ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 23 - 29 กันยายน 2565 |
---|---|
คอลัมน์ | ยานยนต์ |
ผู้เขียน | สันติ จิรพรพนิต |
เผยแพร่ |
ยานยนต์ สุดสัปดาห์
สันติ จิรพรพนิต
เจาะลึก ‘ฟอร์ด มัสแตง’ เจน 7
สานตำนานยอดรถ ‘สปอร์ตคูเป้’
“ฟอร์ด มัสแตง” หนึ่งในยอดรถที่ได้รับความนิยมมายาวนานกว่า 60 ปี โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นมีกะตังค์ ยิ่งกับคนอเมริกัน ฟอร์ด มัสแตง แทบจะเป็นรถในฝันเลยก็ว่าได้
ถือเป็นรถสปอร์ตคูเป้ที่ขายดีที่สุดระดับโลกถึง 7 ปีซ้อน
ล่าสุดฟอร์ดอวดโฉม “มัสแตง” เจเนอเรชั่นที่ 7
เรียกเสียงฮือฮาพอสมควร เนื่องจากปรับเปลี่ยนให้ดูทันสมัยแต่คงความคลาสสิค
มีตัวถังหลายแบบให้เลือก รวมถึงรุ่นเปิดประทุน ขณะที่เครื่องยนต์มี 2 บล็อกหลักๆ
คนไทยเองน่าจะคุ้นเคยกับสปอร์ตคูเป้รุ่นนี้ เพราะฟอร์ดนำเข้ามาทำตลาดด้วย
ผมเองเคยทดสอบขับ ยอมรับว่าประทับใจทั้งความแรง ความโฉบเฉี่ยว และเป็นที่สะดุดตาบนท้องถนนจริงๆ
ดีไซน์ภายนอกมีเค้าโครงคลาสสิคที่สืบต่อมายาวนาน กระจังหน้าได้รับอิทธิพลจากรถรุ่นดั้งเดิมในช่วงทศวรรษที่ 1960 ไฟหน้า 2 แถบ หรือ “ไตรบาร์” สะท้อนความคลาสสิคของมัสแตง
ไฟหน้าแบบ LED เปิด-ปิดอัตโนมัติ พร้อมไฟ Daytime Running แบบ LED เช่นกัน
แต่ละรุ่นยังมีดีไซน์ด้านหน้าเป็นเอกลักษณ์ โดยมัสแตง GT มีช่องตะแกรงที่ใหญ่และดุดันมากกว่ารุ่น EcoBoost เพื่อให้อากาศไหลเวียนได้ดีขึ้น
กระจังหน้าด้านล่างแบบเส้นขนานอันเป็นเอกลักษณ์ของฟอร์ด มัสแตง ขับเน้นความกว้างตัวถัง
ปรับแต่งด้านอากาศพลศาสตร์ให้ดีขึ้น โดยเพิ่มช่องระบายอากาศและลิ้นหน้าที่ออกแบบใหม่
แนวหลังคาปรับปรุงเพื่อให้นักขับรถในสนามแข่ง เข้าและออกจากรถได้โดยไม่ต้องถอดหมวกกันน็อก
เรียกว่าเอาใจสายซิ่งกันสุดฤทธิ์
ท้ายรถติดไฟแบบ 3 แถบดีไซน์ใหม่ พร้อมดิฟฟิวเซอร์ที่ออกแบบใหม่เพื่อให้ลู่ลมกว่าเดิม
รุ่นเปิดประทุน สามารถเปิดหลังคาผ้าใบทั้งผืน ด้วยการกดปุ่มเพียงครั้งเดียว ยังช่วยเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระในกระโปรงท้าย โดยสามารถใส่ถุงกอล์ฟได้สูงสุดถึง 2 ใบ
ล้ออัลลอยรุ่นใหม่ล่าสุดตั้งแต่ขนาดมาตรฐาน 17 นิ้ว ไปจนถึงขนาด 19 นิ้วสำหรับฟอร์ด มัสแตง GT
ถ้ายังใหญ่ไม่พอมีออปชั่นเปลี่ยนเป็นล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้วได้ด้วย
ภายในดูไฮเทคมากขึ้นกับแผงหน้าปัดซึ่งใช้เทคโนโลยีล้ำสมัยด้วยจอโค้งที่แสดงผลแบบต่อเนื่อง 2 จอ
แผงหน้าปัดดิจิทัลขนาด 12.4 นิ้ว ปรับการทำงานให้แสดงผลได้ตามโหมดการขับขี่ พร้อมซอฟต์แวร์ทันสมัย ทำให้เปลี่ยนรูปแบบการแสดงผลแบบแอนิเมชั่นได้หลากหลาย
เช่น ใครที่ชอบความคลาสสิคของหน้าปัดเลือกได้เช่นกัน
ขณะที่อีกจอเป็นระบบอินโฟเทนเมนต์หน้าจอขนาด 13.2 นิ้ว เอียงเข้าหาผู้ขับขี่เสมือนค็อกพิตนักบิน
โดยย้ายปุ่มควบคุมบางส่วน เช่น การปรับระดับเสียง และอุณหภูมิ เข้าไปรวมอยู่บนหน้าปัดดิจิทัล
ระบบเสียงของ B&O ปรับแต่งเพื่อรถรุ่นนี้โดยเฉพาะ เชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto รองรับการสั่งงานด้วยเสียง SYNC4 ของฟอร์ดด้วย
พวงมาลัยแบบท้ายตัดพร้อมระบบมัลติฟังก์ชั่น
