พลวัตในลาว | อุกฤษฏ์ ปัทมานันท์

อุกฤษฏ์ ปัทมานันท์

โลกทรรศน์ | อุกฤษฏ์ ปัทมานันท์

 

พลวัตในลาว

 

ก้าวสู่ปีกระต่ายแล้ว เราไม่อาจละเลยวิเคราะห์ตั้งแต่ต้นปีว่า ปีนี้ กระต่ายเริงร่า หรือตื่นตูม จนไร้ทิศไร้ทางหรือไม่

หากเราจะวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงภายในตัวเรา ก่อนจะมองจากข้างในของเราเอง ไม่ว่าจะเป็นสมการการเมืองใหม่หลังเลือกตั้งทั่วไปของไทยจะนำมาสู่ระเบียบอำนาจใหม่หรือไม่

ระเบียบโลกภายใต้สงครามร้อนรัสเซีย-ยูเครน สงครามเย็นใหม่สหรัฐอเมริกา-จีน

สภาวะโลกร้อนที่เปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ วิถีชีวิตทั้งผู้คนและหมู่สิ่งมีชีวิตถ้วนทั่ว เศรษฐกิจ อาหาร การกินและเทคโนโลยีของวิถีการผลิต พลังงาน แม้แต่วิถีชีวิตการทำงาน

ปีกระต่ายในเพื่อนบ้านของเราเป็นอย่างไรกันบ้าง

ดังนั้น ผมจึงขอเริ่มต้นที่พลวัตในลาว

 

วิถีลาว

ในความคิดเห็นของศาสตราจารย์ Toshiro Nishizawa แห่งมหาวิทยาลัย Tokyo ประเทศญี่ปุ่น และอดีตที่ปรึกษารัฐบาลลาว เห็นว่าเศรษฐกิจลาวอาจยังไม่กลับมาดีเหมือนเมื่อก่อน แม้สิ่งที่แย่สุดๆ ทางเศรษฐกิจจะหมดไป แต่ว่าภัยอันตรายที่ไม่คาดคิดมาก่อนจะเกิดขึ้น1

ธนาคารโลกชี้ว่าระหว่างทศวรรษ 2010 อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจลาวเติบโตที่ 6% หรือ 8% แต่ปี 2023 อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจจะเติบโตเพียง 2.5%

ส่วนอัตราเงินเฟ้อกระโดดสูงถึง 38.4% ในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว อันถือได้ว่า อัตราเงินเฟ้อสูงของลาวสูงที่สุดเทียบกับทุกประเทศในเอเชีย

ในขณะที่ราคาสินค้าสำคัญคืออาหาร และอาหารที่ไม่ใช่เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เพิ่มขึ้นเกือบ 43% ค่าเงินกีบอ่อนตัวลง 68% เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ อัตราความยากจนสูงขึ้น

การคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจลาวของธนาคารโลกคือ 3.8% ส่วนธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชียคาดว่า 3.5% ทั้งนี้ ภายใต้สมมุติฐานว่าทางการลาวใช้หนี้ต่อทางการจีน

แม้ว่านักวิเคราะห์เกือบทั้งหมด เห็นว่า หนี้สินของทางการลาวต่อจีนไม่คิดดอกเบี้ย ด้วยทางการจีนเห็นว่าเพราะความเป็นพันธมิตรที่ภักดีของลาว และสถานะของลาวยังเกี่ยวข้องกับภูมิรัฐศาสตร์ที่กระทบต่อจีนด้วย ทั้งนี้ จากเงื่อนไขของหนี้นี้จะทำให้ทางการลาวต้องใช้หนี้เฉลี่ย 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปีจนกระทั่งถึงปี 2026

มีนักวิเคราะห์มองในแง่ดีว่า เศรษฐกิจของลาวจะฟื้นตัวในระยะสั้นๆ อย่างไรก็ตาม พรรคประชาชนลาวปฏิวัติต้องเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจและมีนโยบายที่แน่วแน่ โดยแยกแยะความแตกต่างอย่างสำคัญระหว่างแรงจูงใจทางการเมืองกับเหตุผลทางเศรษฐกิจ

ทางธนาคารโลกแนะนำทางการลาวในหลายๆ แนวทางในการฟื้นฟูเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ เช่น ฟื้นเสถียรภาพการคลังของประเทศ รวมทั้งสร้างรายได้ของรัฐโดยการปรับการจัดเก็บภาษีและปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม

