การออกมายอมรับว่า นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี มีบทบาทเป็นอย่างสูงในการกำเนิดขึ้นของพรรคอนาคตใหม่ โดย นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นความงดงามในทางการเมือง

ยิ่งเมื่อมองถึงบทบาทของ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ในกลุ่มแคร์ คิด เคลื่อน ไทย ยิ่งเป็นความงดงามถึงขั้นไพจิตร

ยิ่งเมื่อมองผ่านการทำสงครามในทาง”ความคิด”ระหว่าง”ติ่ง”ไม่ว่าจะมาจากพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าจะมาจากพรรคก้าวไกล ยิ่งเป็นความสดสวย

เป็นความสดสวยในคุณูปการของ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เป็นความกล้าหาญ ตรงไปตรงมา ในท่วงทำนองของนักการเมืองอย่าง นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ

นั่นก็คือ ไม่เคยลืม”น้ำบ่อแรก”ที่เคยได้ดื่มกินและไล้ลูบชโลมไปบนใบหน้า เท่ากับชี้ชัดว่าการให้คำชี้แนะจาก นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี คือรากฐานหนึ่งแห่งพรรคอนาคตใหม่

แม้ ณ วันนี้ บทบาทและความหมายของพรรคก้าวไกลอันสืบทอดมาจากพรรคอนาคตใหม่จะมีบทบาทในการแย่งชิงคะแนนและความนิยมจากพรรคเพื่อไทยก็ตาม

นี่ย่อมเป็นเงาสะท้อนและร่องรอยแห่งสายสัมพันธ์อันงดงาม

 

ไม่ว่าคำกล่าวของ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ไม่ว่าคำกล่าวของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ  ยืนยันความสัมพันธ์ระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกลได้อย่างเด่นชัด เป็นจริง

นั่นก็คือ ดำรงอยู่อย่างเป็น”มิตร” แต่ในพื้นที่ทางการเมืองย่อมมี”การต่อสู้”เพื่อสร้างความนิยม เก็บเกี่ยวคะแนน

กระนั้น ในการต่อสู้ก็มิได้ดำเนินไปอย่างเป็น”ศัตรู”หากมองจากวันเวลาแห่งการจัดตั้งพรรคเมื่อย้อนยาวไปยัง พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน ก็ต้องยอมรับว่าพรรคเพื่อไทยอยู่ในฐานะผู้มาก่อน

เนื่องจากพรรคอนาคตใหม่เพิ่งตั้งขึ้นในปี 2561 และเพิ่งเข้าสู่การเลือกตั้งเพียง 1 ครั้งในเดือนมีนาคม 2562 ประสบการณ์จึงน้อยเป็นอย่างยิ่งเมื่อเทียบกับพรรคเพื่อไทย

กระนั้น สายตาที่ทอดมองกันและกันก็เปี่ยมด้วยความรัก

 

การต่อสู้ของพรรคก้าวไกลคล้ายกับถือเอาพรรคเพื่อไทยเป็นคู่แข่ง แต่ในความเป็นจริง การต่อสู้อันเข้มข้นนี้ก็คือการสร้างหลักประกันให้กับสถานะและการดำรงอยู่

ยิ่งสถานะทะยานสูงเด่น อำนาจในการต่อรองยิ่งสูงเด่นทุกอย่างเป็นความงดงามหากมองกระบวนการต่อสู้ที่ยุติธรรมและเที่ยงธรรม บนรากฐานแห่งนโยบายที่นำมาประชัน

โดยพื้นฐาน พรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล คือพลังประชาธิปไตย