกลงใหม่ยังระบุถึงประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้นมาตลอด 25 ปี ยกตัวอย่างเช่น มีการระบุโทษของการละเมิดลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ผ่านทางออนไลน์ นอกจากนี้ ยังมีการห้ามเก็บภาษีเพลง หนังสือ ซอฟต์แวร์และวิดีโอเกมที่จัดจำหน่ายผ่านทางออนไลน์

อันเดรส มานูเอล โลเปซ โอบราดอร์ ว่าที่ประธานาธิบดีเม็กซิโกยินดีกับข้อตกลงฉบับใหม่ โดยข้อตกลงยังคงต้องผ่านการลงมติรับรองของวุฒิสภาเม็กซิโก

ขณะที่นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด ของแคนาดาที่เผชิญความโกรธเคืองจากชาวนาผลิตภัณฑ์นม เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า โดยรวมแล้วข้อตกลงจะ “ส่งผลประโยชน์ให้กับเศรษฐกิจของเราอย่างลึกล้ำ” และ “เป็นการปฏิรูปที่ก้าวหน้าที่สุดสำหรับแรงงานอเมริกาเหนือในยุคสมัยนี้”

หรือนี่จะนับเป็นความสำเร็จอีกก้าวของโดนัลด์ ทรัมป์ ในการ “ทำให้อเมริกากลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง?”