กาละแมร์ พัชรศรี : งานเปิดตัวหนังสือ

รู้ตัวเลยว่าเป็นคนไม่ชอบจัดงานอะไรของตัวเองเลย ยิ่งต้องเป็นเจ้าภาพด้วยแล้ว โอ้ยยยยยยย ชั้นตายแน่

แต่ในชีวิตก็มีเหตุให้ต้องมีงานของตัวเองอยู่เนืองๆ อย่าง “งานเปิดตัวหนังสือ” ปะไร ปีละหนต้องมี

แต่ทุกครั้งฉันจะออกหนังสือในช่วงงานสัปดาห์หนังสือบ้าง มหกรรมหนังสือบ้าง ครั้งนี้ไม่ได้อยู่ในช่วงนั้นเลย ทำให้การจัดงานมีรายละเอียดมากขึ้นไปอีก เพราะถ้าเปิดตัวในงานมันก็แค่พูดคุยกันบนเวที เซ็นหนังสือ แค่นั้น

แต่คราวนี้เป็นงานจริงจังเลยจ้า เรื่องนี้ต้องยกความดีความชอบให้เพื่อนผู้เป็นทั้งเลขาฯ ส่วนตัวอย่าง “จุ๊บ” นางสามารถทำทุกอย่างได้ในคนเดียวกัน

นางติดต่อสถานที่ นักข่าว ประสานงานสปอนเซอร์ ทำเวที เครื่องเสียง ต้อนรับแขก โชคดีเหลือเกินที่ชีวิตฉันมีกัลยาณมิตรที่ดี ไม่ว่ามีเรื่องอะไรจุ๊บจะคอยช่วยเหลือฉันเสมอ ครั้งนี้ก็เช่นกัน หลายคนชื่นชมว่างานน่ารัก อบอุ่น สนุกสนาน ฉันขอยกความดีทั้งหมดให้จุ๊บเลย ที่สำคัญเสียเงินน้อยมาก เพราะมีคนมาช่วยกันเยอะมาก

นอกจากนี้ ยังมี “พี่ปอม” พี่ผู้เป็นทั้งสไตลิสต์บ้าน หนังสือและตั้งชื่อหนังสือให้ ก็มาออกแบบทำเวทีให้ โดยพี่ปอมมาเล็งข้าวของในบ้านฉัน ซึ่งเอาจริงคือพี่ปอมก็รู้ทุกอย่างว่าเรามีอะไร วางไว้ตรงไหน แม้แต่พรมที่ไม่ได้ใช้ก็รู้ว่ามันมีอยู่ ดังนั้น พี่ปอมจึงมาชี้ๆๆ ว่าเอาเก้าอี้ตัวนี้ เอาบันไดอันนั้น พรม หมอน ตุ๊กตุ่นตุ๊กตาเอาไปประดับตรงไหนบ้าง

แม้แต่มิ้นท์ แม่บ้านสาวชาวพม่า ยังมีส่วนร่วมในงาน เพราะเธอเป็นคนเตรียมข้าวของยันอุปกรณ์ในการปั่นอาหารโชว์ให้ฉันบนเวที พอถึงงาน มิ้นท์จัดวางทุกอย่างอย่างเป็นระเบียบเป๊ะๆ เหมือนทำให้ที่บ้าน เป็นที่ประทับใจแก่ผู้พบเห็น

สถานที่เอ็มควอเทียร์ก็ให้จัดฟรี อำนวยความสะดวกทุกอย่าง เป็นสวนอยู่ชั้น 5 เข้ากับธีมในหนังสือพอดี

 

ในงานนอกจากจะพูดคุยบนเวทีแล้ว เรายังได้เชิญสปอนเซอร์ผู้สนับสนุนหนังสือซึ่งก็จะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ฉันใช้ในชีวิตจริง โดยแต่ละเจ้าก็มาเปิดบู๊ธเล็กๆ แต่ของที่เอามาไม่เล็กตามบู๊ธ เรียกได้ว่าจัดเต็มกันมาเลย เอามาให้คนที่มาร่วมงานได้กินกันอย่างอิ่มหนำสำราญ ทั้งคาว หวาน ขนม น้ำดื่ม แถมให้ของติดไม้ติดมือกันเป็นถุงๆ จนทุกคนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า “นึกว่ามางานแฟร์”