 

การจัดการเศรษฐกิจและระบบการเมือง

พื้นฐานเศรษฐกิจลาวเชื่อมโยงกับการส่งออกสินค้าทางการเกษตร (Farm Export) และอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ซึ่งเปราะบาง

เพราะภาคการส่งออกของลาวยังคงเป็นอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานสูง (Labor intensive) แล้วยังคงพึ่งพาการส่งออกทรัพยากรธรรมชาติได้แก่ สินแร่ ไม้และพันธุ์พืช

ส่วนภาคการผลิตของลาวนับได้ว่า ภาคการผลิตขนาดเล็กกำลังเติบโต ซึ่งมีการผลิตส่งออกไปยังกัมพูชาและเวียดนาม

นอกจากนี้ ลาวยังเน้นเขตเศรษฐกิจพิเศษ (Special Economic Zone-SEZ) โดยมูลค่าการผลิตของเขตเศรษฐกิจพิเศษทั้งหมดอยู่ที่ 287 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

หากมองจากภาคการส่งออก โอกาสของลาวดีขึ้นทางด้านโลจิสติกส์อันเป็นต้นทุนแพงมากๆ ของเศรษฐกิจลาว ด้วยสภาพที่ลาวเป็นประเทศที่ไม่มีทางออกทางทะเล (Land lock country) ซึ่งต้องอาศัยการขนส่งทางบกด้วยรถบรรทุกที่มีค่าขนส่งแพงมาก

ครั้นเมื่อทางการลาวเปิดใช้เส้นทางรถไฟความเร็วสูงจีน-ลาว การขนส่งสินค้าและบริการจากลาวสู่จีนและจีนสู่ลาวได้อาศัยเส้นทางนี้มากขึ้น

ในปี 2019 ข้อมูลประมาณการการส่งออกสินค้าทางรถไฟความเร็วสูงยังไปที่จีน ไทยและเวียดนามอันเป็นเกือบ 4 ใน 5 ของการส่งออกทั้งหมด

จะเห็นได้ว่า เศรษฐกิจและสังคมลาวหนีไม่พ้นประเด็นของระเบียบโลกที่สั่นคลอนจากสงครามรัสเซีย-ยูเครนและผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลด้านพลังงานต่อลาวอย่างมาก

ราคาน้ำมันก๊าซโซลีนพุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ คนลาวหันมาซื้อน้ำมันที่มีราคาถูกกว่าจากฝั่งไทย บางครั้งน้ำมันในลาวขาดแคลน

ด้วยเหตุนี้ ปรากฏการณ์การต่อต้านทางสังคม (Social unrest) คล้ายที่เกิดขึ้นในหลายประเทศเช่นในรัสเซีย จีน อิหร่าน ก็เกิดขึ้น

มีการประท้วงรัฐบาลที่ล้มเหลวในการบริหารจัดการทางเศรษฐกิจในโลกโซเชียล ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในลาว มีการประท้วงในบริเวณสถานีบริการน้ำมันที่ประชาชนนำรถของตนมาเติมน้ำมัน แล้วถูกแบ่งปันน้ำมันและบางครั้งขาดแคลน

ปรากฏการณ์การต่อต้านทางสังคมในลาว ยังสะท้อนปัญหาความไม่พอใจทางสังคมท่ามกลางการก่อตัวขึ้นของคนจนเมือง (Urban Poor)

 

ความขัดแย้งทางการเมือง

แม้ว่าพรรคประชาชนลาวปฏิวัติยังคงปลอดภัยด้วยระเบียบการเมืองการปกครองในระบอบคอมมิวนิสต์

แต่ความขัดแย้งภายในพรรคคอมมิวนิสต์อันแสดงถึงปัญหาการสร้างสมดุลระหว่างฝักฝ่าย (Faction) เครือข่ายครอบครัว (Family network) และกลุ่มผลประโยชน์ (Interest group) ก็เผยตัวตนออกมา

ระหว่างที่เขียนบทความนี้ ครอบครัวที่ทรงอำนาจ ครอบครัวสีพันดอน ภายใต้การนำของอดีตประธานพรรคประชาชนลาวปฏิวัติ (Laos’s People Revolution Party) พล.อ.คำไต สีพันดอน ก็ยึดอำนาจได้

