E-DUANG : อุปสรรค ขวากหนาม อนาคตใหม่ การเปลี่ยน “กระแส” เป็น “คะแนน”

หากวัดจาก “กระแส” ต้องยอมรับว่า การเติบโตของ”พรรคอนาคตใหม่” ดำเนินไปอย่างชนิด “ก้าวกระโดด”

ภายหลัง “เปิดตัว” เมื่อปลายเดือนมีนาคม

การสำรวจล่าสุดของ “สวนดุสิตโพล”ระหว่างวันที่ 19-23 มิถุนายน ภายใต้หัวข้อ “ความสนใจของประชาชนที่มีต่อพรรคการเมืองเก่ากับพรรคการเมืองใหม่”

พรรคอนาคตใหม่ ติดอันดับ 1 ในกลุ่มพรรคการเมืองใหม่

ยิ่งกว่านั้น พรรคอนาคตใหม่ ติดอันดับ 2  พรรคการเมืองที่อยู่ในความสนใจของประชาชน

นั่นก็คือ เป็นรองเฉพาะพรรคเพื่อไทยเท่านั้น

นั่นก็คือ มีความเหนือกว่าแม้กระทั่งพรรคประชาธิปัตย์

 

ถามว่าการพุ่งทะยานด้วยความเร็วเป็นอย่างสูงของพรรคอนาคต ใหม่มาจากปัจจัยอะไร

คำตอบ ก็คือ “ความใหม่”

เป็นความใหม่อันส่งผลสะเทือนเป็นอย่างสูงต่อพรรคการเมืองด้วยกัน ไม่ว่าพรรคเก่า ไม่ว่าพรรคใหม่

นั่นก็คือ การเอ่ยถึงบทบาทของ “คนรุ่นใหม่”

นโยบายหลายอย่างของพรรคอนาคตใหม่บรรดาพรรคการ เมืองทั้งหลายต่างพยายามบรรจุลงไป ไม่ว่าในเรื่องการกระจายอำนาจ ไม่ว่าท่าทีต่อรัฐประหาร

ขณะเดียวกัน คำตอบ 1 ภายใน”ความใหม่”นั้น คือ ความใหม่ในทาง “เนื้อหา” ในทาง “ความคิด”

เป็นความคิด”ประชาธิปไตย”ที่วางเรียงเคียกับ”เผด็จการ”

ยิ่งกว่านั้น อีกคำตอบ 1 ซึ่งสำคัญเป็นอย่างมากนั้น “ความ คิดใหม่” เหล่านี้สอดสวมอยู่ภายใน “เทคโนโลยี” ใหม่และที่เหมาะ สมกับพัฒนาการของสังคมไทย

กระนั้น ภายใน”จุดแข็ง” ก็ปรากฏ “จุดอ่อน”ให้เห็น

 

จุดอ่อน 1 ก็คือ พรรคอนาคตใหม่ยังไม่สามารถลงลึกไปในสภาพ ความเป็นจริงของสังคมไทยได้

เพราะติดกับข้อจำกัดของระบอบอันเป็น”เผด็จการ”

จุดอ่อน 1 ก็คือ พรรคอนาคตใหม่ยังไม่สามารถแปร”กระแส”ให้เป็น “คะแนน”และความนิยมในเชิง”กัมมันตะ” อันจะชี้ขาดได้เมื่อใกล้วันเลือกตั้ง

การแปร”กระแส”ให้เป็น”คะแนนเสียง”จึงสำคัญ