เว็บไซต์นี้ใช้คุ้กกี้เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีมีประสิทธิภาพยิ่งขี้น อ่านเพิ่มเติมคลิก (Privacy Policy) และ (Cookies Policy)
วันจันทร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ.2567
หน้าแรก ข่าวเด่น รัสเซียระดมพล...

รัสเซียระดมพลสำรอง : ผู้ประท้วงต้านสงครามโดนจับ ได้รับหมายเรียกเกณฑ์ทหาร สัสดีหลายเมืองเจอไฟไหม้

คนรัสเซีย ต้าน “สงคราม-ระดมพลกองหนุน” ได้รับหมายเรียกเกณฑ์ทหาร สื่อตีข่าว “ไฟลุก” สำนักงานสัสดี ในหลายเมือง นักวิเคราะห์ชี้การส่งเด็กใหม่ไปแนวหน้าก็ไม่ได้ช่วยมาก นอกจากซื้อเวลา-ยื้อสงครามให้นานออกไป

 

วันที่ 22 ก.ย. ซีเอ็นเอ็น รายงานการประท้วงของ คนรัสเซีย ทั่วประเทศเพื่อต่อต้านสงครามเมื่อวันพุธที่ 21 ก.ย. ว่า ผู้เข้าร่วมถูกจับกุมมากกว่า 1,300 คน หลังประธานาธิบดี วลาดีมีร์ ปูติน ประกาศ “การระดมพลบางส่วน” ของพลเรือน เพื่อรุกรานยูเครนที่ยืดเยื้อเข้าสู่เดือนที่แปดแล้ว

โอเวเด-อินโฟ กลุ่มสังเกตการณ์อิสระเผยแพร่ตัวเลขหลังเที่ยงคืนวานนี้ ระบุว่า ตำรวจจับกุมกลุ่มผู้ประท้วงทั่ว 38 เมืองในรัสเซีย ในจำนวนผู้ประท้วงที่ถูกจับกุมมากกว่า 1,300 คนทั่วประเทศ มากกว่า 500 คนอยู่ในมอสโก และมากกว่า 520 อยู่ในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก

มาเรีย คุซเนียตโซวา โฆษกกลุ่มดังกล่าวบอกซีเอ็นเอ็นทางโทรศัพท์ว่า นักข่าว 9 คน และเยาวชน 33 คน อยู่ในกลุ่มผู้ถูกจับกุมด้วย และเยาวชนคนหนึ่งถูกเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายทุบตีอย่างทารุณ เกินครึ่งของผู้ประท้วงที่ถูกจับกุมเป็นผู้หญิง นับเป็นการประท้วงต่อต้านรัฐบาลครั้งใหญ่ที่สุดที่มีสัดส่วนของผู้หญิงในประวัติศาสตร์ อย่างไรก็ตาม ตัวเลขการจับกุมทั้งหมดยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด

คนรัสเซีย
Russian police officers detain a man during an unsanctioned rally, after opposition activists called for street protests against the enlisting of reservists ordered by President Vladimir Putin, in Moscow, Russia / REUTERS

โฆษกโอเวเด-อินโฟระบุว่า สถานีตำรวจอย่างน้อย 4 แห่ง ในกรุงมอสโก ที่ผู้ประท้วงบางส่วนถูกตำรวจปราบปรามจลาจลส่งตัวมา ได้รับหมายเรียกไปรายงานตัวต่อสำนักงานสัสดี ในวันพฤหัสบดีที่ 22 ก.ย. ซึ่งเป็นวันแรกของการเกณฑ์ทหารอย่างเต็มรูปแบบตามประกาศของปูติน

ผู้ถูกจับกุมบางคนถูกข่มขู่ด้วยการดำเนินคดีหากปฏิเสธการเกณฑ์ทหาร ขณะที่รัฐบาลรัสเซียระบุว่า โทษสำหรับการปฏิเสธการเกณฑ์ทหารคือจำคุก 15 ปี

นายดมีตรี เปสคอฟ โฆษกเครมลิน ตอบคำถามเกี่ยวกับการส่งหมายเรียกเกณฑ์ทหารสำหรับผู้ประท้วงต่อต้านสงครามที่ถูกจับกุมว่า “การกระทำดังกล่าวไม่ขัดต่อกฎหมาย ไม่มีอะไรละเมิดกฎหมายตรงนี้”

ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า ปูตินวางแผนที่จะเพิ่มเดิมพันในสงครามในยูเครนรวมถึงสำหรับคนรัสเซีย หลังกองทัพยูเครนโต้กลับอย่างรวดเร็วและยึดคืนดินแดนหลายพันตารางไมล์จากกองกำลังรัสเซียซึ่งล่าถอยออกไป

แม้ว่าพล.อ.เซียร์เกย์ ชอยกู รัฐมนตรีกลาโหมรัสเซีย แถลงว่า การระดมพลบางส่วนจะเรียกทหารกองหนุน 300,000 นาย และปูตินกล่าวว่า ผู้มีประสบการณ์ด้านการรบจะต้องถูกเกณฑ์ทหาร และย้ำว่ากฤษฎีกาซึ่งปูตินลงนามแล้วมีความจำเป็นเพื่อปกป้องบ้านเกิดเมืองนอน อธิปไตย และบูรณภาพแห่งอาณาเขตของเรา

แต่กฤษฎีดังกล่าวดูจะเปิดทางให้กองทัพรัสเซียระดมพลมากกว่าที่ปูตินแถลง ย่อหน้าแรกในกฤษฎีการะบุถึงการระดมกำลังบางส่วนแต่ไม่ได้จำกัดความว่าบุคคลใดมีสิทธิ์ถูกเรียกระดมพลอย่างชัดเจนตามที่ผู้นำรัสเซียแถลง นอกจากนี้ กฤษฎีการะบุว่าเฉพาะบุคคลที่จะไม่ถูกเรียกระดมจะเป็นไปด้วยเหตุผลอายุไม่ถึง โรคภัยไข้เจ็บ หรือสถานะนักโทษจำคุก

นอกจากนี้ ปูตินกล่าวถึงอาวุธนิวเคลียร์โดยจะใช้ทุกวิถีทางที่รัสเซีย หากบูรณภาพแห่งดินแดนของรัสเซียอยู่ในอันตราย และยังรับรองการจัดการลงประชามติใน 4 แคว้นของยูเครนที่รัสเซียยึดครอง และผู้นำที่รัสเซียแต่งตั้งใน 4 แคว้นดังกล่าว ประกาศจะจัดการลงประชามติสัปดาห์นี้

ทหารรัสเซีย
Russian service members sit next to a mobile recruitment center for military service under contract in Rostov-on-Don, Russia September 17, 2022. REUTERS/Sergey Pivovarov

ผู้นำตะวันตกประณามการประกาศ “ระดมพลบางส่วน” ของปูตินเมื่อวันพุธ ระหว่างพิธีเปิดการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ในนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา

นายกรัฐมนตรีลิซ ทรัสส์ ของอังกฤษ และนางอัวร์ซูลา ฟ็อน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ระบุในแถลงการณ์ร่วมกันว่า ทั้งคู่เห็นพ้องต้องกันว่า การประกาศระดมพลบางส่วนของปูตินเป็นสัญญาณของ “ความอ่อนแอ”

นายโจเซป บอร์เรลล์ หัวหน้านโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป กล่าวกับผู้สื่อข่าว บรรดารัฐมนตรีต่างประเทศของสหภาพยุโรปเห็นพ้องต้องกันในนิวยอร์ที่จะผลักดันมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่ต่อรัสเซีย

ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน กล่าวต่อสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติในวิดีโอการปราศรัยที่ได้รับการบันทึกล่วงหน้าว่า รัสเซียกลัวการเจรจาสันติภาพที่แท้จริง นั่นเป็นคำโกหกของรัสเซีย “รัสเซียพูดถึงการเจรจาแต่ประกาศการระดมกำลังทหาร รัสเซียต้องการทำสงคราม” ผู้นำยูเครนกล่าว

ส่วนเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 22 ก.ย. นางคริสทีน แลมเบรทช์ รัฐมนตรีกลาโหมของเยอรมนี กล่าวว่า การระดมพลบางส่วนของปูตินช่วยเสริมความแข็งแกร่งในการสนับสนุนยูเครนของเยอรมนี

ขณะที่นายเซบัสเตียง เลซอร์นู รัฐมนตรีกลาโหมของฝรั่งเศส กล่าวว่า ฝรั่งเศสจะยังให้การสนับสนุนยูเครนในด้านอาวุธและการฝึกอบรม แต่เสริมว่าฝรั่งเศสต้องการความร่วมมือภายในองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) เพื่อทำเช่นนั้น

สำนักงานสัสดี ไฟไหม้!

