ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 2 - 8 ธันวาคม 2565 |
---|---|
คอลัมน์ | คนมองหนัง |
เผยแพร่ |
หนึ่งใน “ภาพจำ” เกี่ยวกับแฟนบอลญี่ปุ่น เวลาพวกเขาเดินทางไปเชียร์ทีมชาติของตนเองในทัวร์นาเมนต์ระดับนานาชาติ ก็คือ ภาพที่แฟนบอลเหล่านั้นจะพร้อมใจกันเก็บขยะบนอัฒจันทร์ ภายหลังการแข่งขันเสร็จสิ้นลง
แม้กระทั่งเมื่อทีมญี่ปุ่นพลิกล็อกเอาชนะตัวเต็งอย่างเยอรมนี หรือพ่ายคอสตาริกาไปอย่างพลิกความคาดหมาย ในฟุตบอลโลก 2022 แฟนบอลชาวญี่ปุ่นที่กาตาร์ก็ไม่ได้หลงระเริงดีอกดีใจหรือโศกเศร้าฟูมฟาย เสียจนลืมเลือนวิถีปฏิบัติอันเป็นเอกลักษณ์ของพวกตน
ทว่า พวกเขายังคงเดินหน้าเก็บขยะตรงโซนที่นั่งคนดูเช่นเดิม ไม่มีเปลี่ยนแปลงผันแปร
จนมีหลายคนเอ่ยชมเชยว่า ไม่ว่านักฟุตบอลทีมชาติญี่ปุ่น เจ้าของฉายา “กองทัพซามูไรบลูส์” จะไปได้ไกลแค่ไหนในฟุตบอลโลกหนนี้ แต่แฟนบอลญี่ปุ่นได้กลายเป็นหนึ่งใน “ผู้ชนะ” ประจำทัวร์นาเมนต์ไปแล้วอย่างไม่ต้องสงสัย
คําถามที่คนทั่วโลกน่าจะสนใจ ก็คือ ทำไมแฟนบอลชาวญี่ปุ่นจึง “รัก (ษ์) ความสะอาด” ขนาดนี้?
“สกอตต์ นอร์ธ” ศาสตราจารย์ด้านสังคมวิทยา แห่งมหาวิทยาลัยโอซากา เคยให้สัมภาษณ์กับบีบีซีเมื่อปี 2018 ว่าพฤติกรรมรัก (ษ์) ความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของคนญี่ปุ่นนั้น คือการแสดงให้เห็นถึงการมีเกียรติยศ-ความภาคภูมิใจในวิถีการดำเนินชีวิตของตนเอง
“การทำความสะอาดอัฒจันทร์ภายหลังการแข่งขันฟุตบอลแมตช์ต่างๆ จบลง คือส่วนต่อขยายจากพฤติกรรมปกติที่คนญี่ปุ่นถูกพร่ำสอนในโรงเรียน ที่นั่น เด็กๆ จะต้องทำความสะอาดห้องเรียนของตนเอง รวมถึงระเบียงทางเดินต่างๆ ด้วย”
เช่นเดียวกับ “มาซาฟูมิ มงเด็น” นักวิชาการชาวญี่ปุ่นที่ทำงานอยู่ในประเทศออสเตรเลีย ซึ่งบอกกับสำนักข่าวเอสบีเอสว่า
“ตามความเข้าใจของผม พวกเราจะถูกสอนมาตั้งแต่ในระดับประถมศึกษา ให้รู้จักรักษาความสะอาดสิ่งของเครื่องใช้และพื้นที่ของตนเอง เช่น ห้องเรียน
“นี่หมายความว่าเมื่อคุณต้องออกจากสถานที่เหล่านั้น คุณต้องไม่ปล่อยให้มันมีสภาพสกปรกรกรุงรัง แต่อย่างน้อยที่สุด คุณต้องทำให้มันมีความสะอาด เหมือนเมื่อตอนคุณเพิ่งก้าวเข้ามาในสถานที่ดังกล่าว
“แน่นอน ไม่ใช่ชาวญี่ปุ่นทุกคนหรอกที่จะมีพฤติกรรมรักความสะอาดแบบนี้ แต่ว่าแนวคิดเรื่องการรักษาความสะอาดได้ถูกปลูกฝังลงไปในวิธีคิดและวิถีปฏิบัติของพวกเรา แนวคิดที่สอนให้เราแสดงความเคารพและมองเห็นคุณค่าของข้าวของและสถานที่ต่างๆ”
ทางด้านแฟนบอลญี่ปุ่นในประเทศกาตาร์ก็มองพฤติกรรมของตนเองในฐานะ “เรื่องปกติ” ที่ไม่มีอะไรน่าแปลกประหลาดใจ ดังเช่น แฟนบอลชื่อ “ดันโนะ” ที่กล่าวกับอัลจาซีราว่า
“สิ่งที่พวกคุณคิดว่าเป็นเรื่องพิเศษ จริงๆ แล้ว มันคือเรื่องปกติมากๆ สำหรับพวกเรา”