ตกแต่งภายในด้วยวัสดุผ้า และเบาะนั่งที่หุ้มด้วยผ้าทั้งหมด พร้อมออปชั่นเสริมเป็นเบาะแบบไวนิลหนังกลับ และมีเข็มขัดนิรภัยสีดำ
ในขณะที่รุ่นพรีเมียม ใช้วัสดุหุ้มและการตกแต่งตัดขอบทั้งแผงหน้าปัดและบานประตูด้านใน
คอนโซลกลางมีแท่นชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย และมีช่องเสียบ USB อยู่เหนือศีรษะ ให้ใช้กับกล้องวิดีโอติดรถยนต์ และอุปกรณ์อื่นๆ ไม่มีสายไฟเกะกะ
ขุมพลัง 2 บล็อก เริ่มจากรุ่น EcoBoost ที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เทอร์โบขนาด 2.3 ลิตร 4 สูบที่พัฒนาขึ้นใหม่ทั้งหมด
และเครื่องยนต์ Coyote V8 ขนาด 5.0 ลิตร เจเนอเรชั่นที่ 4 ในรุ่น “GT” และ “Dark Horse”
ระบบเกียร์มีทั้งรุ่นเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และอัตโนมัติ 10 สปีด
เรียกว่าซอยเกียร์ละเอียดยิบเพื่อพละกำลังต่อเนื่อง
โหมดขับขี่ปรับได้ 6 โหมด ประกอบด้วย โหมดปกติ โหมดสปอร์ต โหมดถนนลื่น โหมดแข่งทางตรง (แดร็ก) โหมดแทร็ก และโหมดสุดท้ายที่บันทึกการตั้งค่าส่วนตัวได้ถึง 6 สไตล์
ติดตั้งฟีเจอร์ “Co-Pilot360” เจเนอเรชั่นใหม่ มีระบบจดจำป้ายจำกัดความเร็ว ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัจฉริยะพร้อมฟังก์ชั่นสำหรับการขับขี่ที่ต้องเบรกบ่อย
ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่กลางช่องทาง
ระบบช่วยหักเลี้ยวเพื่อเลี่ยงการปะทะ
ระบบช่วยเบรกขณะถอยหลัง
ระบบเลี่ยงการสะเทือนจากหลุมบนถนน หรือ Active Pothole Mitigation ซึ่งคอยตรวจสอบระบบกันสะเทือน ตัวถัง การบังคับเลี้ยว และการเบรกอย่างต่อเนื่อง
รวมทั้งปรับการตอบสนองของระบบกันสะเทือนให้สอดคล้องกัน
นอกจากนี้ สามารถสั่งการรถผ่านแอพพลิเคชั่น FordPass ได้หลากหลายจากระยะไกล เช่น การสตาร์ตและดับเครื่องยนต์ การล็อกและปลดล็อกประตู ตั้งเวลาสตาร์ตเครื่องยนต์ ระบุตำแหน่งของรถ และตรวจดูสภาพและสถานะของรถ
FordPass ยังบอกข้อมูลสำคัญอื่นๆ เกี่ยวกับรถ เช่น ระดับน้ำมันหล่อลื่นและน้ำมันเชื้อเพลิง ประวัติการเข้ารับบริการ และข้อมูลการรับประกัน
ที่มันกว่านั้น ฟอร์ด มัสแตง เจน 7 ติดตั้งนวัตกรรมใหม่ล่าสุดเป็นครั้งแรกในเซ็กเมนต์ด้วย “ดริฟต์เบรกแบบไฟฟ้า” ออกแบบเบรกมือที่มีทั้งรูปลักษณ์และประโยชน์ใช้สอย แบบเดียวกับเบรกมือดั้งเดิม
เหมาะทั้งผู้ขับขี่มือใหม่ที่อยากเรียนรู้ทักษะการดริฟต์รถ และผู้ขับขี่ที่ชำนาญด้วยระบบที่พร้อมสำหรับสนามแข่ง
รวมทั้งฟีเจอร์ใหม่ล่าสุด “Remote Rev” ที่กดเร่งเครื่องยนต์จากปุ่มบนกุญแจรีโมตของรถได้
ทำมาเพื่อสนองนี้ดคนที่นำรถมาประชันกัน จากเดิมที่ต้องเข้าไปในรถเพื่อเหยียบคันเร่งให้เสียงสะท้าน สามารถยืนนอกรถกดรีโมตเพิ่มคันเร่งได้เช่นกัน
ฟอร์ด มัสแตง ใหม่ มาพร้อม 12 เฉดสี โดยเป็นสีใหม่ 2 สี คือ สีน้ำเงิน เวเปอร์ บลู และสีเหลือง เยลโล สแปลช
พร้อมตกแต่งด้วยลายทางในสีและลวดลายใหม่
ยังเลือกสีจานเบรก Brembo ได้ 3 สี คือ สีดำ สีแดง และสีน้ำเงิน แกร็บเบอร์ บลู
ใครที่สนใจต้องรออีกนิดเพราะเริ่มขายอย่างเป็นทางการต้นปีหน้า
โจ๋ทั่วโลกรวมถึงเมืองไทย เตรียมกระเป๋าสั่นกันได้เลย •
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022