สื่อรัสเซียรายงานข่าวไฟไหม้ สำนักงานสัสดี อย่างน้อย 4 เมืองในประเทศ ในช่วงค่ำวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่น ท่ามกลางการประท้วงต่อต้านคำสั่งระดมพลทหารกองหนุนบางส่วนของประธานาธิบดีวลาดีมีร์ ปูติน ที่ประกาศเมื่อวันพุธที่ 21 ก.ย.

 

โซตา วิชั่น และ ฟอนตันคา รายงานว่า ไฟไหม้อาคารสำนักงานสัสดีเขตโลโมโนซอฟสกี ในนครเซนต์ปีเตอร์เบิร์ก เมืองใหญ่อันดับที่สองของรัสเซีย กระทรวงฉุกเฉินท้องถิ่นได้รับแจ้งเมื่อ 22.42 น. ตามเวลาท้องถิ่น ไฟไหม้ห้องบนชั้นหนึ่งของอาคาร เปลวเพลิงกินพื้นที่ 6 ตารางเมตร เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้เมื่อ 22.55 น. ไม่มีผู้บาดเจ็บ

กระทรวงฉุกเฉินตั้งประเด็นการลอบวางเพลิงจากข้างในอาคาร

สำนักงานสัสดี

gts.tv

ส่วนในเมืองไก แคว้นโอเรนบุร์ก เกเตเอส รายงานว่า ไฟไหม้อาคาร 2 ชั้นของสำนักงานสัสดี จากการประเมินลักษณะของทางเข้าอาคาร ผู้ก่อเหตุราดของเหลวไวไฟตอนกลางคืนและจุดไฟเผา แต่เปลวเพลิงไม่ได้ลุกลามไปทั่วพื้นที่ของอาคารและมอดไปอย่างรวดเร็ว เหลือแต่ร่องรอยความเสียหายบนกำแพงฝั่งเดียวของอาคาร

ไม่มีคำชี้แจงอย่างเป็นทางการจากเหตุการณ์ดังกล่าว

ขณะที่ในเมืองนิจนีนอฟโกรอด ตอนกลางของรัสเซีย แมช รายงานว่า อาคารสำนักงานสัสดีเขตคานาวินสกีถูกขว้างด้วยระเบิดขวดโมโลตอฟ แม้ว่าสัญญาณเตือนไฟไหม้จะไม่ทำงาน แต่เปลวเพลิงที่กินพื้นที่ 1 ตารางเมตรดับลงอย่างรวดเร็วก่อนนักผจญเพลิงจะมาถึงจุดเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พบเศษกระจกจากบานหน้าต่างบนชั้นหนึ่งของอาคารและเศษระเบิดขวดแก้วกับไส้ระเบิดที่ยังไม่ไหม้

ส่วนความเสียหายมีเพียงประตูและพื้นบางส่วนในห้องทันตกรรมของสำนักงานสัสดี

สำนักงานสัสดี

nesluhi.info

นอกจากนี้ ในเมืองโตเลียตตี แคว้นซามารา ห่างจากกรุงมอสโกไปทางตะวันออกราว 1,000 กิโลเมตร เนสลูฮี และ บาซา รายงานว่า ไฟไหม้ประตูทางเข้าของอาคารที่ทำการเมืองโตเลียตตี กระทรวงฉุกเฉินท้องถิ่นได้รับแจ้งเหตุเมื่อ 3.44 น. ตามเวลาท้องถิ่น เปลวไฟกินพื้นที่ 10 ตารางเมตร นักผจญเพลิงดับไฟได้เมื่อ 4.05 น.

