ตามท่านธัมมนันทาไปประชุมที่ไต้หวัน นอกเวลาประชุม เจ้าภาพพาไปชมโรงเรียนอนุบาล ไม่มีข้อมูลอื่นมาก่อน ก็นึกในใจว่า มันน่าจะมีอะไรน่าดูกว่าโรงเรียนอนุบาลนะ

โรงเรียนอนุบาลแห่งนี้อยู่บนเขา มีลูกข่างเป็นสัญลักษณ์

คณะของเรามีอาสาสมัครขับรถตามกันไป 4 คัน

เราได้รับการต้อนรับโดยภิกษุณีค่ะ ท่าทางท่านยิ้มแย้มแจ่มใส บ่งบอกว่าท่านเป็นคนที่มีความสุขกับงานที่ทำ

ท่านเล่าว่า โรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนอนุบาลที่มีนักเรียนน้อยมาก และรัฐบาลกำลังจะสั่งปิด เพราะถ้ามีนักเรียนไม่ถึง 60 ก็จะปิดโรงเรียนตามเกณฑ์ของกระทรวงศึกษาธิการ

ชาวบ้านแถวนั้นเดือดร้อนมาก เพราะถ้าปิดโรงเรียน อาม้า อาก๋งต้องไปส่งหลาน ต้องเดินทาง 1 ชั่วโมงตอนเช้า และ 1 ชั่วโมงตอนเย็น จึงมาปรึกษาขอให้ภิกษุณีช่วย

 

ภิกษุณีก็เข้าไปดูโรงเรียนและชุมชน ได้ข้อมูลว่า เด็กๆ ในตำบลนั้นเล่นลูกข่างเก่ง ถึงขนาดเอาชนะเด็กๆ จากโรงเรียนอื่น

ภิกษุณีท่านจึงใช้ลูกข่างเป็นสัญลักษณ์ของโรงเรียน เรียกว่า ใช้จุดแข็งมานำ และแสวงหางานศิลปะเข้ามาเป็นตัวเดินเรื่องให้โรงเรียนเป็นผู้นำให้เด็กได้มีพื้นที่ในการแสดงออก

ท่านเดินนำพาคณะของเราไปชมศิลปะภาพวาดที่ฝาผนังโรงเรียนซึ่งมีศิลปินอเมริกันมาช่วยกำกับ รูปภาพที่วาดนั้น เป็นรูปต้นไม้ใหญ่ ออกลูกมาเป็นลูกข่าง สีและขนาดต่างๆ กัน ทางโรงเรียนเตรียมนั่งร้านให้ 3 ชั้น แต่ศิลปินว่า ต้องใช้นั่งร้านถึง 7 ชั้น

พอได้นั่งร้านมา 7 ชั้น ปรากฏว่าไม่มีใครกล้าปีนขึ้นไป ช่วงนั้นเป็นฤดูหนาว อากาศเย็นมาก ในที่สุดภิกษุณีสองรูป คือท่านซีไนกับเพื่อนที่เป็นครูสอนศิลปะสองรูปปีนขึ้นไประบายสี

ในที่สุดครูที่โรงเรียนเห็นถึงความมุ่งมั่นและศรัทธาในงานของภิกษุณี ก็เข้ามาช่วย จากนั้นก็เป็นผู้ปกครองของนักเรียนเอาเวลาในวันหยุด และเวลาเย็นหลังเลิกทำงานมาช่วย

ในที่สุด ภาพใหญ่ที่อยู่บนฝาผนังตึก 3 ชั้น ดังที่เห็นในรูป

 

เราได้เห็นว่า งานดีๆ บางทีก็เริ่มต้นจากคนที่มีเป้าหมายเดียวกันเพียง 2-3 คน ก็สามารถจะเป็นจริงได้ ขอให้กัดไม่ปล่อย ไม่เสียกำลังใจ และมุ่งมั่น งานก็จะสำเร็จ

ชื่อเสียงของโรงเรียนเริ่มได้รับการยอมรับ งานศิลปะของเด็กจากโรงเรียนนี้ชนะการประกวดได้รับรางวัลต่างๆ สร้างชื่อเสียงให้โรงเรียนว่าเป็นโรงเรียนที่มีผลงานโดดเด่นทางศิลปะ

นักเรียนเริ่มมาเข้าเรียนมากขึ้น เวลานี้ นอกจากไม่ถูกปิดแล้ว ยังเป็นโรงเรียนที่มีความโดดเด่นทางศิลปะ

ตามพื้นซีเมนต์ทางเดินมีรูปผีเสื้อน้อย ทำจากแผ่นเซรามิก ประดับอยู่เป็นช่วงๆ ตรงที่เด็กนั่งเล่นเป็นแผ่นไม้กระดาน แต่แท้ที่จริงเป็นรูปปีกผีเสื้อ ตัวผีเสื้อทำนูนขึ้นมาแล้วประดับด้วยเซรามิกแผ่นจิ๋ว

ลูกข่างลูกใหญ่ ขนาดสองคนโอบเป็นงานศิลปะที่ประดับด้วยแผ่นเซรามิกสีแจ่มแจ๋ว สมกับเป็นโรงเรียนอนุบาล

