ย้อนนาทีคานถล่ม 2 ศพ สยองถนนพระราม 2 จี้ทางหลวงรับผิดชอบ ส่อรื้อถอนผิดขั้นตอน/อาชญากรรม อาชญา ข่าวสด

คานสะพานถล่ม

อาชญากรรม

อาชญา ข่าวสด

 

ย้อนนาทีคานถล่ม 2 ศพ

สยองถนนพระราม 2

จี้ทางหลวงรับผิดชอบ

ส่อรื้อถอนผิดขั้นตอน

 

ถือเป็นเหตุการณ์ที่สร้างความตื่นตะลึงให้กับสังคมไม่น้อย สำหรับกรณีคานสะพานลอยกลับรถบนถนนพระราม 2 ร่วงหล่นทับรถ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตถึง 2 ราย

เนื่องจากเป็นถนนสายลงใต้สายหลัก มีรถเดินทางสัญจรในแต่ละวันจำนวนมหาศาล กระทบต่อผู้ใช้รถใช้ถนนจำนวนมาก

แถมยังมีการก่อสร้างอยู่ตลอดเวลา ไม่รู้ว่าจวบจนสิ้นอายุขัยของคนรุ่นนี้ การก่อสร้างจะแล้วเสร็จลงเมื่อไหร่

ที่สำคัญไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก โดยก่อนหน้านี้ไม่ถึงเดือนก็เกิดเหตุแท่งเหล็กจากไซต์งานก่อสร้างหล่นลงมาโดนรถ มีผู้บาดเจ็บและรถเสียหายมาแล้ว

เหตุการณ์ผ่านมาไม่นานเท่าไหร่ ก็เกิดขึ้นซ้ำอีก

กลายเป็นคำถามว่าคุณภาพชีวิต และความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนอยู่ตรงไหน

หนำซ้ำหน่วยงานที่รับผิดชอบอย่างกรมทางหลวง ยังออกมายืนยันว่าเป็นอุบัติเหตุ ไม่ได้เกิดจากความผิดพลาดของเจ้าหน้าที่ซ่อมบำรุง

ทั้งที่ผลการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น

จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทำความจริงให้กระจ่าง ไม่ใช่การหาแพะรับบาป แต่เป็นการหาคนรับผิดชอบ หากดำเนินการผิดขั้นตอนมาตรฐานความปลอดภัยก็ต้องรับโทษ

ไม่ใช่ลอยนวลพ้นความผิด และรอเวลาเหตุสลดเช่นนี้เกิดขึ้นซ้ำได้อีก!!!

ญาติเชิญวิญญาณ

คานสะพานถล่มทับ-ดับ 2

เหตุการณ์สลดครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 31 กรกฎาคม วันสุดท้ายของเทศกาลหยุดยาว ที่มีปริมาณรถเดินทางเข้ากรุงเทพฯ จำนวนมาก และในระหว่างที่การจราจรแออัด ก็เกิดเหตุไม่คาดฝันเมื่อคานสะพานกลับรถหน้า รพ.วิภาราม กม.34 ต.บางกระเจ้า อ.เมือง จ.สมุทรสาคร เกิดถล่มลงมาทับรถยนต์ที่สัญจรอยู่บนถนนพระราม 2 ช่องทางด่วน มีรถเสียหาย และมีผู้บาดเจ็บเสียชีวิต

ภายหลัง ตร.สภ.เมืองสมุทรสาครรับแจ้งเหตุก็เดินทางไปตรวจสอบทันที พบรถยนต์เก๋งยี่ห้อเชฟโรเลต ทะเบียน ชธ 6271 กรุงเทพมหานคร ถูกแผ่นปูนความยาวกว่า 10 เมตร น้ำหนักราวๆ 5 ตัน หล่นลงมาทับไว้ทั้งคันจนรถขาดท่อน พบ น.ส.สุวรรณี หรืออ้อ รักท้วม อายุ 40 ปี นั่งอยู่ฝั่งซ้ายคนขับเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ

ไม่เพียงแค่นั้นยังพบว่ามีช่างของกรมทางหลวงที่กำลังซ่อมแซมจุดกลับรถดังกล่าว ตกลงมาด้วย 2 คน ต่อมานายชาญ ชาวทอง อายุ 48 ปี หัวหน้าช่างก่อสร้างสะพานเสียชีวิต และมีช่างบาดเจ็บอีก 1 ราย

ขณะที่รถที่เสียหายจากอุบัติเหตุครั้งนี้ยังมีรถปิกอัพอีซูซุดีแมคซ์ ทะเบียน 3 ฒธ 5940 กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าถูกแผ่นปูนทับ แต่โชคดีคนในรถปลอดภัย และยังมีรถบรรทุกน้ำมันถูกทับเสียหายอีกด้วย

