2 ตัวละคร ปรากฏ ณ เบื้องหน้า ของ ‘อาฮุย’ สรุปปม ‘ลี้คิมฮวง’

บทความพิเศษ

 

2 ตัวละคร ปรากฏ

ณ เบื้องหน้า ของ ‘อาฮุย’

สรุปปม ‘ลี้คิมฮวง’

 

คล้อยหลังเศษซากกระบี่แทงคอหอยอีเข่าจนเป็นโพรง ในท่ามความคลางแคลงที่อาฮุยเห็นใบหน้าเขียวช้ำ บวมเป่งของลิ่มเซียนยี้

ขณะที่คนรับใช้แห่งเรือนแรมกำลังสนองกาน้ำ ณ ลานตึก

“ท่านผู้พักแรมทั้งหลายพวกท่านต้องการฟังข่าวสะเทือนเลื่อนลั่นที่สุดในวงพวกนักเลงหรือไม่ เรื่องสำคัญที่เพิ่งเกิดขึ้นในบู๊ลิ้มหรือไม่ อย่างนั้นเชิญไปที่ห้องอาหารทางเบื้องหน้า เล่าซิงแซ แซ่ซุนที่มาจากภาคใต้จะเริ่มเล่าในตอนเที่ยงวันนี้

ประกันว่าทั้งแปลกใหม่ ทั้งตื่นเต้นเร้าใจ ท่านทั้งหลายยังพอรับทานไปพลางฟังไปพลาง”

“ท่านไม่คิดไปฟัง” เป็นคำถามจากลิ่มเซียนยี้

“ข้าพเจ้ากลับต้องการไปฟังดู อย่าว่าแต่พวกเรายังต้องรับทานอาหารกัน” ลิ่มเซียนยี้เลิกผ้าห่มออก แต่พลันครางแล้วหดกลับไปอีกครา ใบหน้านางแดงฉาน ขบริมฝีปากแนบแน่น ก้มศีรษะกล่าว

“ท่านเลวที่สุด ยังไม่รีบหยิบเสื้อผ้าให้ข้าพเจ้า”

เป็นอันชัดเจนแจ่มแจ้งว่านางนอนอยู่ภายใต้ผ้าห่มในลักษณาการเช่นไร เป็นความชัดเจนต่อเราท่าน

แต่อาฮุยมีแต่เพียงใบหน้าเท่านั้นที่แดง มีแต่หัวใจเท่านั้นที่เต้นถี่เร็วราวรัวกลอง

 

ในห้องอาหารมีผู้คนนั่งเกือบเต็มแล้ว เรื่องราวในยุทธจักรเต็มไปด้วยความเร้าใจตลอดมา ไม่ว่าผู้ใดล้วนต้องการรับฟัง

ในใจของแต่ละคนจะมากจะน้อยต้องสะสมความอึดอัดกลัดกลุ้มอยู่บ้าง

เมื่อได้ฟังเรื่องราวของวีรบุรุษยุทธจักร ผู้กล้าหาญชาวบู๊ลิ้ม จิตใจผู้คนพลอยถูกหล่อหลอมเข้ากับบุคคลในตำนานเรื่องราวอย่างลืมตัว

ความอึดอัดกลัดกลุ้มในอก พลอยถูกระบายออกโดยไม่รู้ตัว

ที่โต๊ะริมหน้าต่างนั่งไว้ด้วยชายชราสวมเสื้อยาวสีคราม ผมเผ้าหงอกยาวผู้หนึ่ง กำลังนั่งหลับตาสูบกล้องยาสูบ

ที่ข้างกายของชายชรามีโกวเนี้ยเยาว์วัยนางหนึ่ง

เห็นเปียใหญ่ 2 เส้น เห็นดวงตากลมโตทั้งคู่ทั้งดำขลับ ทั้งสุกใส พอกลอกกลิ้งกวาดมองคล้ายกับจะเกี่ยวกระชากวิญญาณของบุรุษไป