ที่พื้นรอบลูกข่าง มีงานศิลปะทำด้วยแผ่นเซรามิกประดับเป็นรูปตัวสัตว์ต่างๆ ทั้งสี่ด้าน ผู้เขียนประทับใจเรื่องราวของช้างที่อยู่บนพื้นเบื้องหน้า คุณครูภิกษุณีเล่าว่า เด็กชายคนที่ทำช้างนี้ เดิมดูท่าทางเป็นเด็กมีปัญหา ไม่พูด พ่อแม่เป็นชาวอินโดนีเซียที่มาทำงานอยู่ในไต้หวัน มาติดต่อขอให้ทางโรงเรียนออกหนังสือรับรองว่าเด็กมีความพิการ เพื่อจะได้ขอสวัสดิการจากรัฐ

ครูที่สอนศิลปะตั้งข้อสังเกตว่า งานศิลปะของเด็กคนนี้มีความโดดเด่นในการใช้สีดีกว่าเพื่อนร่วมชั้น ไม่น่าจะเป็นเด็กปัญญาอ่อน

เมื่อให้โอกาสให้เขาได้แสดงผลงาน ได้รับคำชม เด็กเริ่มพูด

ที่เด็กไม่พูดนั้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการเปลี่ยนที่อยู่ การเปลี่ยนวัฒนธรรม ต้องมาเรียนรู้พูดภาษาจีนใหม่ทั้งหมด

เด็กคนนี้เป็นคนที่มีงานที่สร้างสรรค์มาก เมื่อครูขอความร่วมมือที่จะทำงานศิลปะ เขาเข้ามาอาสาขอวาดเป็นรูปช้าง แล้วประดับด้วยแผ่นเซรามิก

หลายปีต่อมา เด็กคนนี้เข้าเรียนในระดับมหาวิทยาลัย และมีผลการศึกษาดีมาก

 

คุณครูภิกษุณีจำรายละเอียดของเด็กได้อย่างดี แสดงถึงความใส่ใจและชื่นใจในผลงานที่ผลิตนักเรียนที่ดูจะมีปัญหาแต่กลายเป็นเด็กที่มีคุณภาพอย่างยิ่ง

งานศิลปะเป็นพื้นที่ที่จะทำให้เด็กไปพบตัวเอง ให้ความสุข ให้ความอิ่มเอิบใจ สร้างความมั่นใจให้ในกรณีที่เด็กขาดความมั่นใจ

ข้อสำคัญที่เราได้เห็น คือทีมครูที่มีความสุขกับผลงาน คือลูกศิษย์ที่เดินออกไปอย่างมีศักดิ์ศรี ครูเป็นเบ้าหลอมที่ทรงคุณค่าอย่างยิ่ง

ห้องที่แสดงผลงานของนักเรียนเป็นอีกจุดหนึ่งที่เราให้ความสนใจ งานที่เด็กๆ วาด เพราะมีครูที่เป็นภิกษุณี งานที่แสดงออกมาจึงมักมีภิกษุณีอยู่ด้วยเสมอ ไม่ว่าจะเป็นงานเขียนระบายสี หรืองานปั้น

การจัดแสดงงานศิลปะของเด็กอย่างเป็นระเบียบ เป็นภาพสะท้อนที่ครูให้ความสนใจกับงานของเด็ก การได้รับความใส่ใจเป็นปุ๋ยอย่างดีที่จะทำให้เด็กมีกำลังใจ มีความสร้างสรรค์

และมีวิริยะที่จะสร้างงานสร้างสรรค์ต่อยอดขึ้นไป

 

ที่บันไดทางขึ้นชั้นเรียน มีคำคมทั้งภาษาอังกฤษและภาษาจีน ดังนี้ค่ะ

Knowledge is power

ความรู้คืออำนาจ

As you sow, so you reap.

คุณปลูกอะไร ก็ได้อย่างนั้นแหละ

Well begun is half done

เริ่มต้นดี ก็เท่ากับเสร็จไปครึ่งหนึ่งแล้ว

Actions speak louder than words.

การลงมือทำเสียงดังกว่าคำพูด

Never put off till tomorrow what you can do today.

อย่าผัดวันประกันพรุ่งหากคุณทำได้ในวันนี้

สุภาษิตเหล่านี้ ชี้ตรงไปยังงานที่ครูโรงเรียนนี้ เห็นความสำคัญในการปลูกฝังเด็กตั้งแต่ยังเล็กๆ การสอนให้เด็กลงมือทำเอง นอกจากจะได้งานแล้ว ยังได้ความภาคภูมิใจ ยังได้ทิศทางของชีวิต การสร้างความภาคภูมิใจเป็นเรื่องสำคัญเพราะเป็นฐานที่เด็กจะเคารพตัวเอง

นอกจากรัฐบาลจะไม่ปิดโรงเรียนนี้แล้ว ตอนนี้กลายเป็นว่า เมฮวา โรงเรียนที่มีสัญลักษณ์ลูกข่าง กลายเป็นโรงเรียนอนุบาลที่มีชื่อเสียงของเมืองเถาหยวนอีกด้วย

น่าภาคภูมิใจเมื่อรู้ว่า ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จเป็นภิกษุณีสองรูปที่เรารู้จักนี้เอง

อยากให้เมืองไทยมีโรงเรียนที่ครูศิลปะมีใจต่อเด็กและสร้างเด็กเช่นที่เราเห็นที่โรงเรียนเมฮวาบ้าง