ก่อนที่เขาจะอธิบายคล้ายๆ นักวิชาการสองรายแรกว่า “เมื่อพวกเราเข้าใช้ห้องน้ำ เราก็ต้องทำความสะอาดมันด้วยสองมือของตัวเอง เมื่อพวกเราต้องออกจากห้องห้องหนึ่ง เราต้องแน่ใจว่าเราจะเดินออกมาพร้อมด้วยความเป็นระเบียบเรียบร้อย นั่นคือประเพณี
“เราไม่สามารถเดินออกมาจากสถานที่ต่างๆ โดยปล่อยทิ้งให้มันสกปรก นี่คือส่วนหนึ่งที่เราถูกสอนในระบบการศึกษา และจากกระบวนการเรียนรู้ในชีวิตประจำวัน”
แม้ “ภาพจำ” เรื่อง “การรัก (ษ์) ความสะอาด” ของแฟนบอลญี่ปุ่น จะกลายเป็นไวรัลคลิปหรือโพสต์ยอดฮิตทั่วโซเชียลมีเดีย แต่พวกเขาเองก็ไม่ได้ให้ความสนใจกับกระแสฮือฮาดังกล่าวมากนัก หรือไม่ได้ตั้งใจจะโชว์ออฟเพราะอยากตกเป็นข่าวโด่งดังในโลกออนไลน์
“ความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยเป็นเหมือนศาสนาสำหรับพวกเราชาวญี่ปุ่น และเราพยายามที่จะอนุรักษ์คุณค่าแบบนี้เอาไว้”
แฟนบอลหญิงชื่อ “เซซูกะ” กล่าวพร้อมกับโชว์ถุงใส่ขยะแพ็กใหญ่ที่พกพาอยู่ในเป้สะพายหลัง ซึ่งเธอจะนำไปใช้เอง รวมทั้งแบ่งปันแจกจ่ายให้เพื่อนชาวญี่ปุ่นคนอื่นๆ ได้ใช้ด้วย ภายหลังกรรมการเป่านกหวีดหมดเวลาการแข่งขัน
แม้พฤติกรรม “รัก (ษ์) ความสะอาด” ของแฟนบอลญี่ปุ่น จะมีลักษณะเป็น “วัฒนธรรม” ที่ค่อยๆ ถูกบ่มเพาะลงในความคิด-วิถีชีวิตของผู้คนกลุ่มหนึ่ง จนค่อยๆ กลืนกลายเป็น “ธรรมชาติ” สำหรับพวกเขา
อย่างไรก็ดี ยังมีเบื้องหลังอีกด้าน ซึ่งบ่งชี้ว่าพฤติกรรมทำนองนี้อาจเกิดขึ้นจากการ “จัดตั้ง” อย่างเป็นระบบแบบแผนด้วยเช่นกัน
“จุดมุ่งหมายหลักของเรา คือการเติมอัฒจันทร์ให้เต็มไปด้วยสีน้ำเงิน (สีของชุดแข่งทีมชาติญี่ปุ่น) ด้วยถุงพลาสติกสีน้ำเงิน และเมื่อพวกเรามีถุงเหล่านี้อยู่ในมือแล้ว เราก็น่าจะช่วยกันเก็บขยะที่ถูกทิ้งเอาไว้ตามที่ต่างๆ ระหว่างทางกลับบ้านไปเสียเลย”
“มาซายะ ฟูกูโมริ” หนึ่งในแกนนำร่วมของกองเชียร์ทีมชาติญี่ปุ่น ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเอพี ก่อนเปิดเผยต่อว่า
“สมาคมฟุตบอลญี่ปุ่นมอบถุงพวกนี้ (ถุงพลาสติกสีน้ำเงิน) ให้กับเรา ทำให้บรรดากองเชียร์สามารถเก็บขยะมาใส่ลงในถุง จนมันพองโตขึ้นมาได้
“(การมาเดินเก็บขยะหลังความพ่ายแพ้ต่อคอสตาริกา) คือเรื่องปกติที่คนญี่ปุ่นทำกัน ถึงที่สุดแล้ว การชนะหรือพ่ายแพ้ในเกมการแข่งขันไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญอะไร พวกเราถือถุงสีน้ำเงินเหล่านี้เข้ามาเชียร์ทีมชาติญี่ปุ่น ดังนั้น ผมจึงรู้สึกว่าเรากำลังมีพฤติกรรมดื้อดึงต่อ ‘เทพเจ้าแห่งฟุตบอล’ ถ้าการตัดสินใจว่าจะเก็บขยะบนอัฒจันทร์หรือไม่ ยึดติดอยู่กับแค่ผลแพ้หรือชนะ
“ด้วยเหตุนี้ ในสามัญสำนึกของพวกเรา เราจึงควรจะเก็บขยะใส่ถุงกันต่อไป และพวกเราก็จะถือถุงพวกนี้ระหว่างเข้าชมการแข่งขันแมตช์หน้า เพื่อเชียร์ทีมชาติของเรา” •
เนื้อหาจาก
https://www.bbc.com/sport/football/63735823
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022