ไฟป่าแคลิฟอร์เนียเผาไร่กัญชาวอดหลายจุด ทำราคาพุ่ง-ของขาดตลาดระยะสั้น

วันที่ 17 ตุลาคม 2560 เหตุไฟป่าครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นเป็นวงกว้างในมลรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐฯ ที่ไม่เพียงสร้างความเสียหายต่อชีวิต ทรัพย์สินบ้านเรือน และสัตว์ป่าจำนวนมากเท่านั้น มลรัฐเดียวกันนี้ที่อนุญาตให้กัญชาเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญในพื้นที่ ก็ได้รับความเสียหายอย่างมากเช่นกัน จนส่งผลทำให้ราคาพืชใบ 5 แฉกนี้อาจสูงขึ้น ในขณะที่อุตสาหกรรมกัญชากำลังอยู่ช่วงขาขึ้น

ภัยไฟป่าที่ล้างผลาญพื้นที่กว่า 2 แสนเอเคอร์นี้ ได้ลุกลามทำลายไร่กัญชาร่วม 12 จุด รวมถึงส่วนอื่นในเขตโซโนม่า และเมนโดซิโน่ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เรียกว่า “สามเหลี่ยมมรกต” เพราะมีการปลูกกัญชามากที่สุดในสหรัฐฯ โดยความเสียหายคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

การเก็บเกี่ยวครั้งล่าสุดเมื่อเดือนนี้ สามารถป้อนให้กับร้านขายยาทั้งมลรัฐแคลิฟอร์เนียได้ยาวถึงสิ้นปี 2018 แต่สถานการณ์ไฟป่านี้เองทำให้เกิดภาวะกัญชาขาดแคลนราวเดือนหนึ่งก่อนการผลิตเข้าสู่ตลาดรอบใหม่ โดยคุณทามาร์ มาร์ริซ ผู้อำนวยประจำภูมิภาคแคลิฟอร์เนียของบริษัทบีดีเอส ที่วิเคราะห์ข้อมูลกัญชากล่าวว่า ชาวแคลิิฟอร์เนียอาจต้องเจอราคากัญชาถีบตัวสูงขึ้นราว 10 ถึง 20% หลังไฟป่าดับแล้ว

คุณทามาร์ยังกล่าวอีกว่า จากการวิเคราะห์ข้อมูลยังระบุว่า มลรัฐโคโรลาโด วอร์ชิงตันและโอเรกอนก็จะเจอภาวะห่วงโซ่อุปทานชะงักครั้งใหญ่ ทำให้ราคาเพิ่มสูงขึ้นอีกซึ่งเป็นความผันผวนที่ต่างจากการปรับเปลี่ยนนโยบายซึ่งส่งผลการสำรองขาดแคลน

 

ทามาร์ยังกล่าวเสริมอีกว่า รัฐที่ได้รับผลกระทบจากกัญชาขึ้นราคาจะกลับสู่สภาวะปกติหลังไฟป่าผ่านพ้นไปประมาณ 1-3 เดือน

 

ขณะที่ข้อมูลของเอ็มเจชาร์จ ระบุว่า กัญชาถูกกฎหมายมีอัตราเติบโตต่อเนื่องทั่วประเทศ โดยกัญชาที่ไม่ใช่เพื่อการแพทย์จะมีราคาราว 11 ดอลลาร์ต่่อกรัม หรือ 34 ดอลลาร์ต่อแปดออนซ์ ส่วนแคลิฟอร์เนียราคาต่อกระปุกจะเพิ่มขึ้นราว 2 ดอลลาร์ต่อกรัม หรือ 7 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังราคาขึ้นจุดสูงสุด

ทั้งนี้ แคลิฟอร์เนียผลิตกัญชามากถึงครึ่งของการบริโภคในสหรัฐฯ โดยตามข้อมูลเขตระบุว่า ในเขตโซโนม่ามีแหล่งเพาะปลูกกัญชาราว 3,000 ถึง 9,000 แห่ง ซึ่งเป็นพื้นที่โดนไฟป่าหนักที่สุด ส่วนจำนวนฟาร์มในเขตเมนโดซิโน่ ซึ่งเป็นตลาดผิดกฎหมายที่เติบโตนั้นไม่ทราบจำนวนได้ อีกทั้งฟอร์บสรายงานว่า ไฟป่าครั้งนี้สร้างความเลวร้ายที่สุดให้กับอุตสาหกรรมกัญชาเพราะเป็นช่วงหน้าเก็บเกี่ยวระหว่างกันยายนถึงพฤศจิกายน และผู้ปลูกหลายรายเพิ่งเริ่มเก็บใบ

ส่วนมาร์ริซกล่าวเสริมตอนท้ายว่า ส่วนความเสียหายทั้งหมดจะมากแค่ไหนยังไม่สามารถระบุได้จนกว่าเกษตรกรจะเก็บเกี่ยวส่วนที่หลงเหลือและส่งตัวอย่างไปศูนย์วิจัยทดสอบกัญชา

 

ที่มาข่าว : Business Insider