ฉันยังแอบไปเดินตามบู๊ธ ชิมทุกบู๊ธจนอิ่มก่อนขึ้นเวที เสียดายหยิบของกลับบ้านไม่ทัน! (ฮา) เพื่อนฉันอย่างคุณนก ศิขรินธาร กลับบ้านคนท้ายๆ เลยก็ว่าได้ หันไปก็เห็นยืนอยู่ที่บู๊ธตลอด แล้วนางก็เดินมาหาฉันพร้อมถุงพะรุงพะรัง นางบอกพร้อมเสียงหัวเราะตามสไตล์ “เขาให้กรูเอง หยิบใส่ๆ ให้ตลอด” ค่ะ เอาที่นางสะดวกค่ะ

บนเวทีฉันมีกัลยาณมิตรอย่าง “น้าเน็ค” มาเป็นพิธีกรให้ แม้ว่าคิวเขาจะแน่นแค่ไหน เขาก็จะมาช่วยเสมอ

ส่วนวู้ดดี้ผู้มีคิวแน่นกว่าใคร ก็ขึ้นมอเตอร์ไซค์มา แถม Live ทาง Facebook ให้ด้วย

เพื่อนฝูงสนิทๆ อย่างกฤต ช่อง 3 ก็ทำเทปเพื่อมางานให้ ครูเอกโยคะ เทรนเนอร์เชอรี่มากันหมด ฉันไม่ค่อยได้บอกใครมากเพราะเกรงใจเวลาของทุกคน พี่ๆ น้องๆ เพื่อนๆ ชาวเข็มทิศชีวิตที่แต่ละคนมีหน้าที่การงานสำคัญๆ ก็พร้อมใจใส่ชุดสวยมาให้กำลังใจจนงานเลิก

และที่สำคัญอยู่ดีๆ คุณประวิทย์ มาลีนนท์ ก็ปรากฏกายขึ้นแบบเซอร์ไพรส์สุดๆ

นายมาด้วย ตายแล้วววววววววว งงเลย เป็นเกียรติมากๆ ที่นายมาอยู่ในงาน มานั่งเป็นกำลังใจให้ แถมต้องกินน้ำปั่นบนเวทีด้วย เพราะน้าเน็คยื่นไปให้นายกับผู้บริหารเอ็มควอเทียร์ให้ชิม โอ้ยยยยยยย

เราต้องมั่นใจในสูตรน้ำปั่นเราสิ นายต้องกินได้ไม่เป็นอะไร

หลังงานเลิกนายมาตามหาแก้วบอกว่าจะกินต่อ อร่อย!!! นี่!!!!! เป็นงะๆๆๆ

 

ขอบคุณพี่ๆ น้องๆ นักข่าวที่มาสนับสนุนให้กำลังใจกันเสมอ

ขอบคุณเพื่อนพี่น้องทีมงานที่มาลงแรงช่วยเหลือกันทั้งรับแขก ยกของ จัดแจง ทำให้งานราบรื่นสำเร็จจนได้

และที่สำคัญคนอ่านที่มานั่งให้กำลังใจแต่หัววัน มาซื้อหนังสือ นั่งฟัง มารอขอลายเซ็น บางคนต้องรีบไปขึ้นเครื่องบิน บางคนต้องรีบไปรับลูก บางคนต้องรีบไปทำงานต่อ แต่ก็มาให้กำลังใจกัน มานั่งยิ้ม นั่งหัวเราะด้วยกัน

ในงานฉันไม่ได้พูดคุยกับใครได้นาน เพราะต้องไปเจอคนนั้นทักคนนี้ตลอดงาน เริ่มเข้าใจบ่าวสาววันแต่งงานขึ้นมาละ

เอาละ งานแต่งจะมีไหมก็ไม่รู้ เอางานเปิดตัวหนังสือไปก่อนแล้วกัน

อะไรที่ขาดตกบกพร่องต้องขอภัย และขอขอบคุณจากใจหัวใจกาละแมร์ แคร์ เช่น มิตร