โลกดิจิทัลปัจจุบันก้าวหน้าไปไกลมาก ปัจจุบันมีผู้เชี่ยวชาญที่เรียกตัวเองว่าเป็น Digital Agency ในไทยมากมายที่รับหน้าที่ผลิตโฆษณา ดูแลสื่อ Media ต่างๆ ให้กับลูกค้าหลากหลายแบรนด์ ซึ่งในส่วนนี้ลูกค้าบางเจ้าที่เป็น Marketing Inhouse ก็อาจจะตัดสินใจทำด้วยตนเอง แต่บางเจ้าถ้าหากมีงบประมาณและเวลาที่จำกัดก็อาจจะหันมาพึ่งผู้เชี่ยวชาญที่เป็น Digital Agency แต่ทั้งนี้คำว่าผู้เชี่ยวชาญเองก็ยังคงต้องยืนยันในข้อดีและจุดเด่นของตนเองที่ยังทำให้ได้รับความนิยมและความไว้วางใจจากลูกค้าอยู่ แต่ก่อนจะไปถึงจุดนั้นในฐานะผู้ว่าจ้างเองจะมีสิ่งสำคัญอะไรที่ควรทราบก่อนตัดสินใจว่าจะจ้าง Digital Agency เจ้าไหนดี ตามมาหาคำตอบกันต่อได้จากบทความนี้เลย

 

ผู้เชี่ยวชาญที่มีทีมครบครัน

สิ่งแรกที่ลูกค้าหรือผู้ว่าจ้างมักจะถามหาหรือคาดหวังเมื่อกำลังมองหา Digital Agency เจ้าไหนดี นั่นก็คือผู้เชี่ยวชาญหรือ Agency House เจ้านั้นๆ มีสมาชิกในทีมเป็นใคร ทำหน้าที่อะไร หรือแบ่งงานกันอย่างไรบ้าง ทั้งนี้ตัวผู้เชี่ยวชาญเองจะต้องรับหน้าที่วางแผนทางการตลาดและคิดแคมเปญ ตลอดไปจนถึงการรับผิดชอบตั้งแต่ต้นจนจบแคมเปญ ดังนั้นเพื่อเป็นการสร้างความไว้วางใจ Agency House มืออาชีพเองจะต้องมีทีมที่ครบครัน สามารถปฏิบัติงานได้อย่างครอบคลุมและส่งมอบงานให้ลูกค้าได้ตามกำหนด ยิ่งทีมมีสมาชิกครบครัน มีความสามารถหลากหลายก็จะยิ่งหล่อหลอมให้ทีมนั้นมีความแข็งแกร่งและสามารถรับมือกับโจทย์ยากๆ จากแบรนด์ลูกค้ามากยิ่งขึ้น จึงจะสามารถตอบโจทย์คำถามที่ว่าจะว่าจ้าง Digital Agency เจ้าไหนดีถึงจะคุ้มค่าคุ้มราคาที่จ่ายไป

 

มีการวางแผนแบบระยะยาว

ลำดับถัดมาของการมองหาว่าจะว่าจ้าง Digital Agency เจ้าไหนดีนั่นก็คือ Agency House หรือผู้เชี่ยวชาญเจ้านั้นๆ จะต้องมีการมองการณ์ไกล มีการเตรียมแผนงานให้กับลูกค้าได้ในแบบระยะยาว ถ้าหากเป็นการเซ็นสัญญาเพื่อทำงานกันเป็นหลักปี การวางแผนของผู้เชี่ยวชาญที่เป็น Agency จะต้องสามารถวางแผนการทำงานให้กับลูกค้าได้อย่างน้อย 2 ไตรมาส หรือประมาณ 3-6 เดือนข้างหน้า ลูกค้าจะต้องสามารถทราบได้ว่า Agency House เจ้านี้จะนำพาแบรนด์ไปสู่ทิศทางไหนถึงจะกลายเป็นที่รู้จักในท้องตลาด

 

ในท้ายที่สุดของคำถามที่ว่าจะว่าจ้าง Digital Agency เจ้าไหนดีก็คงต้องบอกว่าให้เลือกผู้เชี่ยวชาญที่พูดคุยภาษาเดียวกัน ต้องมั่นใจว่าจะสามารถส่งมอบงานให้เราได้ตามกำหนด สามารถเป็นที่พึ่งให้กับลูกค้าในยามเกิดปัญหาหรือเหตุฉุกเฉินได้ ต้องมีความรู้เท่าทันและสามารถคาดการณ์เหตุการณ์แบบคร่าวๆ ได้ว่าถ้าหากเกิดปัญหาเช่นนี้แล้วจะมีวิธีในการรับมือหรือแก้ไขปัญหาให้เราได้อย่างไร จึงจะเรียกได้ว่าเป็น Agency House หรือผู้เชี่ยวชาญที่สามารถเป็นตัวแทนของแบรนด์ลูกค้าได้อย่างแท้จริง