บทเรียน ‘โรนัลโด้’

หนุ่มเมืองจันท์facebook.com/boycitychanFC

ในวงการฟุตบอล เรื่องที่ฮือฮาที่สุดในวันนี้ไม่ใช่เรื่องฟุตบอลโลกที่กำลังจะมาถึงในปลายเดือนนี้

แต่กลับเป็นบทสัมภาษณ์ของ “โรนัลโด้” สุดยอดนักเตะที่ดีที่สุดในโลกคนหนึ่ง

“โรนัลโด้” อัดสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ “อิริก เทนฮาก” ผู้จัดการทีมอย่างหนัก

มีการบ่นว่านักเตะเยาวชนไม่ยอมเรียนรู้จากรุ่นพี่

และอื่นๆ อีกมากมาย

บทสัมภาษณ์เช่นนี้จะเป็นเรื่องธรรมดามาก ถ้า “โรนัลโด้” ไม่ใช่นักเตะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในปัจจุบัน

เพราะหากอำลาทีมแมนฯ ยูไปแล้วเหมือน “รอย คีน” หรือนักเตะคนอื่น เขาจะวิจารณ์สโมสรและผู้จัดการทีมอย่างไรก็ได้

นักฟุตบอลมืออาชีพอย่าง “โรนัลโด้” ทำไมจะไม่รู้กติกาเรื่องนี้

ดังนั้น การสัมภาษณ์ครั้งนี้จึงเป็นความตั้งใจที่จะทำให้เกิดปฏิกิริยาต่อเนื่องเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ต้องการ

เพราะมันไม่ใช่แค่การระบายอารมณ์ของ “ซูเปอร์สตาร์”

เรื่องราวของ “โรนัลโด้” เป็นบทเรียนที่น่าสนใจมาก

บทเรียนของการเรียนรู้ที่จะก้าวขึ้นสู่ยอดเขา

และบทเรียนของการเดินลงจากยอดเขา

บางเรื่องควรเลียนแบบ

และบางเรื่องไม่ควรทำตาม

ช่วง 10 ปีที่ผ่านมา โลกลูกหนังมีสุดยอดนักเตะอยู่ 2 คนที่แย่งชิงตำแหน่งนักฟุตบอลที่ดีที่สุดในโลก

คนหนึ่ง คือ “ลีโอเนล เมสซี่”

อีกคนหนึ่ง คือ “คริสเตียโน โรนัลโด้”

“เมสซี่” เป็นนักเตะที่มากด้วยพรสวรรค์ จนมีคำวิจารณ์ว่าเขาน่าจะเป็น “มนุษย์ต่างดาว” มากกว่าชาวโลก

ส่วน “โรนัลโด้” ที่มีพรสวรรค์ แต่เหนือกว่านั้นคือ “พรแสวง”

เขามีวินัยในการซ้อม และดูแลร่างกายอย่างดีเยี่ยม

ไม่แปลกที่เขายังสามารถเล่นฟุตบอลในพรีเมียร์ลีกได้ทั้งที่อายุ 37 ปีแล้ว

“โรนัลโด้” เป็นคนที่มีความหิวกระหายในชัยชนะแบบมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า

เป็นคนที่เชื่อมั่นในตัวเองสูงมาก

ไม่แปลกที่เขาจะไม่พอใจในสถานะตัวเองในทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดตอนนี้

เพราะ “โรนัลโด้” ถูกจับเป็นตัวสำรองบ่อยครั้ง

นักเตะที่ได้รางวัลบัลลงดอร์ 5 สมัย แชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนลีก 5 สมัย และอื่นๆ อีกมากมายอย่าง “โรนัลโด้” คงยอมรับไม่ได้

และตั้งแต่แมนฯ ยูไม่ได้ไปเล่นยูฟ่าแชมเปี้ยนลีกในปีนี้ ก็มีข่าวว่า “โรนัลโด้” อยากย้ายทีม

เพราะต้องการทำสถิติส่วนตัวต่อไปเรื่อยๆ

“โรนัลโด้” แสดงออกถึงความไม่พอใจหลายครั้ง ตั้งแต่ไม่ยอมเปลี่ยนตัวลงเล่นจนถึงเดินออกจากสนามก่อนการแข่งขันจบลง

ดังนั้น การให้สัมภาษณ์ครั้งนี้ของ “โรนัลโด้” ถ้าไม่มองว่าเป็นเพียงแค่การระบายอารมณ์ความไม่พอใจของสุดยอดนักบอลที่เปี่ยมด้วยความเชื่อมั่นในตัวเอง

แต่มองว่าเป็น “เกม” ที่ “โรนัลโด้” ตั้งใจโยนระเบิดลูกนี้ทั้งกำหนดเงื่อนไขเวลาและบีบให้ผู้บริหารแมนฯ ยูตัดสินใจ

เกมนี้น่าสนใจมาก

เขาปล่อยบทสัมภาษณ์ในวันสุดท้ายของการแข่งขันพรีเมียร์ลีก ก่อนหยุดพักเพื่อปล่อยนักเตะไปแข่งฟุตบอลโลก