อาฮุยกับลิ้มเซียนยี้พอเดินเข้ามา ทุกผู้คนในห้องล้วนจับจ้องมองจนเบิกตาค้าง

ตากลมโตของโกวเนี้ยถักเปียสำรวจมองบุรุษสตรีทั้งคู่โดยไม่หยุดยั้ง ลิ้มเซียนยี้ก็จับจ้องมองโกวเนี้ยถักเปียพลันเม้มปากหัวร่อขึ้น

กระนั้น ที่น่าสนใจมากกว่ากลับเป็น “นิทาน” จากชายชรา

 

โจรดอกเหมยก่อกรรมทำเข็ญอย่างชั่วช้า ลี้ท้ำฮวยถือคุณธรรม ชืดชาทรัพย์สิน ท่านทั้งหลายทราบหรือไม่ว่า 2 คนที่เราเอ่ยถึงเป็นใคร

เอ่ยถึง 2 ท่านนี้ล้วนมีนามระบือลือลั่น

หลายสิบปีมานี้โจรดอกเหมยปรากฏกายเพียง 2 ครั้ง แต่คดีที่ผู้เหี้ยมหาญฝ่ายมิจฉาชีพนับร้อยนับพันก่อขึ้นแม้รวมเข้าด้วยกันยังไม่เท่ามันคนเดียว

ลี้ท้ำฮวยเป็นกงจื้อตระกูลใหญ่ บรรพบุรุษรับราชการมาหลายชั่วอายุคน

กล่าวได้ว่ามีเกียรติประวัติอันเกริกไกร ใน 3 ชั่วอายุคนกลับมีคนสอบได้บัณฑิต 7 ครั้ง น่าเสียดายที่ไม่อาจไต่เต้าถึงตำแหน่งจอหงวน

เมื่อถึงรุ่นของลี้เล่าท้ำฮวย (ท้ำฮวยสูงอายุแซ่ลี้)

เสียวเอี้ย (นายน้อย) ทั้งสองยิ่งชาญฉลาดปราดเปรื่อง เปล่งประกายปัญญา ดังนั้น ท่านผู้เฒ่าฝากความหวังอยู่ที่กงจื้อทั้งสองนี้ หวังให้บุตรชายสอบได้จอหงวนชดเชยปมด้อยของตัวเอง

แต่แล้วลี้กงจื้อ (คุณชายคนโตแซ่ลี้) พอเข้าสอบ ยังคงได้ตำแหน่งท้ำฮวย

2 พ่อลูกล้วนกลัดกลุ้มกังวล เพียงหวังว่าเซี่ยวลี้กงจื้อ (คุณชายคนเล็กแซ่ลี้) สามารถช่วงชิงตำแหน่งมา มิคาด ชะตากลั่นแกล้งคน เซี่ยวลี้กงจื้อแม้ปราดเปรื่องเป็นอัจฉริยะพอเข้าสอบแข่งขันยังคงได้เป็นท้ำฮวย

เซี่ยวลี้ท้ำฮวยมิเพียงมีภูมิปัญญาสูงส่ง มิหนำซ้ำยังมีวิชาบู๊เลิศล้ำ เมื่อเยาว์วัยได้รับถ่ายทอดวิชาฝีมือจากยอดคนบู๊ลิ้ม ฝึกปรือยอดวิทยายุทธ์สำเร็จ

 

อาฮุยรับฟังเรื่องราวจากปากชายชราแซ่ซุนจนเลือดลมพลุ่งพล่าน ลิงโลดถึงขีดสุด เพราะมันย่อมทราบว่า เซี่ยวลี้ท้ำฮวย คือ ลี้ชิ้มฮัว

เมื่อมีคนชมเชยลี้ชิ้มฮัว มันยังปีติยินดีกว่าได้ยินผู้คนชมเชยตัวมันอีก

แต่คำถามจากโกวเนี้ยก็เหมือนมีดอันคม “เพียงแต่ เพียงแต่ ลี้ท้ำฮวยผู้เกริกไกรไฉนมีส่วนเกี่ยวพันกับโจรดอกเหมยอันอื้อฉาวชั่วร้าย”

