คุยกับ “บอ.บู๋” บอลโลกหนนี้ ทีมใดมีโอกาสคว้าแชมป์สูงสุด? และทำไมเราจึงไม่ควรคาดหวังอะไรจาก “อังกฤษ”?

ก่อนหน้าฟุตบอลโลก 2018 เพจเฟซบุ๊กแนวไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่อย่าง “FEED” มีโอกาสพูดคุยกับ “บอ.บู๋” หรือ “บูรณิจฉ์ รัตนวิเชียร” นักพากย์-คอลัมนิสต์ฟุตบอลชื่อดังถึงความเป็นไปได้ต่างๆ ในมหกรรมลูกหนังครั้งนี้

เริ่มด้วยคำถามสำคัญข้อแรก ทีมชาติอังกฤษจะไปไกลแค่ไหนในบอลโลกหนนี้?

บอ.บู๋เล่าว่า เขาตามดูฟุตบอลโลกมาตั้งแต่ปี 1982 (พ.ศ.2525) สมัยเรียนมัธยมศึกษาตอนต้น และก็เชียร์ทีมเดียวมาตลอดคือทีมชาติอังกฤษ เพราะเป็น “เด็กผี” หรือแฟนตัวยงของ “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด”

เมื่อขุนพลปีศาจแดงยกขบวนพาเหรดติดทีมชาติอังกฤษมาตั้งแต่ยุคโน้น แถม บอ.บู๋ยังติดตามชมฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ (รวมทั้งดิวิชั่น 1 เดิม) มากที่สุด

เจ้าตัวจึงผูกพันกับวงการฟุตบอลอังกฤษและทีมชาติอังกฤษโดยปริยายและอัตโนมัติ

อย่างไรก็ตาม ช่วงหลังๆ นักพากย์-คอลัมนิสต์ดังเริ่มไม่คาดหวังอะไรกับเหล่าขุนพลสิงโตคำราม

บอ.บู๋ยอมรับว่าในยุคก่อน ซึ่งข้อมูลข่าวสารไม่แพร่หลายกว้างไกลเท่าปัจจุบัน เขาก็ทึกทักคิดในใจไปเองว่าอังกฤษเป็นทีมเก่ง แต่พอนั่งชมฟุตบอลโลกมาหลายสมัย เชียร์ทีมชาติอังกฤษมานาน จึงตระหนักว่าจริงๆ แล้วคุณภาพของนักเตะอังกฤษนั้นสู้ชาติอื่นๆ ไม่ได้เลย

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อ “แกเร็ธ เซาธ์เกต” ประกาศรายชื่อผู้เล่น 23 คนสุดท้ายชุดลุยศึกฟุตบอลโลก 2018 ออกมา ซึ่งจะเห็นได้ว่าไม่มีผู้เล่นระดับซูเปอร์สตาร์หรือดาวดังสักเท่าไหร่

คราวนี้ บอ.บู๋เลยเชียร์อังกฤษแบบเอาใจช่วยอยู่ห่างๆ คือขอให้เข้ารอบลึกๆ แต่ไม่ได้หวังอะไรมากมาย

ตามทัศนะของแฟนพันธุ์แท้อังกฤษ ปัจจัยเดียวที่จะผลักดันให้พลพรรคทรีไลออนส์ประสบความสำเร็จในบอลโลก 2018 คือการร่วมแรงร่วมใจกันเป็นหนึ่งเดียวของเหล่านักเตะ โดยไม่ฝากความหวังไว้กับนักฟุตบอลคนใดคนหนึ่งมากเป็นพิเศษ

“พูดง่ายๆ ว่ามัน (ทีมชาติอังกฤษ) ไม่มีนักเตะแบบจอมทัพ เหมือนเมื่อก่อนฝรั่งเศสมี (ซีเนดีน) ซีดาน หรืออาร์เจนตินามีดิเอโก้ มาราโดน่า อะไรแบบนั้น

“อย่างแฮร์รี่ เคน อาจจะเป็นศูนย์หน้าที่ดี แต่ถ้าไม่ได้รับการเปิดป้อน เพื่อนร่วมทีมไม่ได้ผ่านบอลให้เขาดีสักเท่าไหร่ มันก็ไม่มีประโยชน์ เพราะฉะนั้น ผมดูแล้วไม่ได้หวังพึ่งใครเป็นพิเศษ

“เอาง่ายๆ อย่างเจสซี่ ลินการ์ด เป็นมิดฟิลด์ตัวรุก อย่างเดเล่ อัลลี่ เป็นมิดฟิลด์ตัวรุก แต่พอไปเทียบกับทีมอื่นๆ แล้ว ไปเทียบกับฝรั่งเศสที่เขามี (ปอล) ป็อกบา ที่เขามี (อ็องตวน) กรีซมันน์ ไปเทียบกับทีมชาติสเปน ดูแล้วมันเป็นรองเยอะ”

เมื่อถาม “บอ.บู๋” ว่าทีมไหนจะเป็นแชมป์ฟุตบอลโลก 2018?

