‘ชัชชาติ’ มองภาพใหญ่-ปจบ.ยังไม่วิกฤต ชี้รับมือ ‘น้ำเหนือทะลักกรุง’ อนาคตต้องมียุทธศาสตร์

‘ชัชชาติ’ มองภาพใหญ่น้ำท่วม พร้อมจัดหน่วยช่วยเคลื่อนที่ – ยัน ปัจจุบันยังไม่วิกฤต อนาคตต้องมียุทธศาสตร์ รับมือ ‘น้ำเหนือทะลักกรุง’

 

วันที่ 10 สิงหาคม 2565 เมื่อเวลา 11.20 น. ที่ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เสาชิงช้า นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) กล่าวถึงการรับมือสถานการณ์น้ำท่วมว่า ได้มีการมอนิเตอร์ปริมาณน้ำในเขื่อนเจ้าพระยา โดยตอนนี้มีปริมาณน้ำ 44 เปอร์เซ็นต์ ของความจุเขื่อน เมื่อเทียบกับปีที่แล้วอยู่ที่ 34 เปอร์เซ็นต์ แต่ยังไม่ถึงขั้นวิกฤตเมื่อเทียบกับปี 2554 ซึ่งตอนนั้นมีปริมาณน้ำอยู่ที่กว่า 70 เปอร์เซ็นต์ อย่างไรก็ตาม มีการดูภาพรวมตลอดไม่ได้ดูแค่ฝนในพื้นที่กรุงเทพฯ ซึ่งไปหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยการประสานงานรับมือให้ดีที่สุด ถือว่าช่วงนี้เป็นช่วงเวลาหายใจเพราะฝนได้เว้นช่วงไป ได้มีการขุดลอกคลอง ลอกท่อระบายน้ำ พร่องน้ำ ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ พยายามเสริมในจุดที่มีปัญหาให้เต็มที่

นายชัชชาติกล่าวว่า ได้นำภาพน้ำท่วมขังในจุดย่อยของแต่ละเขต มารวมกับภาพใหญ่ของสำนักการระบายน้ำ ทำให้ตอบสนองประชาชนได้ดีขึ้น ในการจัดหน่วยช่วยเหลือเคลื่อนที่ รวมถึงเจ้าหน้าที่ทหารพร้อมสนับสนุน เข้าไปช่วยเหลือในจุดที่มีปัญหา และทางกรมชลประทานได้ช่วย กทม.อย่างมากในการระบายน้ำทางตะวันออก ไปทางลาดกระบัง และทางเหนือที่ออกไปทางคลองรังสิต ถือเป็นภาพบูรณาการที่ทำให้เกิดความมั่นใจในประชาชนได้

นายชัชชาติกล่าวต่อว่า ส่วนเขื่อนริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่เป็นจุดฟันหลอ แต่เดิมมี 17 จุด ซึ่งบางส่วนได้งบประมาณปีนี้ในการซ่อม ซึ่งผู้รับเหมาต้องเตรียมตัวอุดชั่วคราวไว้ก่อน ก่อนหน้านี้ได้มีการซักซ้อมเผชิญเหตุทั้ง 16 เขต แต่บางจุดยังอุดไม่ได้ตรงบริเวณศาลเจ้าโรงเกือก เนื่องจากมีจัดงานเทกระจาด แต่เตรียมกระสอบทรายพร้อมอุดเมื่อน้ำขึ้นมา ทั้งนี้ น้ำเหนือจะไหลลงมาถึงพร้อมกับน้ำทะเลหนุน ในช่วงกลางเดือนสิงหาคมนี้

อนาคตเชื่อว่าจะมีฝนตกหนักเป็นจุดๆ เยอะขึ้นจากสภาวะโลกร้อน อย่างเช่นประเทศเกาหลี ที่ฝนตกหนักมากจนเกิดวิกฤตน้ำท่วม ในอนาคตต้องเตรียมยุทธศาสตร์ งบประมาณ นอกเหนือจากตัวหลัก ต้องเตรียมหน่วยโมบายเคลื่อนที่เข้าไปช่วยให้มากขึ้น” นายชัชชาติเน้นย้ำ