สิ้นยุคคาสโตร! คิวบาถ่ายอำนาจ ปธน.ใหม่ลั่นสืบต่อวิถีปฏิวัติพร้อมปฏิรูปศก.

Outgoing Cuban President Raul Castro (R) raises the arm of Cuba's new President Miguel Diaz-Canel after he was formally named by the National Assembly, in Havana on April 19, 2018. Miguel Diaz-Canel succeeds Raul Castro -- a historic handover ending six decades of rule by the Castro brothers. The 57-year-old Diaz-Canel, who was the only candidate for the presidency, was elected to a five-year term with 603 out of 604 possible votes in the National Assembly. / AFP PHOTO / Adalberto ROQUE

เมื่อวันที่ 20 เมษายน สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า นายมิเกล ดิอาซ-กาเนล วัย 58 ปี ที่กลายเป็นผู้นำคิวบาคนใหม่และคนแรกในรอบเกือบ 60 ปีที่ไม่ได้มาจากตระกูลคาสโตร กล่าวให้คำมั่นหลังจากได้รับการรับรองจากสมัชชาแห่งชาติคิวบาให้เป็นประธานาธิบดีคนใหม่อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 19 เมษายนว่า เขาจะสานต่อการบริหารประเทศบนวิถีของ “การปฏิวัติ” ไปพร้อมกับการปฏิรูปเศรษฐกิจของประเทศที่นายราอูล คาสโตร อดีตผู้นำคิวบาที่เขารับช่วงสืบทอดอำนาจต่อได้ริเริ่มไว้

เอเอฟพี

นายดิอาซ-กาเนล ยังกล่าวถึงบทบาทของนายราอูลว่า นายราอูลจะยังคงมีอำนาจในการตัดสินใจอันสำคัญเพื่อประเทศชาติในปัจจุบันและอนาคตต่อไป

ทั้งนี้การทำงานของผู้นำคิวบาคนใหม่จะอยู่ภายใต้การเฝ้าดูของนายราอูล ที่ยืนยันว่าเขาจะยังคงอยู่ในตำแหน่งหัวหน้าพรรคคอมมิวนิสต์ต่อไปจนถึงปี 2564

เอเอฟพี

การเปลี่ยนถ่ายอำนาจครั้งประวัติศาสตร์นี้ของคิวบาได้มีการถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์ไปทั่วประเทศ ท่ามกลางการเฝ้าดูของชาวคิวบาที่ต่างตั้งความหวังในตัวผู้นำคนใหม่ว่าจะผลักดันการปฏิรูปเศรษฐกิจคิวบาต่อไป เพื่อให้ชีวิตความเป็นอยู่ของชาวคิวบาที่มีรายได้เฉลี่ยต่อหัวต่อเดือนที่ราว 30 ดอลลาร์ (กว่า 900 บาท)ดีขึ้น

เอเอฟพี

จีน รัสเซีย อังกฤษ สเปน และชาติพันธมิตรในละตินอเมริกา รวมถึงเวเนซุเอลา ร่วมแสดงความยินดีกับผู้นำคิวบาคนใหม่ แต่สหรัฐอเมริกาที่รัฐบาลนายราอูลเคยฟื้นฟูกระชับความสัมพันธ์ด้วยในช่วงปี 2558 ไม่ได้แสดงท่าทียินดีนัก โดยโฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐกล่าวว่า สหรัฐผิดหวังที่รัฐบาลคิวบาเลือกที่จะปิดปากเสียงอิสระและยังคงอำนาจผูกขาดเอาไว้ต่อไปมากกว่าที่จะยอมให้ประชาชนได้มีตัวเลือกที่มีความหมายผ่านการเลือกตั้งอย่างอิสระและเป็นธรรม