เหรียญรุ่นแซยิด-72 ปี มงคล ‘หลวงปู่หยอด’ วัดแก้วเจริญ อัมพวา

เหรียญรุ่นแซยิด-72 ปี มงคล ‘หลวงปู่หยอด’ วัดแก้วเจริญ อัมพวา

 

“หลวงปู่หยอด ชินวังโส” หรือ “พระครูสุนทรธรรมกิจ” อดีตเจ้าอาวาสวัดแก้วเจริญ อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม นักบุญลุ่มน้ำแม่กลอง

วัตถุมงคลที่ได้รับความนิยมสูง คือ ไหมเบญจรงค์ 5 สี ที่ได้รับการถ่ายทอดวิทยาคมจากหลวงปู่ใจ วัดเสด็จ เชื่อว่ามีอานุภาพทางเมตตาและแคล้วคลาดจากภยันตราย

นอกจากนี้ ยังมีวัตถุมงคลอื่น เช่น พระสมเด็จ พระปิดตา เหรียญกว่า 100 รายการ ที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน คือ “เหรียญรุ่นแรก”

สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2514 ในโอกาสฉลองอายุครบ 5 รอบ หรือ 60 ปี จัดสร้างขึ้นด้วยเนื้อโลหะทองแดงและทองแดงกะไหล่ทอง

ด้านหน้า ตรงกลางเป็นรูปจำลองครึ่งองค์ห่มจีวรลดไหล่ พาดผ้าสังฆาฏิ ในวงกลมรูปไข่ ด้านบนมีอักขระยันต์เฑาะว์ พร้อมรัศมีแฉกจากขอบบน

ด้านล่างเป็นโบ ภายในมีอักษรภาษาไทย เขียนคำว่า “พระครูสุนทรธรรมกิจ” ด้านขอบล่างเหรียญเป็นมุมขยัก

ด้านหลังพื้นเรียบ มีอักขระอักษรไทย เขียนคำว่า “วัดแก้วเจริญ อายุครบ ๕ รอบ ๒๕๑๔”

เหรียญหลวงปู่หยอด รุ่นแรก

นอกจากนี้ ยังมีเหรียญรุ่น 2

สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2526 ในโอกาสฉลองอายุครบ 6 รอบ หรือ 72 ปี เนื้อโลหะทองแดงเพียงชนิดเดียวเท่านั้น

ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มทรงเสมาแบบมีหูในตัว ด้านหน้า ตรงกลางเป็นรูปจำลองนั่งสมาธิเต็มองค์บนพรม ห่มจีวรลดไหล่ พาดผ้าสังฆาฏิ

ด้านบนมีอักขระยันต์ อ่านได้ว่า อะ ระ หัง พุท โธ นะ โม พุท ธา ยะ ด้านล่างมีอักษรภาษาไทย เขียนคำว่า “พระครูสุนทรธรรมกิจ วัดแก้วเจริญ จังหวัดสมุทรสงคราม”

ด้านหลัง พื้นเรียบ มีอักขระยันต์เฑาะว์ ตรงกลางเหรียญ มีอักขระอักษรไทย เขียนคำว่า “งานอายุครบ ๖ รอบ ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๒๖”

จัดเป็นเหรียญหายากและเป็นที่นิยมของชาวอัมพวา

เหรียญหลวงปู่หยอด รุ่น 2

มีนามเดิมว่า สุนทร ชุติมาศ ถือกำเนิดเมื่อวันอังคารที่ 16 พฤษภาคม 2454 ที่บริเวณตลาดบางน้อย (ตรงข้ามศาลเจ้าพ่อโรงโขน) ต.ตาหลวง อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี ครอบครัวประกอบอาชีพค้าขาย

ในวัยเยาว์ ศึกษาหาความรู้จากบิดาจนอ่านออกเขียนได้ เมื่อเติบโตได้เป็นกำลังช่วยมารดาค้าขาย แบ่งเบาภาระให้ครอบครัว

เมื่ออายุ 18 ปี ฝากตัวเข้าบรรพชากับพระครูเปลี่ยน สุวัณณโชโต เจ้าอาวาสวัดแก้วเจริญ เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2472

อายุครบ 20 ปี เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2474 มีพระราชมงคลวุฒาจารย์ (ใจ) วัดเสด็จ เมื่อครั้งยังดำรงสมณศักดิ์ที่พระครูสุทธิสารวุฒาจารย์ เป็นพระอุปัชฌาย์, หลวงพ่อเปลี่ยน สุวัณณโชโต วัดแก้วเจริญ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระครูอุดมสุตกิจ (พลบ) วัดปราโมทย์ เป็นพระอนุสาวนาจารย์

ได้รับนามฉายา ชินวังโส มีหมายความว่า ผู้สืบวงศ์แห่งพระพุทธเจ้า

การศึกษาพระปริยัติธรรมนั้น วิริยะ อุตสาหะ สนใจใฝ่ศึกษาหาความรู้ด้วยตนเอง จนได้รับวิทยฐานะความรู้สามัญ สอบไล่ได้ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 (สมัครสอบ) พ.ศ.2478 สอบได้นักธรรมชั้นตรี-โท-เอก ตามลำดับ