สาเหตุเป็นการลอบวางเพลิง และเจ้าหน้าที่พบระเบิดขวดที่ใช้แล้วในจุดเกิดเหตุ

การโจมตีสำนักงานสัสดีมีขึ้นท่ามกลางการประท้วงในหลายเมืองทั่วประเทศเพื่อต่อต้านคำสั่งระดมพลทหารกองหนุนบางส่วนทันทีของปูตินเพื่อไปสู้รบในยูเครน ซึ่งทางการรัสเซียใช้ชื่อ “ปฏิบัติการทางทหารพิเศษ” ขณะที่โอเวเด-อินโฟ กลุ่มสังเกตการณ์อิสระ ระบุว่า ผู้ประท้วงถูกจับกุมเกือบ 1,400 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง รายงานระบุว่า ผู้ประท้วงชายหลายคนได้รับหมายเรียกเกณฑ์ทหารภายในสถานีตำรวจต่างๆ

แม้ว่าพล.อ.เซียร์เกย์ ชอยกู รัฐมนตรีกลาโหมรัสเซีย จะตั้งเป้าเรียกระดมพลทหารกองหนุน 300,000 นาย ซึ่งมีสัดส่วนเพียง 1% จากทั้งหมด 25 ล้านนายทั่วประเทศ แต่กลุ่มนักกฎหมายสิทธิมนุษยชนระบุว่า คำสั่งดังกล่าวใช้ภาษาคลุมเครือซึ่งเปิดทางให้กองทัพรัสเซียเลือกระดมพลทหารกองหนุนมากกว่าจำนวนที่ได้รับการระบุอย่างเป็นทางการตอนแรก

สัญญาณความอ่อนแอของฝ่ายรุกราน

เจสัน ลีออล รองศาสตราจารย์ด้านความมั่นคงระหว่างประเทศและอาจารย์สาขาการเมืองการปกครองของดาร์ทมัธ คอลเลจ ได้ลงบทวิเคราะห์ให้กับหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ เมื่อวานนี้ วิเคราะห์เบื้องหลังการระดมพลสำรองบางส่วนของปูติน หลังกองทัพรัสเซียต้องพ่ายและล่าถอยจนกองทัพยูเครนกอบกู้พื้นที่เขตคาร์คิฟได้ทั้งหมดและรุกต่อเข้าไปยังเขตลูฮันสก์ว่า การประกาศระดมพล 3 แสนนายอาจเป็นสัญญาณของความอ่อนแอ ไม่ได้แสดงความเข้มแข็ง การลุกสายฟ้าแลบและกอบกู้พื้นที่ของกองทัพยูเครน การเสียอย่างรุนแรงส่งผลการเสียขวัญของกองทัพรัสเซีย

ตลอดสงครามนาน 6 เดือน ตัวเลขทหารรัสเซียที่เสียชีวิต,บาดเจ็บหรือหนีการสู้รบ มีราว 40,000 ถึง 80,000 นาย ยานยนต์ทางทหารฝั่งรัสเซียถูกทำลายหรือสูญหายราว 6,200 คัน คนที่หนีการสู้รบหรือปฏิเสธที่จะทำตามคำสั่งตอนนี้อาจสูงราว 20-40% ของหน่วยรบในแนวหน้า

เจสันมองว่าการระดมพลสำรองนั้น ไม่น่าจะช่วยเสริมประสิทธิภาพการรบของรัสเซียได้เลย

รัสเซียเคยระดมพลใหญ่ในช่วงสงครามโลกทั้ง 2 ครั้ง แล้วการระดมพลใหญ่ในยุครัสเซียก็เสื่อมถอยในทศวรรษที่ผ่านมา กลับกัน รัฐบาลรัสเซียที่เข้ารุกรานยูเครนกลับมีกองทัพท่ี่ประกอบด้วย ทหารเกณฑ์ระยะสั้น ทหารรับจ้าง(กลุ่มวากเนอร์และอื่น) และกองกำลังพันธมิตรในประเทศ (เช่นกลุ่มทหารเชเชนของรามซาน คาดิลอฟและกลุ่มกบฎนิยมรัสเซียในโดเนสกต์และลูฮันสก์)

