ชัชชาติ : ถก ตร.จราจรแก้รถติด ตั้งคณะศึกษาระบบจราจร-สัญญาณไฟ 1 ปี วาร์ปดูจุดไฟไหม้สีลมซอย 2

ชัชชาติ ถกตำรวจจราจร แก้รถติดกรุงเทพฯ เร่งตั้งคณะทำงานศึกษาระบบจราจร-สัญญาณไฟกำหนดกรอบ 1 ปี ก่อนวาร์ปอยู่สีลมซอย 2 เช็คจุดไฟไหม้ แจงปม ‘โอเวอร์พีอาร์’ น้อมรับทุกคอมเมนต์

 

วันที่ 8 มิถุนายน เมื่อเวลา 07.30 น. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ร่วมหารือเกี่ยวกับการจัดการจราจรในกรุงเทพฯ ศูนย์ควบคุมสั่งการและแก้ไขปัญหาการจราจรในเขตกรุงเทพและปริมณฑล กองบังคับการตำรวจจราจร

นายชัชชาติกล่าวว่า วันนี้ได้ข้อสรุปเกี่ยวกับปัญหาจราจร 5 ข้อ ได้แก่ 1.ต้องร่วมมือกับทุกหน่วยงานอย่างเข้มข้น ทั้ง กทม. กระทรวงคมนาคม เจ้าหน้าที่ตำรวจ ขสมก. ทางด่วน และรถไฟฟ้า

2.จัดตั้งศูนย์บัญชาการร่วม โดยมีเจ้าหน้าที่ กทม. และ ขสมก.มานั่งประจำ มีเทศกิจลงไปแก้ปัญหาแต่ละจุดอย่างเร่งด่วน โดย กทม.จะรับหน้าที่วิเคราะห์แผนที่แก้ปัญหาจราจรติดซ้ำซาก

3.จัดตั้งคณะทำงานศึกษาระบบไฟจราจร และระบบจราจรทั่วกรุงเทพฯ กำหนดกรอบเวลาภายใน 1 ปี

4.กทม.จะนำข้อมูลความเสี่ยงมาวิเคราะห์ เพื่อกำหนดควบคุมความเร็วในถนนเส้นชุมชน และถนนที่เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งเป็นอำนาจหน้าที่ของ กทม. และกองบัญชาการตำรวจนครบาล

5.แนวทางจัดการการขับขี่รถจักรยานยนต์ให้ปลอดภัยมีประสิทธิภาพ เช่น ช่องจราจรสำหรับรถมอเตอร์ไซค์

“สัปดาห์หน้าจะลงพื้นที่ไปในจุดที่มีปัญหาการจราจรด้วย ขอความร่วมมือไปยังประชาชนให้เคารพกฎจราจร แม้จะเป็นจุดเล็กๆ แต่ก็ทำให้เกิดปัญหาจราจรได้” ผู้ว่าฯกทม.กล่าว

นายชัชชาติกล่าวอีกว่า กทม.จะเข้ามาช่วยตำรวจจราจรในการปรับปรุงระบบเทคโนโลยี อาจนำรายได้จากค่าปรับมาลงทุนระบบเทคโนโลยีเหมือนในต่างประเทศ สำหรับสิ่งที่สามารถทำได้เลยคงเป็นจุดที่เกิดปัญหาจราจรซ้ำซาก เช่น ปัญหารถติดแถวถนนพระราม 4 จากรถขึ้นทางด่วน ปัญหารถติดแถวบ่อนไก่ จากรถเลี้ยวเข้าสวนลุมพินี ซึ่งสามารถแก้ได้ด้วยการบังคับใช้กฎหมาย และส่งเทศกิจลงไปกำกับ ทั้งยังจะหารือเรื่องปัญหาวินเตอร์ไซค์กับการจอดบนทางเท้าด้วย

“ไม่อยากให้เอาปัญหารถติดเป็นที่ตั้ง ต้องทำเรื่องขนส่งสาธารณะให้ดี เพราะเป็นเรื่องระยะยาว ประชาชนต้องใช้ขนส่งสาธารณะมากขึ้น” นายชัชชาติกล่าว

จากนั้นเวลาประมาณ 08.50 น. นายชัชขาติ เดินทางต่อไปยังสีลมซอย 2 ตรวจจุดเกิดเหตุไฟไหม้วานนี้ หลังการประชุมหารือร่วมกับกองบังคับการตำรวจจราจร (บก.02) โดย ในตอนหนึ่งระหว่างเดินเท้าไปยังจุดเกิดเหตุ นายชัชขาติกล่าวถึงผู้ใช้บริการรถสาธารณะว่าเป็นชาย 25% หญิง 75% เนื่องจากผู้ชายจำนวนมากใช้รถจักรยานยนต์แทนเพราะทนรถติดไม่ไหว สำหรับเหตุไฟไหม้วานนี้ นายชัชชาติกล่าวว่า หากไหม้ช่วงกลางคืนจะอันตรายกว่านี้

เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัย พร้อมด้วย ผกก.สน.บางรัก ให้ข้อมูลกับนายชัชชาติว่า วานนี้รถดับเพลิงใช้เวลาราว 11 นาที จึงมาถึง เนื่องจากการจราจรติดขัดมาก ตามหลักการควรใช้เวลาไม่เกิน 8 นาที ภาพรวมเรียบร้อยดี การดำเนินการใช้เวลาไม่นาน

นายชัชชาติกล่าวว่า 8 นาทีนี้คือนาทีทอง มีผู้ให้ข้อมูลกับตนว่าทางเข้า-ออกแคบ พร้อมกันนี้ได้เข้าตรวจสอบจุดไฟไหม้ซึ่งมีสายไฟขนาดใหญ่ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยแจ้งว่า เบื้องต้นคาดว่ามาจากจุดดังกล่าว โดยเหตุมาจากไฟฟ้าลัดวงจร

“เมื่อเช้ามีนักข่าวถามว่าอาจารย์โอเวอร์พีอาร์ไปหรือเปล่า มีคนคอมเมนต์ เราก็บอกว่าโอเค น้อมรับความคิดเห็น พยายามปรับ แต่เราพยายามให้เห็นว่าเราทำงานกันอย่างไร เพราะประชาชนเป็นเจ้าของภาษี จะได้เข้าใจการทำงานมากขึ้น แต่ถ้ามีความเห็นอะไรก็ติชมมาได้นะครับ เรายินดีฟังทุกคนความเห็นและจะปรับปรุงตัวให้ดีขึ้น” นายชัชชาติกล่าว