30 ธันวาคม 2022 ที่ประชุมสภาลงมติเลือก สอนไซ สีพันดอน (Sonexay Siphandone) เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 9 ของลาว2

สอนไซ สีพันดอน อายุ 56 ปี เป็นลูกของคำไต สีพันดอน เขายังเป็นอดีตรัฐมนตรีกระทรวงแผนการและการลงทุนด้วย

สะพังทอง สีพันดอน ลูกชายอีกคนหนึ่งของคำไต สีพันดอน ดำรงตำแหน่งเจ้าผู้ครองนครหลวงเวียงจันทน์

เวียงทอง สีพันดอน ลูกสาวของคำไต สีพันดอน ดำรงตำแหน่งประธานประชาชนศาลสูงสุด

เวียงสะหวัด สีพันดอน ลูกชายอีกคนหนึ่งของคำไต สีพันดอน ก้าวขึ้นเป็นรัฐมนตรีกระทรวงโยธาธิการและขนส่ง3

ในแง่การเมืองในระบอบคอมมิวนิสต์ การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองของลาวดูแล้วราบรื่นมาก การผ่องถ่ายอำนาจเกิดขึ้นในรัฐนิติบัญญัติแห่งชาติ ด้วยการลงคะแนนเสียง 149 เสียง จาก 151 เสียง พร้อมด้วยการประกาศขอลาพักผ่อน เนื่องจากมีปัญหาด้านสุขภาพของอดีตนายกรัฐมนตรี พันคำ วิพาวัน (Phankham Viphavahn) ซึ่งอายุ 72 ปี4

แต่จริงๆ มีความตึงเครียดภายในพรรคเนื่องจากฝักฝ่ายทางการเมือง

พันคำ วิพาวัน ซึ่งได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีเมื่อมีนาคมปี 2021 โดยการสนับสนุนจากสหาย ทองลุน สีสุลิด5 เขาถูกวิจารณ์อย่างมากจากตัวแทนในรัฐสภาและผู้ใหญ่ในพรรคประชาชนปฏิวัติลาว เรื่องความล้มเหลวในการบริหารเศรษฐกิจของประเทศ

ในรายงานของ David Hutt เขามีข้อสังเกตว่า อนาคตของนายกรัฐมนตรี พันคำ วิพาวัน ไม่แน่นอน เขาได้รับข้อสังเกตจากกลุ่มนักธุรกิจชาวจีนและเหล่าที่ปรึกษาในลาว ซึ่งเชื่อว่า พันคำ วิพาวัน ใกล้ชิดกับกลุ่มนิยมเวียดนามในพรรคประชาชนปฏิวัติลาว

บางคนเห็นว่า เขาทำงานช้ามากๆ ยกตัวอย่างเช่น เราได้เปิดเขตเศรษฐกิจพิเศษแห่งใหม่ได้เพียง 1 แห่งเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 20226

นอกจากนี้ ยังอ้างว่า มีข่าวลือในสื่อโซเชียลกล่าวหาผู้นำระดับสูงว่าอาจเกี่ยวข้องกับนักธุรกิจหญิงที่พบร่างอยู่ใต้แม่น้ำโขงเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา คนลาวที่พำนักอยู่ต่างประเทศกล่าวหาว่า เธอเป็นเมียน้อยของอดีตผู้นำระดับสูง

นายกรัฐมนตรีลาวคนใหม่ สอนไซ สีพันดอน กล่าวว่า ผมจะเชิดชูจิตวิญญาณของนักปฏิวัติขึ้นไปอีกระดับ

พร้อมด้วยการครองอำนาจของครอบครัวสีพันดอน

 

1อ้างจาก David Hutt, “2023 will be better, but not great, for Laos” Asia Times, 28 December 2022.

2การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ สมัยที่ 4 วันที่ 30 ธันวาคม 2022 อ้างจากไทย พีบีเอส 30 ธันวาคม 2022

3แคน สาริกา tweet ผู้ยิ่งใหญ่ 30 ธันวาคม 2022

4“ลาวได้นายกฯ ใหม่ฯ” มติชนสุดสัปดาห์ 31 ธันวาคม 2565

5แคน สาลิกา tweet นายกฯ ถูกกดดันให้ลาออก 30 ธันวาคม 2022

6Opcit.,