เผยไทม์ไลน์ เส้นทางศึกซักฟอกรัฐบาล รอ ครม.ตอบกลับ เคาะวันสะดวก

‘หมอสุกิจ’ เผยไทม์ไลน์ เส้นทางศึกซักฟอกรัฐบาล ยันทั้งชื่อ-ลายเซ็น ไม่ผิดแม้แต่จุดเดียว ด้าน ‘ชวน’ บรรจุเข้าวาระสภาแล้ว รอ ครม.ตอบกลับ เคาะวันสะดวก

 

วันที่ 24 มิถุนายน 2565 เมื่อเวลา 10.10 น. ที่รัฐสภา นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร แถลงสรุปเส้นทางญัตติอภิปรายทั่วไปแบบลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 151 ของพรรคร่วมฝ่ายค้านที่ยื่นญัตติต่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 15 มิถุนายนที่ผ่านมา ว่าญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจมี ส.ส.ร่วมลงชื่อ 186 คน ซึ่งมีจำนวนเกิน 1 ใน 5 ของจำนวน ส.ส.ที่มีอยู่ในสภา แต่เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ส.ส.ชลบุรี และผู้อำนวยการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อนายชวน เพื่อให้ตรวจสอบว่ามีการยื่นญัตติถูกต้องหรือไม่ และเกิดความเข้าใจผิดเกี่ยวกับญัตติว่าสรุปแล้วจะอภิปรายคณะรัฐมนตรี (ครม.) 10 คน หรือ 11 คน

นพ.สุกิจกล่าวว่า ต่อมาในวันที่ 21 มิถุนายน นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกพรรค พปชร. ได้ยื่นเรื่องร้องเรียนเนื้อหาใกล้เคียงกัน โดยตามข้อบังคับการประชุมข้อที่ 157 ระบุว่าต้องมีการตรวจสอบ ทั้งนี้ ทางประธานสภาจะต้องแจ้งไปที่พรรคร่วมฝ่ายค้านภายใน 7 วัน หากเกิดข้อบกพร่องเกี่ยวกับญัตติ

นพ.สุกิจกล่าวต่อว่า ในตอนแรกที่มีการตรวจสอบ พบว่าญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจถูกต้อง ทั้งรายชื่อการลงนามของผู้ยื่น และไม่มีลายเซ็นอะไรผิดเพี้ยน แต่เมื่อมีการร้องเรียน นายชวนจึงสั่งการให้นำข้อร้องเรียนของนายสุชาติและนายเรืองไกรมาร่วมในการพิจารณาด้วย เมื่อเป็นเช่นนั้น ทางสำนักประชุมจึงส่งหนังสือถามไปยังตัวแทนพรรคร่วมฝ่ายค้านทุกพรรคถึงความถูกต้องของรายชื่อ ส.ส.ว่ามีใครไม่พอใจหรือไม่ ปรากฏว่าได้รับคำตอบและการยืนยันจากทุกพรรคร่วมฝ่ายค้านที่ยื่นญัตติว่ารายชื่อที่เซ็นมาถูกต้องทุกอย่าง ซึ่งสรุปได้ว่า ญัตติอภิปรายถูกต้อง และรายชื่อก็ถูกต้อง

นพ.สุกิจกล่าวว่า จากนั้นได้ส่งหนังสือกลับมาที่ประธานสภา เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน เพื่อขออนุมัติบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมสภา โดยนายชวนได้อนุมัติบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วนภายในวันที่ 23 มิถุนายนเช่นเดียวกัน หลังจากบรรจุเรียบร้อยแล้วจะแจ้งไปยังนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ เลขาธิการสภาผู้แทราษฎร ได้มีหนังสือไปยังเลขาธิการ ครม.เพื่อแจ้งไปยัง ครม.แล้ว และต่อจากนี้ไปต้องรอคำตอบจาก ครม.ว่ามีความพร้อมอภิปรายเมื่อใด จึงจะดำเนินการต่อไป