เหวง ชี้ พรรคขั้วปชต.รวมกันต้องได้เกิน 250 เสียง เพื่อปิดประตูรปห.-สู้เผด็จการอยู่ยาว

“เหวง” ชี้ ปชช.ต้องเลือกพรรคขั้วประชาธิปไตยให้เกิน 250 เสียง ปิดประตูรัฐประหารยึดอำนาจ หวั่นเผด็จการยาว 20 ปี เหน็บ ปชป. 72 ปีที่ผ่านมา ใช้วาทะศิลป์กลบเกลื่อนการฉวยโอกาสทางการเมือง

เมื่อวันที่ 19 เมษายน นพ.เหวง โตจิราการ อดีตสส.พรรคเพื่อไทย โพสต์แสดงความเห็นกรณีการจัดตั้งพรรคการเมืองเพื่อสนับสนุนรัฐบาล คสช. และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยระบุว่า
ประชาชนต้องเลือก พรรคขั้วประชาธิปไตย ให้เกิน250เสียงเท่านั้น จึงจะปิดประตูการยึดอำนาจรัฐประหารได้สิ้นเชิง แม้จะยังไม่มีการยื่นเพื่อจดจัดตั้งพรรค คสช. แต่ขณะนี้ก็ชัดเจนแล้วว่ามี “พรรค คสช.” จะชื่อเสียงใดไม่สำคัญ จะยื่นจดจัดตั้งเมื่อไรไม่สำคัญ

แต่นายกฯ บอกชัดว่า “เขากำลังปรึกษาหารือกันอยู่”“แต่เขายังไม่มาเชิญผม” เชิญเมื่อไรไม่ใช่เรื่องสำคัญ
แม้นายกรัฐมนตรี บอกว่า”ผมต้องพิจารณาดูก่อนว่าจะเข้าร่วมหรือไม่” แต่เป็นคนกันเองทั้งนั้น “ที่กำลังปรึกษาหารือกันอยู่” เช่น นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ล้วนยืนยันว่า “กำลังปรึกษากันอยู่”

พร้อมๆไปกับการ “ดูด” นายสกลธี ภัทธิยกุล เป็นรองผู้ว่ากทม. นายสนธยา คุณปลื้ม เป็นที่ปรึกษานายกฯฝ่ายการเมือง นายอิทธิพล คุณปลื้ม เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา อีกทั้งคสช.ได้เดินสายตั้งแต่เมื่อปีที่แล้ว ไปพบ พรรคบรรหาร ไปพบ พรรคนายสมศักดิ์ ที่จ.สุโขทัย ไปพบพรรคนายอนุทิน ไปพบพรรคนายสุวัจน์ ที่โคราช แตะมือกับกลุ่มนายสุชาติ ตันเจริญ ยังมี “พรรคกปปส.ของสุเทพ เทือกสุบรรณ” อีกที่ยังมีฤทธิ์เดชอยู่

การทุ่มงบประมาณหลายแสนล้านลงสู่มวลชนภายใต้ธง “ไทยนิยมยั่งยืน”ครอบคลุม 85,000 ชุมชนทั่วประเทศรวมกทม. ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นการ “เคลื่อนพลขนาดใหญ่”กรีฑาทัพไปในทุกปริมณฑล ครอบคลุมทั่วทั้งประเทศเพื่อสร้างปัจจัยให้บรรลุชัยชนะในการเลือกตั้งและจัดตั้งรัฐบาลคสช. ภายหลังการเลือกตั้งให้ได้อย่างมั่นคง

ไม่ต้องไปถามพรรคปชป.เลยว่าจะเข้าร่วม พรรค คสช.หรือไม่ “เมื่อถึงวันนั้น” พล.อ.ประยุทธ์ ได้บอกไว้ชัดแล้วว่า “คอยดูว่าเขาจะพูดอย่างไร”

พรรคปชป.มีหรือจะไม่เข้าร่วมรัฐบาล(ขั้ว)คสช.?

โดยอ้างเหตุว่าประชาชนเรียกร้องและเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ตามวิสัยที่เขาถนัดในการใช้วาทะเลิศหรูเพื่อกลบเกลื่อน “การฉวยโอกาสทางการเมือง” ซึ่งเป็นเรื่องที่พรรคนี้ถนัด และทำมาตลอดระยะเวลา72 ปี ของการตั้งพรรค ดังนั้น การสัปประยุทธ์ในการเลือกตั้งครั้งนี้ จึงเป็นการสัปประยุทธ์ครั้งสำคัญที่สุดอีกครั้งหนึ่งระหว่างสองขั้วการเมืองเท่านั้น คือ ขั้วที่สนับสนุนคสช. สนับสนุนรัฐประหาร กับ ขั้วต่อต้านคสช. ต่อต้านรัฐประหารต้องการประชาธิปไตย ไม่มี “สามก๊ก” ทางการเมืองแต่อย่างไร

เมื่อสภาพการณ์ชัดเจนเช่นนี้แล้ว เบื้องหน้าทุกพรรคการเมือง ย่อมมีเพียงสองทางเลือกเท่านั้น คือ ท่านจะเลือกขั้วคสช. ขั้วรัฐประหาร หรือ ท่านจะเลือกขั้วต่อต้านคสช. ขั้วต่อต้านรัฐประหาร ต้องการประชาธิปไตย ไม่ต้องมัว เชิดปี่ตีกลอง รำหน้าพาทย์อยู่เลยครับ ไม่ต้องมัวอิดๆออดๆม้วนไปม้วนมาอยู่เลยครับ ประกาศให้ชัดไปเลย “สนับสนุนคสช.สนับสนุนรัฐประหาร” หรือ “ต่อต้านรัฐประหารไม่เอาคสช.ต้องการประชาธิปไตย”

ไม่เพียงแต่พรรคการเมืองเท่านั้นที่ต้องแจ่มชัดตั้งแต่วินาทีนี้ ประชาชนทุกคนที่มีสิทธิเลือกตั้งก็ต้องตัดสินใจแล้วครับว่า “ท่านจะสนับสนุนคสช.สนับสนุนรัฐประหาร” หรือ “ท่านจะต่อต้านรัฐประหารสร้างประชาธิปไตยเพื่อปิดตายการรัฐประหารของประเทศ” เพราะหากครั้งนี้ ประชาชนเลือกพรรคขั้วประชาธิปไตยต่อต้าน คสช. เกินกว่า 250 เสียงขึ้นไป

พรรค คสช.ก็ยากที่จะเดินหน้าทางการเมือง แม้จะมีพรรค ส.ว. 250เสียง หนุนอยู่ก็ตาม อาวุธไม่ไว้วางใจทรงอานุภาพยิ่งในการหยุดยั้งรัฐบาลต่อท่ออำนาจ คสช. และเปิดทางให้มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงปัจจัยเผด็จการต่างๆให้เป็นประชาธิปไตยที่แท้จริงแข็งแรงสมบูรณ์ขึ้นได้ เป็นโอกาสอันงดงามที่ใช้เส้นทางสันติวิธีในการ “ปิดประตูตายสำหรับการรัฐประหารต่อไปในอนาคต” แต่หากผลออกมาตรงข้าม พรรคขั้วคสช. ได้มากกว่า 250 เสียง ประเทศไทยก็จะตกอยู่ภายใต้อำนาจของ เผด็จการรัฐประหารไปอีกยาวนานอย่างน้อยก็ 20 ปี

ท่านต้องเลือกแล้วครับ