คืนนั้น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แข่งกับฟูแลม

“โรนัลโด้” ไม่ได้ลงสนาม และไม่มีรายชื่อเป็นตัวสำรอง

ทันทีที่ “ระเบิด” ลูกนี้ทำงาน “โรนัลโด้” ก็ไปอยู่ที่กาตาร์ เป็นกัปตันทีมชาติโปรตุเกสเพื่อลงสนามฟุตบอลโลก

บทสัมภาษณ์ชิ้นนี้บีบให้ผู้บริหารและผู้จัดการทีมแมนฯ ยูต้องจัดการ “โรนัลโด้” ขั้นเด็ดขาด อาจจะมีการปรับเงินครั้งใหญ่

และเลิกสัญญาหรือขาย “โรนัลโด้” ทันทีในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะเดือนมกราคม

ซึ่งเป็นเป้าหมายของ “โรนัลโด้”

เงื่อนไขเรื่อง “ราคา” ที่อาจเป็นปัญหาในช่วงที่ผ่านมาเพราะแมนฯ ยูคงอยากขายในราคาที่สูงพอสมควร

ถึงวันนี้ เท่าไรก็ต้องปล่อย

ในขณะเดียวกัน “โรนัลโด้” อาจหวังว่าถ้าได้ลงสนามฟุตบอลโลกครั้งนี้แล้วโชว์ฟอร์มได้ดี และ “โปรตุเกส” เข้ารอบลึกๆ

ทีมต่างๆ ก็คงอยากได้ตัวเขา

“โรนัลโด้” นั้นนอกจากฝีเท้าแล้ว เขายังมีคุณค่าทางการตลาดสูงมาก

สูงกว่า “เมสซี่”

เพราะทุกครั้งที่ย้ายทีม แค่เสื้อเบอร์ 7 ก็ขายได้มากที่สุดในโลกแล้ว

ดังนั้น ถ้าเกมทุกอย่างเป็นไปตามนี้

“โรนัลโด้” ก็ชนะ

ได้ย้ายทีม และมีทีมต่างๆ แย่งกันซื้อตัว

เขาจะกลายเป็น “ผู้เลือก”

ไม่ใช่ “ผู้ถูกเลือก”

แต่โลกนี้อาจไม่เป็นไปอย่างที่คิด

เพราะวันที่บทสัมภาษณ์ชิ้นนี้ออกมา “ผีแดง” ชนะ “ฟูแลม” 2:1

“การ์นาโช่” นักเตะวัย 18 ปียิงประตูชัยในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ

โกงความตายสำเร็จ

แฟนบอลแมนฯ ยูกำลังดีใจกับชัยชนะครั้งนี้

ไม่แปลกที่ปฏิกิริยาของแฟนบอลต่อ “โรนัลโด้” จึงรุนแรงมาก

แทนที่จะเข้าข้างนักเตะขวัญใจในอดีต กลับเข้าข้างสโมสร และ “เทนฮาก” ผู้จัดการทีม

ที่สำคัญ มีนักเตะคนสำคัญของทีมที่เป็นนักเตะทีมชาติโปรตุเกส

คนหนึ่ง คือ “บรูโน เฟอร์นันเดส” ซึ่งสวมปลอกแขนกัปตันทีมแมนฯ ยู

อีกคนหนึ่ง คือ “ดิโอโก้ ดาโลต์” แบ๊กขวา

ทั้ง 2 คนต้องลงเล่นร่วมทีมกับ “โรนัลโด้” ในฟุตบอลโลกครั้งนี้

ถามว่าทั้ง 2 คนที่กำลังดีใจในชัยชนะของแมนฯ ยูคืนนั้น จะรู้สึกอย่างไรกับกัปตันทีมชาติของเขา

เมื่อ “ฮีโร่” ไม่ได้เป็น “ฮีโร่” เหมือนเดิม

สิ่งที่ “โรนัลโด้” คาดหวังจะใช้ฟุตบอลโลก เป็นโชว์รูมขายสินค้าก็อาจไม่เป็นดังหวัง

อย่าลืมว่า “โรนัลโด้” วันนี้ไม่เหมือนกับวันก่อน

ฟอร์มการเล่นของเขาตกลงกว่าเดิมมาก ทั้งแรงปะทะ ความเร็ว และความเฉียบคมในการยิงประตู

เขาต้องการการสนับสนุนจากเพื่อนร่วมทีมอย่างมาก

อายุ 37 ปี 9 เดือน ต่อให้ดูแลร่างกายดีอย่างไร แต่ก็ไม่อาจหนีกฎของธรรมชาติได้

เพราะถ้าเข้าใจกฎธรรมชาติ สิ่งที่ “โรนัลโด้” ควรทำ คือ ต้องวางแผนการเดินลงจากยอดเขา

เราจะเดินลงอย่างไรให้คนรักและจดจำ

“หมากตาสุดท้าย” เป็นหมากที่ยากที่สุดของชีวิต •

 

ฟาสต์ฟู้ดธุรกิจ | หนุ่มเมืองจันท์

www.facebook.com/boycitychanFC