เทพไท จี้รบ.จ่ายเบี้ยคนชรา คนละ 1,000 เท่ากัน สกัดพรรคการเมืองหาเสียงเกทับ

เทพไท แนะรัฐบาลเพิ่มเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เดือนละ 1,000 บาทเท่ากัน สกัดพรรคการเมืองหาเสียงเกทับ แต่สุดท้ายทำไม่ได้เหมือนบางพรรค

เมื่อวันที่ 28 พ.ค. 2565 นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า เมื่อวันที่ 27 พ.ค.ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้พิจารณารายงานการศึกษา เรื่องแนวทางการเสนอกฎหมายบำนาญพื้นฐานแห่งชาติ ซึ่งคณะกรรมาธิการ (กมธ.)สวัสดิการสังคม ที่มี น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธานฯ นำเสนอและที่ประชุมมีมติเห็นชอบ เพื่อนำเสนอต่อรัฐบาลต่อไปนั้น

ส่วนตัวเห็นด้วยกับการมีกฎหมายบำนาญพื้นฐานแห่งชาติ เพื่อเป็นสวัสดิการของผู้สูงอายุ ซึ่งนับวันจะมีจำนวนผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น และประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุแล้ว แต่การนำรายงานฉบับนี้เสนอต่อรัฐบาล ก็ไม่มีหลักประกันว่า รัฐบาลจะรับไปพิจารณา และผลักดันให้เป็นกฎหมายมีผลในทางปฏิบัติเมื่อไหร่

นายเทพไท ระบุต่อว่า ถ้าหากว่ารัฐบาลจะแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เพื่อช่วยเหลือ ดูแลผู้สูงอายุ ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี ก็สามารถปรับปรุงโครงการเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ที่พรรคประชาธิปัตย์ ได้เริ่มต้นโครงการนี้ไว้ในสมัยรัฐบาลนายชวน หลีกภัย เป็นนายกรัฐมนตรี ที่กำหนดให้ผู้สูงอายุหมู่บ้านละ 5 คน ได้รับเบี้ยยังชีพคนละ 200 บาทต่อเดือน และได้เพิ่มเงินเบี้ยยังชีพเป็นเดือนละ 500 บาทในยุครัฐบาลของพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ และได้ยกระดับโครงการ เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุครบ 100% ในรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่กำหนดให้คนไทยทุกคนที่มีอายุครบ 60 ปี สามารถลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุได้เดือนละ 500 บาททุกคน

ซึ่งถือว่าเป็นโครงการสวัสดิการผู้สูงอายุถ้วนหน้า จนรัฐบาลชุดต่อมา ได้ต่อยอดโครงการดังกล่าว ปรับปรุงเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเป็นขั้นบันได โดยใช้เกณฑ์อายุ 60 ปีได้รับเบี้ยยังชีพ 600 บาท อายุ 70 ปีได้รับเบี้ยยังชีพ 700 บาท อายุ 80 ปีได้รับเบี้ยยังชีพ 800 บาท และอายุ 90 ปีได้รับ 1,000 บาท ซึ่งทุกรัฐบาลได้เห็นความสำคัญของผู้สูงอายุ จึงยังคงโครงการนี้ไว้

“ผมเห็นว่าการเพิ่มเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุแบบขั้นบันได เป็นความลักหลั่นในทางปฏิบัติ เพราะผู้สูงอายุทุกคน มีความจำเป็นในการใช้เงินยังชีพเหมือนกัน ไม่ได้หมายความว่าอายุมากจำเป็นต้องใช้เงินมากตามอายุ จึงไม่จำเป็นต้องเพิ่มแบบเป็นขั้นบันได ควรจะเหมารวมเป็นผู้สูงอายุอายุเกิน 60 ปีขึ้นไป ได้รับเบี้ยยังชีพคนละ 1,000 บาทแบบถ้วนหน้าไปก่อน จนกว่ากฎหมายบำนาญแห่งชาติ จะผ่านความเห็นชอบของรัฐบาล ซึ่งจะมีเบี้ยยังชีพคนละ 3,000 บาทต่อเดือน”

“ผมขอเสนอให้รัฐบาลมีความชัดเจนในโครงการเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ไม่อยากจะให้นำไปเป็นประเด็นการหาเสียงในการเลือกตั้งครั้งหน้า ที่จะมีพรรคการเมือง เสนอนโยบายเพิ่มเบี้ยยังชีพแบบเกทับ บลัฟแหลก สุดท้ายก็ไม่สามารถนำมาปฏิบัติได้ เหมือนกับนโยบายของพรรคการเมืองบางพรรคในปัจจุบัน” นายเทพไท ระบุ