“ประการนี้ย่อมมีสาเหตุ” เป็นการนำร่องจากผู้เฒ่า

“ทั้งนี้เพราะ โจรดอกเหมย คือ ลี้ท้ำฮวย ลี้ท้ำฮวย คือ โจรดอกเหมย”

คำตอบนี้ส่งผลให้อาฮุยรู้สึกมีโทสะพลุ่งขึ้น ถึงกับคิดอาละวาด ขณะเดียวกัน โกวเนี้ยที่ถักเปียกลับสั่นศีรษะแย้งขึ้น

“ลี้ท้ำฮวยผู้นี้เมื่อคบหาสหายโดยไม่เสียดายต่อทรัพย์สมบัติ

คงเป็นบุคคลที่เห็นเงินทองเป็นดั่งธุลีดิน ไหนเลยกลายเป็นโจรดอกเหมยที่ปล้นสะดม ชิงทรัพย์ ละโมบสมบัติ มักมากราคะได้ ข้าพเจ้าไม่เชื่อ”

“อย่าว่าแต่เจ้าไม่เชื่อ เราก็ไม่เชื่อ จึงออกสืบเสาะหาความจริง”

“หากเอ่ยถึงการสืบเสาะค้นหา ไม่มีผู้ใดชำนาญเท่าท่านผู้เฒ่า รายละเอียดของเรื่องราวท่านผู้เฒ่าคงสืบทราบแล้ว”

“ย่อมสืบทราบแล้ว” เป็นการยืนยันจากท่านผู้เฒ่า

 

เป็นการสืบทราบพร้อมกับความเห็นที่ว่า “รายละเอียดของเรื่องราวทั้งลึกลับ ซับซ้อน พลิกแพลง ยอกย้อน ตื่นเต้น เร้าใจ”

เป็นความเร้าใจจากสถานการณ์ใน “หมู่ตึกเมฆเรืองโรจน์”

2 ปู่หลาน 1 กล่าวนำ 1 ขยายความ บอกเล่าเหตุการณ์ซึ่งเกิดขึ้นได้ 8-9 ส่วน ไม่ว่ากรณีลี้ชิ้มฮัวพลั้งมือทำร้ายเล้งเซี่ยวฮุ้น

หลงกล ติดกับ ถูกคร่ากุมอย่างไร

ไม่ว่าลิ้มเซียนยี้ถูกฉุดคร่าไปยามกลางวิกาลอย่างไร บุรุษหนุ่มอาฮุยมีกระบี่รวดเร็วปานใด ยื่นมือช่วยเหลือนางด้วยวิธีใด

เมื่อเล่าถึงตอนนี้ ไม่ทราบจงใจ หรือไร้เจตนา

ดวงตาที่เป็นประกายของซุนเล่าซิงแซกลับจับจ้องมองอาฮุยกับลิ้มเซียนยี้ ดวงตากลมโตของโกวเนี้ยก็ชำเลืองมองมา

“เช่นนี้เป็นว่าโจรดอกเหมยตายใต้เงื้อมมือของฮุยเกี่ยมแขะ” เป็นถามจากโกวเนี้ย

“แต่เตี่ยตั้วเอี้ย (นายที่หนึ่งแซ่เตี่ย) ฉั้งฉิกเอี้ย (นายที่เจ็ดแซ่ฉั้ง) เห็นว่าคนที่มันฆ่ามิใช่โจรดอกเหมย ลี้ชิ้มฮัวจึงเป็นโจรดอกเหมยที่แท้จริง”

เหมือนกับจะสรุป แต่ก็มิได้เป็นบทสรุป

ยิ่งเมื่อประมวลคำพูดของ 1 ผู้เฒ่า 1 ผู้เยาว์ อันเป็น 2 ปู่หลานเข้าด้วยกันกลับยิ่งเป็นเงื่อนปมอันกลายเป็นคำถาม

 