เขาวิเคราะห์ว่าเยอรมนีไม่น่าจะป้องกันแชมป์สำเร็จ แม้จะสามารถรักษามาตรฐานของทีมได้อย่างคงเส้นคงวา เพราะในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลก ทีมสุดท้ายที่ป้องกันแชมป์ได้คือบราซิล ในปี 1962

หลังจากนั้นก็ไม่เคยมีแชมป์เก่าป้องกันแชมป์ได้อีกเลย

ส่วนฝรั่งเศส เป็นทีมที่มีตัวผู้เล่นดีมาก คุณภาพสูงมาก ในแต่ละตำแหน่งมีอะไหล่ดีๆ 2-3 คน สิ่งเดียวที่ไม่ดีของทีมนี้คือ เฮดโค้ชอย่าง “ดิดิเย่ร์ เดส์ชองส์”

จุดพิสูจน์สำคัญ ได้แก่ นัดชิงชนะเลิศฟุตบอลชิงแชมป์ยุโรป 2016 ที่เดส์ชองส์นำฝรั่งเศสพลิกล็อกพ่ายแพ้โปรตุเกส 0-1 คากรุงปารีส

“เราจะเห็นว่าเดส์ชองส์เป็นโค้ชที่ไม่ค่อยเก่ง แก้เกมก็ไม่ผ่าน”

มาถึงคิวอาร์เจนตินา ซึ่ง บอ.บู๋มองว่าแม้นี่อาจเป็นรถไฟขบวนสุดท้ายที่จะพา “ลิโอเนล เมสซี่” ไปถึงถ้วยแชมป์โลก แต่สภาพทีมโดยรวมของขุนพลฟ้าขาวกลับไม่ดีนัก

พวกเขาผ่านรอบคัดเลือกมาอย่างทุลักทุเล เกมรับมีปัญหา จนเกือบไม่ได้เข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลกด้วยซ้ำ แถมผลงานในเกมอุ่นเครื่องก็ไม่สวยหรูสักเท่าไหร่

“ผมมองว่าอาร์เจนตินาก็ยังไม่ถึงแชมป์โลกอยู่ดี”

มีสองทีมใหญ่ที่ บอ.บู๋เห็นว่าเป็นตัวเต็งในการแข่งขันปีนี้

ทีมแรกคือสเปน ที่น่ากลัวเพราะมีระบบทีมเวิร์กอันดับหนึ่งของโลก แม้จะไม่มีซูเปอร์สตาร์ที่โดดเด่นออกมาเป็นพิเศษ แต่ผู้เล่นคุณภาพทัดเทียมกัน (ทั้งทีม) จากแดนกระทิงดุ ก็เก่งกาจในเรื่องการครองบอลและการมีรูปเกมที่ดี

อย่างไรก็ดี ทีมที่น่ากลัวสุดในสายตาคอลัมนิสต์-นักพากย์จอมกวน ย่อมหนีไม่พ้นบราซิล

ตามความเห็นของ บอ.บู๋ มีหลายปัจจัยที่บ่งชี้ว่าขุนพลแดนแซมบ้าจะประสบความสำเร็จในทัวร์นาเมนต์ใหญ่หนนี้ หลังจากล้มเหลวแบบสุดๆ ในฐานะชาติเจ้าภาพเมื่อ 4 ปีก่อน

“คือถ้าเราเทียบตัวผู้เล่นชุดนี้ ชุดปัจจุบัน กับเมื่อ 4 ปีที่แล้วที่เขาเป็นเจ้าภาพ เราจะเห็นความแตกต่างค่อนข้างเยอะ

The 2018 FIFA World Cup Winner’s Trophy is on display before the 68th FIFA Congress in Moscow, Russia June 13, 2018. REUTERS/Sergei Karpukhin

“คือชุดนั้นแทบจะไม่มีดาราเลย มีแค่เนย์มาร์เป็นตัวชูโรงคนเดียวเอง แต่พอมาถึงยุคปัจจุบัน บราซิลใช้เวลาแป๊บเดียวเองนะ ปรับจากชุดที่เสียฟอร์มคาบ้าน 4 ปี (ก่อน) กลับมาเป็นทีมเต็งหนึ่งของฟุตบอลโลกเลย

“ไม่ใช่มีแค่เนย์มาร์ตัวเดียว มีกาเบรียล เฆซุส มีโรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่ มีฟิลิปเป้ คูตินโญ่ กองหลังก็ดีขึ้น กองกลางก็มีเปาลินโญ่ มีแฟร์นันดินโญ่ มีวิลเลี่ยน คือดูตัวผู้เล่น มันดูดีกว่าเดิม”

บอ.บู๋คาดการณ์ว่าบราซิลน่าจะทะลุเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ แต่จะได้แชมป์หรือไม่นั้น? ต้องประเมินศักยภาพของทีมคู่แข่งด้วย ถ้าคู่ชิงเป็นรองเยอะ นักเตะแซมบ้าก็มีโอกาสคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 6 ค่อนข้างสูง

“ให้ฟันธงเนี่ย ไม่รู้คู่ชิงเป็นใคร แต่คิดว่าบราซิลได้เข้าชิง และเชื่อลึกๆ ว่าบราซิลจะกลับมาเป็นแชมป์โลกอีกครั้งหนึ่ง”