ทหารใหม่ที่จะถูกส่งไปเหล่านี้ อาจช่วยในการรบได้ไม่มากนัก ในระยะสั้น มาตรการใหม่อาจช่วยให้รัสเซียรวมตำแหน่งในสนามรบใหม่ได้ สิ่งที่สำคัญที่สุด ที่ซ่อนอยู่ภายในการสั่งระดมพลบางส่วนนี้คือคำสั่งให้ระงับสัญญาการรับใช้กองทัพระยะสั้นทั้งหมด เพื่อพยายามอุดช่องว่างในกองกำลังของตน กองทัพรัสเซียจึงหันไปหาทหารระยะสั้นที่ลงนามในสัญญาที่ทำกำไรได้เป็นเวลาสี่ถึงหกเดือน ตอนนี้ทหารเหล่านี้ไม่สามารถออกจากราชการได้อีกต่อไปเมื่อสัญญาหมดอายุ — หรือปฏิเสธที่จะนำไปใช้กับหน่วยของพวกเขา

หากการลงประชามติปลอมๆที่จัดขึ้นอย่างเร่งรีบที่จะเกิดขึ้นในเขตปกครองลูฮันสค์ โดเนตสค์ เคอร์ซอน และซาโปริซเซีย รัสเซียอาจอ้างได้ว่าสามารถปรับใช้เกณฑ์ทหารของรัสเซียในดินแดนยูเครนที่มีการโต้แย้งกันเหล่านี้ได้อย่างถูกกฎหมาย เมื่อฤดูหนาวมาถึง หน่วยที่บิดเบี้ยวอาจถูกสับเปลี่ยนกำลัง ทำให้พวกเขาได้พักและเสริมกำลัง (รัสเซียมักจะทิ้งหน่วยไว้ที่เดิมจนกว่าความแข็งแกร่งดั้งเดิมจะสูญเสียไป 50-60%)

แต่ทหารที่เพิ่งระดมพลใหม่มีแนวโน้มที่จะได้รับการฝึกฝนไม่ดี การสู้รบครั้งก่อนของพวกเขาประสบกับความทรงจำที่ห่างไกล อัตราการเสียชีวิตสูงในกลุ่มนายทหารกองทัพรัสเซีย ส่วนหนึ่งเนื่องจากการกำหนดเป้าหมายของยูเครนโดยเจตนา ทำให้กองทัพของปูตินไม่มีผู้ฝึกสอนที่ดีพอ กลับกัน ทหารใหม่ที่ถูกส่งไปต้องเผชิญกับกองทัพยูเครนที่มีทหารชาญศึกและมีการจัดระบบกองทัพที่มีประสิทธิภาพและคล่องตัวมากกว่า และมีแรงจูงใจและเป้าหมายสูงกว่า

อีกทั้งการระดมพลใหม่ ยังเสี่ยงต่อปัญหาเชิงโครงสร้างที่มีอยู่ในกองทัพรัสเซีย ควบคู่ไปกับขวัญกำลังใจทางการทหาร และการระดมพลบางส่วนเป็นการเดิมพันทางการเมืองของปูตินที่เสี่ยงมาก ด้านหนึ่ง การสั่งระดมพลบางส่วนก็อาจสร้างความโกรธเคืองให้กับฝ่ายสนับสนุนรัฐบาลโดยเฉพาะปีกชาตินิยมสุดโต่ง ที่ว่ามองปูตินเหยาะแหยะ แต่ขณะเดียวกัน ก็เสี่ยงเพิ่มแรงต้านจากกลุ่มคนที่เลือกอยู่เป็นจากเรื่องสงคราม (แต่ปฏิกิริยาของชาวรัสเซียหลังสั่งระดมพลที่มีทั้งการประท้วงและการหนีตายออกจากรัสเซียขนานใหญ่ สะท้อนความเสี่ยงด้านนี้อย่างดี)

เจสัน ทิ้งท้ายว่า การระดมพลบางส่วนจึงไม่น่าจะช่วยให้รัสเซียได้รับชัยชนะอย่างแท้จริง แต่มันเกือบจะยืดเยื้อสงครามอย่างแน่นอน ทำให้รัสเซียสามารถยืนหยัดในการต่อสู้ในขณะที่บดขยี้กองกำลังยูเครน ต้นทุนในการออกกฤษฎีกาของปูตินจะเพิ่มการนองเลือดและการทำลายล้างมากขึ้นในอีกไม่กี่สัปดาห์และหลายเดือนข้างหน้า