ไม่ว่าผู้ใดก็ไม่เคยพบเห็นโจรดอกเหมยมาก่อน ไม่ทราบว่าผู้ใดเป็นตัวจริงหรือตัวปลอม แต่เตี่ยตั้วเอี้ย ฉั้งฉิกเอี้ย มีศักดิ์ศรีผิดแผกแตกต่าง คำพูดหนักแน่นดุจขุนเขา พวกเขาบอกว่าลี้ชิ้มฮัวเป็นโจรดอกเหมย ผู้อื่นได้แต่บอกว่าลี้ชิ้มฮัวเป็นโจรดอกเหมย

ดังนั้น ซิมไบ๊ไต้ซือคุมตัวลี้ชิ้มฮัวกลับเสียวลิ้มยี่

หาคาดไม่ว่า เมื่อบรรลุถึงเสียวลิ้มยี่ กลายเป็นลี้ชิ้มฮัวคุ้มครองส่งซิมไบ๊ไต้ซือกลับไป ที่แท้ซิมไบ๊ไต้ซือ ฉั้งฉิกเอี้ย และศิษย์เสียวลิ้มยี่ที่คุมตัวเดินทางกลับถูกทารกเบญจพิษลอบทำร้ายในระหว่างทาง

ลี้ท้ำฮวยนับเป็นวีรบุรุษผู้กล้าอย่างแท้จริง หากเปลี่ยนเป็นผู้อื่นเมื่ออยู่ในสภาพเช่นนั้นคงหนีหน้าไปแต่แรก ไหนเลยยินยอมช่วยเหลือซิมไบ๊ไต้ซือ

น่าเสียดายที่หลวงจีนเสียวลิ้มยี่ไม่สำนึกขอบคุณ ทั้งยังคิดเล่นงานลี้ชิ้มฮัว

ทั้งนี้เพราะคำพูดเหล่านี้เป็นลี้ชิ้มฮัวบ่งบอกเอง หลวงจีนเสียวลิ้มยี่ไม่เชื่อคำพูดของลี้ชิ้มฮัวแม้สักคำเดียว

น่าเสียดาย ซิมไบ๊ไต้ซือพอกลับถึงเสียวลิ้มยี่ก็มรณภาพ

นอกจากซิมไบ๊ไต้ซือแล้ว ทั่วทั้งแผ่นดินไม่มีบุคคลที่ 2 สามารถล่วงรู้ข้อเท็จจริงของเรื่องนี้

เสียวลิ้มยี่แม้เป็นผู้นำบู๊ลิ้ม ในสังกัดล้วนเป็นยอดฝีมือแต่หากคิดฆ่าลี้ท้ำฮวยกลับไม่ง่าย แม้มีศิษย์ 800 รูป มีมือดีมากมายสุดคณานับ แต่มีผู้ใดกล้าชิงลงมือ และมีผู้ใดคิดรับมีดแรกของเซี่ยวลี้ท้ำฮวย

ศิษย์เสียวลิ้มยี่แม้ไม่สามารถทำร้ายลี้ท้ำฮวย แต่ลี้ท้ำฮวยก็ไม่สามารถทะลวงผ่าออกจากวงล้อมของศิษย์เสียวลิ้มยี่

ยามนี้ความผิดถูกยังไม่กระจ่าง ข้อเท็จจริงไม่พิสูจน์ชัด ลี้ท้ำฮวยก็ไม่หลบลี้หนีหน้า

 

ยิ่งรับฟัง อาฮุยยิ่งร้อนรุ่มใจ หากอาฮุยตกอยู่ในสภาพเดียวกับลี้ชิ้มฮัว ไม่ทราบสมควรทำอย่างไร

สภาพของอาฮุยก็เช่นเดียวกับสภาพของลี้คิมฮวง

นี่คือการนำเอา 2 ปู่หลาน เข้ามาเป็นตัวละครสำคัญ ด้านหนึ่ง ฉายภาพที่ลี้คิมฮวงประสบอยู่ ณ เสียวลิ้มยี่ ด้านหนึ่ง กระตุ้นเร้าอาฮุยให้ต้องขบคิด

เป้าหมายเพื่อความอยู่รอดปลอดภัยของลี้คิมฮวง