ดูแลปรนนิบัติพระครูเปลี่ยน ซึ่งอาพาธอย่างใกล้ชิด ด้วยกตัญญูกตเวทิตา จวบจนถึงแก่มรณภาพ เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2484

วันที่ 17 สิงหาคม 2484 พระราชมงคลวุฒาจารย์ เจ้าคณะอำเภออัมพวา จึงแต่งตั้งให้เป็นผู้รักษาการเจ้าอาวาสวัดแก้วเจริญ และรักษาการแทนเจ้าคณะตำบลเหมืองใหม่

หลวงปู่หยอด ชินวังโส

วัดแก้วเจริญ เป็นวัดโบราณของชาวรามัญ สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาและรกร้างมานาน

มีเรื่องเล่าว่า ชาวบ้านท่าใหญ่กรุงศรีอยุธยา อพยพหลบภัยพม่า เมื่อเสียกรุง พ.ศ.2310 มาถึงสถานที่แห่งนี้แล้วเห็นว่ามีทำเลเหมาะสม จึงช่วยกันแผ้วถางป่าลึก เข้าไปประมาณ 3 เส้น พบวัดร้าง มีซากอุโบสถ พระพุทธรูปศิลาแลงปางต่างๆ มากมาย และพระพุทธรูปสร้างด้วยแก้ว มีใบเสมารอบอุโบสถ พระพุทธรูปหล่อด้วยสำริดไม่มีผ้าพาด

บริเวณวัดยังมีเจดีย์รามัญ 2 องค์ ชำรุดหักพังอยู่ ชาวบ้านเห็นว่าคงไม่เหมาะกับการสร้างที่อยู่อาศัย เพราะมีวัดร้างอยู่ จึงไปแผ้วถางสถานที่แห่งใหม่ ห่างจากวัดประมาณ 5 เส้น ตั้งเป็นหมู่บ้านท่าใหญ่ตามชื่อเดิมของผู้อพยพ

กระทั่งปี พ.ศ.2340 พระอธิการต่าย ปฏิสังขรณ์ให้มีสภาพดีขึ้น โดยพระพุทธรูปที่สร้างด้วยแก้วเป็นปูชนียวัตถุสำคัญ ประชาชนจึงเรียกวัดนี้ว่า วัดแก้ว

ต่อมาพระพุทธรูปแก้วองค์นี้ เนื่องจากมีขนาดเล็กมาก เกรงว่าจะไม่ปลอดภัย และเห็นว่าควรจะเก็บไว้ในที่ปลอดภัย จึงฝังไว้ที่ใต้ฐานชุกชีของพระประธาน แต่ปัจจุบันอยู่ภายนอกฐานชุกชีแล้ว

ประกาศตั้งเป็นวัดเมื่อปี พ.ศ.2375 ชื่อว่า “วัดแก้วเจริญ” และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2529

พ.ศ.2487 ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาส และเจ้าคณะตำบลเหมืองใหม่-วัดประดู่

หลังจากได้รับตำแหน่ง พัฒนาวัดอย่างสุดความสามารถ จนวัดเจริญรุ่งเรืองขึ้นตามลำดับ ทั้งการจัดการให้วัดเป็นสถานพยาบาลรักษาผู้ที่เดือดร้อนต่างๆ

แต่ที่โด่งดังมาก คือ การต่อกระดูก ประสานกระดูก เรียกว่าสมัยก่อนใครแขนหักขาหักมารักษาที่วัดแก้วเจริญกันแทบทั้งสิ้น

ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2491 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นตรีที่ พระครูสุนทรธรรมกิจ

พ.ศ.2499 เป็นพระอุปัชฌาย์

พ.ศ.2507 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโท ในราชทินนามเดิม

พ.ศ.2517 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นเอก ในราชทินนามเดิม

ผลงานด้านการศึกษา เป็นเจ้าสำนักเรียนธรรมชั้นตรี-โท-เอก และเป็นกรรมการสงฆ์องค์การเผยแผ่ อำเภออัมพวา

งานเผยแผ่พระพุทธศาสนาเป็นพระอุปัชฌาย์ในการบรรพชาและอุปสมบท ปกครองสงฆ์สำนักวัดแก้วเจริญ ในการอบรมสั่งสอนสามเณรและภิกษุในเรื่องจริยาวัตร กิจวัตรและศาสนพิธี จัดเทศนาอบรม สั่งสอนคฤหัสถ์ให้เกิดศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา

ผลงานด้านสาธารณูปการ เป็นผู้นำบรรพชิตและคฤหัสถ์ ดำเนินการก่อสร้างปฏิสังขรณ์ บำรุงรักษาวัดและศาสนสมบัติให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และเจริญรุ่งเรืองตามลำดับ สืบทอดตามเจตนารมณ์ของเจ้าอาวาสในอดีต

มรณภาพอย่างสงบ เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2541

สิริอายุ 86 ปี พรรษา 66 •

 

 

โฟกัสพระเครื่อง  | โคมคำ

[email protected]