เจ้าหน้าที่ต้องใช้อุปกรณ์ตัดถ่างนานเกือบ 1 ชั่วโมง เพื่อนำร่างผู้เสียชีวิตออกมาจากซากรถ และประสานรถเครนให้มายกแผ่นปูนออก พร้อมปิดการจราจรในช่องทางด่วน ส่งผลให้การจราจรติดขัดอย่างมาก ทางจังหวัดสมุทรสาครต้องออกประกาศปิดถนนทั้งหมด และให้ใช้เส้นทางเลี่ยงอื่นเพื่อคลี่คลายการจราจร

ด้านประชาชนที่ประสบเหตุเล่าให้ฟังว่า กำลังขับรถกลับบ้านหลังจากไปขายของเล่นที่วัดจุฬามณี จ.สมุทรสงคราม โดยตลอดทางที่ขับกลับมานั้นมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง และรถก็ขับแบบช้าๆ ชะลอตัว กระทั่งมาถึงที่เกิดเหตุจู่ๆ ก็มีแผ่นปูนหล่นลงมาใส่รถยนต์เก๋งกับรถของตน โชคดีที่รถตนนั้นถูกเพียงแค่ด้านหน้ารถ และคนในรถปลอดภัยทั้งหมด ซึ่งเหตุการณ์นี้สร้างความหวาดกลัวให้กับทุกคนในรถเป็นอย่างมาก ไม่เคยคาดคิดว่าจะมาเจอเหตุการณ์เช่นนี้

สร้างความหวาดผวาให้กับประชาชนอย่างมาก

รื้อเปิดการจราจร

ญาติเศร้า-จี้ ทล.รับผิดชอบ

ขณะที่ศพของผู้เสียชีวิต ในส่วนของนายชาญ ชาวทอง ได้นำไปบำเพ็ญกุศลที่วัดบ้านกุ่ม ต.ห้วยไผ่ อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี บ้านเกิด โดยจะสวดพระอภิธรรมเป็นเวลา 3 วัน และฌาปนกิจในช่วงบ่ายวันที่ 4 สิงหาคม

นางบุตรดี ชาวทอง อายุ 67 ปี แม่ของนายชาญระบุว่า ถึงขณะนี้หน่วยงานต้นสังกัดที่นายชาญทำงานยังไม่ได้เข้ามาดูแลเรื่องการจัดการศพ จึงช่วยกันจัดไปตามมีตามเกิดตามฐานะของครอบครัว ต่อไปตนเองคงลำบาก เพราะนายชาญเป็นลูกที่คอยดูแลพ่อแม่ คอยส่งเงินให้ใช้เป็นรายเดือน เพราะลูกคนอื่นก็ไปมีครอบครัวกันหมดแล้ว จึงอยากให้กรมทางหลวงช่วยมาดูแลในเรื่องการจัดงานศพและเงินชดเชยเยียวยาจากการเสียชีวิตด้วย

ส่วนนายณรงค์ รักท้วม อายุ 67 ปี พ่อของ น.ส.สุวรรณี ระบุว่า มีลูกสาว 2 คน ผู้เสียชีวิตเป็นคนเล็ก ทำงานเป็นเสาหลักของครอบครัว เมื่อลูกจากไปแล้วก็ไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไป เพราะพวกตนก็แก่แล้ว ก่อนเกิดเหตุลูกสาวกับเพื่อนเดินทางไปส่งน้าที่การเคหะท่าจีน ก่อนจะเดินทางกลับ เขาโทรศัพท์มาหาแม่ราวเวลา 19.50 น. ถามว่าอยากกินอะไรไหม แม่ก็บอกว่าที่บ้านมีกับข้าวแล้ว ไม่เป็นไร แต่ให้รีบกลับบ้าน ก่อนจะมีโทรศัพท์กลับมาอีกครั้ง บอกว่าลูกสาวประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต

ความสูญเสียครั้งนี้ บอกเป็นคำพูดออกมาไม่ได้ เมื่อเช้าเพิ่งจะมีเจ้าหน้าที่จากกรมทางหลวงติดต่อเข้ามาเพื่อขอเป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรมคืนนี้เป็นวันแรก โดยยังไม่ได้พูดถึงเรื่องช่วยเหลือเยียวยาแต่อย่างใด เหตุการณ์ลักษณะนี้ไม่ได้เกิดเป็นครั้งแรก ฉะนั้นในการปรับปรุงก่อสร้างต่างๆ ควรมีมาตรการป้องกันที่รัดกุมมากกว่านี้ ไม่ใช่มารอให้เกิดความสูญเสียแล้วให้เงินเยียวยา เพราะครอบครัวต้องเสียคนที่รักไป มันเทียบกันไม่ได้Ž

ด้านนายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง ระบุว่า การเยียวยามอบหมายให้ผู้อำนวยการศูนย์สร้างและบูรณะสะพานที่ 3 (ปทุมธานี) ประสานงานติดต่อกับครอบครัวผู้เสียชีวิตและครอบครัวผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ โดยทางกรมเป็นผู้ชดเชยค่ารักษาพยาบาลและการสวดพระอภิธรรมรับเป็นเจ้าภาพตลอดทั้งงาน โดยเจ้าหน้าที่ของกรมทางหลวงนั้น ผู้เสียชีวิตจะได้รับเงินช่วยเหลือ 30,000 บาท ผู้ที่บาดเจ็บได้รับเงินช่วยเหลือ 10,000-30,000 บาท

ส่วนประชาชนที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ ขณะนี้อยู่ระหว่างการพูดคุยเพื่อชดเชยและเยียวยาวงเงินเท่าไรและดำเนินการในลักษณะใดได้บ้าง

เป็นคำถามว่าชดเชยเท่าใดถึงจะเหมาะสมกับความสูญเสีย!!

