ผู้การป๊อปนายทหารประชาธิปไตย อดีตเลขาเพื่อไทย เตรียมลาออก “ยอมหักไม่ยอมงอ” คาดย้ายเสริมทัพไทยสร้างไทย

ช่วงบ่ายที่ผ่านมามีการส่งหมายแจ้งนักข่าวเพื่อทำข่าวการลาออกของ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ หรือ “ผู้การป๊อป” อดีตเลขาธิการพรรคเพื่อไทย อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงICT ส.ส.กรุงเทพเขตสายไหมหลายสมัย ซึ่งจะแถลงลาออกที่ เคหะออเงิน เขตสายไหม เวลา 10.00 น. ในวันที่ 27 มกราคม 66

ย้อนดูประวัติ นาวาอากาศเอกอนุดิษฐ์ นาครทรรพ ถือว่าเป็นแกนนำคนสำคัญของพรรคเพื่อไทย ในอดีตเคยเป็นผู้อำนวยการสำนักงานปราบโกงพรรคเพื่อไทย ทำภารกิจปราบคอรัปชั่นในยุครัฐบาลอภิสิทธิ์ ร่วมกับทีมของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ขุดคุ้ยทุจริตในรัฐบาลอภิสิทธิ์อย่างเข้มข้น ทั้งเรื่องชุมชนพอเพียง เรื่องสลายการชุมนุมคนเสื้อแดง เรื่องงบไทยเข้มแข็ง น้ำมันปาล์ม GT200 ประกันราคาข้าว ฯลฯ ผู้การป๊อปภายใต้สำนักงานปราบโกงฝากผลงาน และฝีไม้ลายมือไว้มากมาย เมื่อครั้งอภิปรายไม่ไว้วางใจ “รัฐบาลอภิสิทธิ์” จนนำมาสู่การยุบสภาของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และพรรคเพื่อไทยได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง ในปี 2554 จากผลงานที่เข้าตา ทำให้ผู้การป๊อปได้ขึ้นแท่นเป็น “รัฐมนตรีว่าการกระทรวง ICT” ฝากโครงการ ICT Free WIFI ทั่วประเทศ , แท็ปเล็ตเพื่อการศึกษา และอีกหลายนโยบายแม้จะต้องถูกพับไปเพราะการรัฐประหาร 2557

ผู้การป๊อปในสมัยที่เป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงICT ด้วยบุคลิคที่ “ยอมหักไม่ยอมงอ” จึงเป็นรัฐมนตรีเพียงคนเดียวในสมัยยิ่งลักษณ์ที่รักษาการครบเทอม และไม่เคยถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ เรียกได้ว่า ไม่เคยมีเรื่องทุจริตในฐานะที่เคยเป็นเจ้ากระทรวงเลย

ผู้การป๊อปกลับมาอีกครั้งหลังรัฐประหาร 2557 ในฐานะ “พ่อบ้านเพื่อไทย” เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ช่วงที่มีการปรับโครงสร้างภายในของพรรคเพื่อไทยโดยมี คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เป็นประธานยุทธศาสตร์และแคนดิเดตนายกของพรรคเพื่อไทย แม้พรรคเพื่อไทยจะชนะเลือกตั้งอย่างถล่มทลายแต่ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ

ผู้การป๊อปในฐานะเลขาธิการพรรค จึงต้องทำหน้าที่ “ฝ่ายค้าน” และหลายครั้งได้ลุกขึ้นอภิปรายการบริหารจัดการล้มเหลวของรัฐบาล ทั้งเรื่องการบริหารจัดการโควิด การปราบปรามสลายการชุมนุมของนักศึกษา ผู้การป๊อปเคยชักชวนให้เพื่อ ส.ส.ในสภา เปิดไฟฉายในสภา เพื่อเป็นเชิงสัญลักษณ์ ในการต่อต้านพลเอกประยุทธ์ และเรียกร้องให้พลเอกประยุทธ์ยุบสภาตามข้อเรียกร้องของกลุ่มนักศึกษาทั่วประเทศในขณะนั้น

สำหรับผู้การป๊อปเข้ามาเล่นการเมืองได้ จากคำชักชวนของคู่ซี้นายทหารนักบิน F16 น.ต.ศิธา ทิวารี หรือผู้พันปุ่น ในสมัยที่คุณหญิงสุดารัตน์เป็นประธานภาค กทม. เรียกได้ว่า 2 คู่ซี้นักบินรบ เป็นกุนซือคนสำคัญของเจ้าแม่ กทม. ก็ว่าได้

ผู้การป๊อปเคยให้สัมภาษณ์ว่า “ลาออกจากราชการทหารมาเป็นนักการเมืองก็เพราะ “เชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตย เมื่อมาเป็นนักการเมืองก็จะขอยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย”
สำหรับประวัติของผู้การป๊อปเป็น อดีตนักบินรบ ผู้บังคับฝูงคนแรก ของฝูงบินขับไล่สกัดกั้นที่ 102 (F16-ADF) จบเตรียมทหารรุ่นที่ 23 เป็นนักเรียนนายเรืออากาศรุ่นที่ 30 สอบได้ที่ 1 ของรุ่นโรงเรียนเสนาธิการทหารอากาศ รุ่นที่ 40 เป็นอดีตผู้บังคับหน่วยบินขับไล่โจมตีไอพ่นภารกิจป้องกันประเทศ อดีตเสนาธิการฝึกร่วมคอบบร้าโกลล์ 1999 อดีตผู้บังคับฝูงบินผสม การฝึก Red Flag 03 (ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา) ของเครื่อง F-16 ครั้งแรกของประเทศไทย

ผ่านการคัดเลือกเข้าเป็นนักเรียนเตรียมทหารตั้งแต่อายุ 15 ปี เป็นแกนนำของรุ่นมาโดยตลอด เลือกเหล่าทัพเป็นทหารอากาศ เพราะมีความฝันอยากเป็นนักบินเพื่อปกป้องน่านฟ้าและอธิปไตยของประเทศ
ในปี 2548 ตัดสินใจลาออกจากกองทัพอากาศ เพื่อมาทำหน้าที่ตัวแทนประชาชน ลงสมัครเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรในเขตสายไหมและได้รับการเลือกตั้งด้วยคะแนนมากที่สุดในกรุงเทพมหานคร
เรียกได้ว่า การมาเสริมทัพไทยสร้างไทยของคู่ซี้ทางการเมือง นายทหารฝ่ายประชาธิปไตย “ผู้การป๊อป ผู้พันปุ่น” ในวันพรุ่งนี้ ครั้งนี้ ถือเป็นนัยยะทางการเมืองที่สำคัญและจะทำให้พรรคไทยสร้างไทยเป็นที่จับตามองมากขึ้นท่ามกลางกระแสการย้ายพรรคด้วยหรือไม่ ต้องจับตาดูกันต่อไป