 

ชี้อาจรื้อถอนผิดขั้นตอน

สําหรับสะพานกลับรถดังกล่าว ที่เกิดเหตุเริ่มปิดซ่อมบำรุงตั้งแต่เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน เนื่องจากมีอายุการใช้งานมานานและเคยเกิดไฟไหม้บนสะพานจากรถบรรทุกน้ำมันระเบิด อีกทั้งยังมีปริมาณรถบรรทุกขนาดใหญ่ใช้สะพานกลับรถเป็นจำนวนมาก ทำให้โครงสร้างส่วนพื้นสะพานชำรุดเสียหายจนเหล็กเส้นโผล่ ทั้งนี้ มีกำหนดแล้วเสร็จภายในวันที่ 31 สิงหาคม

ส่วนสาเหตุของการถล่มนั้น นายสราวุธ อธิบดีกรมทางหลวง ระบุว่า จากตรวจสอบสาเหตุเบื้องต้นคือ มีการสกัดพื้นที่เสียหายออก เพื่อที่จะเทปูนซ่อมบำรุง คาดว่าคานตัวริมที่รองรับน้ำหนักสะพานอาจจะทำให้มีผลต่อโครงสร้างแผ่นปูนขอบสะพานร่วงหล่นลงมา ถือว่าเป็นความเสียหายระหว่างการซ่อม

คงไม่ได้เกิดจากความสะเพร่า ที่ผ่านมาเรามีมาตรการดูแลอย่างรัดกุม เน้นความปลอดภัย ตรวจสอบอย่างเต็มที่ จึงเชื่อว่าเหตุการณ์นี้น่าจะเป็นอุบัติเหตุที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นŽ

ขณะที่ ดร.ธเนศ วีระศิริ นายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ลงพื้นที่ตรวจสอบ ระบุว่าพบสภาพชำรุดของคานกับเหล็กที่ค้างอยู่บนสะพาน แต่คานหลักที่ร่วงลงมานั้นถูกเก็บกวาดไปแล้ว ซึ่งสะพานที่เห็น ปกติจะมีพื้นวางอยู่บนคานหลัก และมีคานเล็กรูปตัวไอยึดไว้

โดยการก่อสร้างต่างๆ ทั้งบ้านและอื่นๆ ต้องเริ่มจากส่วนล่างขึ้นข้างบน ฉะนั้นการรื้อ ก็ต้องเริ่มจากบนลงล่างเช่นกัน สำหรับสะพานนั้น แท่นแบร์ริเออร์กันรถตกหรือพาราเฟต คือสิ่งสุดท้ายที่จะถูกติดตั้ง จึงเป็นสิ่งที่ต้องรื้อออกก่อน แต่จากการตรวจสอบ คาดว่าอาจรื้อพื้นก่อน ทำให้พาราเฟตซึ่งติดตั้งอยู่ข้างนอกสุดรับน้ำหนักแทนคานไม่ไหวจนร่วงลงมา อย่างไรก็ตาม กรณีนี้เป็นเพียงข้อสันนิษฐานเบื้องต้น ยังไม่อาจโทษว่าเป็นความประมาทได้หรือไม่

ขณะที่ พ.ต.อ.ยงลิต ศุภผล รรท.ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำผู้ควบคุมงาน, วิศวกร, ผู้ช่วยวิศวกร และผู้เสียหายไปแล้วรวม 20 ปาก คนงานก็ให้การว่ามีการใช้รถกะเทาะปูนออก ก่อนจะตัดเหล็กเส้นออกโดยใช้แก๊ส

ซึ่งขณะนั้นไม่มีวิศวกรที่ได้รับใบอนุญาตควบคุมงาน มีเพียงหัวหน้าคนงานอยู่ที่หน้างานเท่านั้น ทั้งนี้ หากพบว่าเป็นการปฏิบัติงานผิดหลักความปลอดภัยหรือประมาท ก็จะต้องดำเนินคดีในความผิดประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

เป็นเรื่องที่ต้องทำให้ความจริงปรากฏว่าเรื่องราวทั้งหมดมาจากสาเหตุอะไร

ใครที่ผิดพลาดก็ต้องรับผิดชอบ ไม่ใช่เพื่อหาแพะรับบาป แต่เพื่อไม่ให้เกิดวัฒนธรรมลอยนวลพ้นผิด ต้องคืนความยุติธรรมให้กับผู้สูญเสีย และป้องกันไม่ให้เกิดเหตุสลดเช่นนี้อีก

เป็นเครื่องรับประกันว่าคุณภาพชีวิตของประชาชนจะต้องได้รับการดูแลที่ดีและเหมาะสม!!!