ฤกษ์ล้มกระดานรัฐบาล/ลึกแต่ไม่ลับ จรัญ พงษ์จีน

จรัญ พงษ์จีน

ลึกแต่ไม่ลับ

จรัญ พงษ์จีน

 

ฤกษ์ล้มกระดานรัฐบาล

 

จบไปแล้ว ศึกเลือกตั้ง “ผู้ว่าฯ กทม.” ชิงเก้าอี้หมายเลข 1 เสาชิงช้า เป็นไปตามคาด ดังที่โพลทุกสำนักฟันธง “ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” ผู้สมัครอิสระ เบอร์ 8 เข้าป้าย แลนด์สไลด์ ถล่มทลาย ชนะแบบสุดติ่งกระดิ่งแมว

ทุบสถิติทำลายประวัติศาสตร์ศึกเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ลงราบคาบ “คนกรุง” เทใจให้ 1,386,215 เสียง ซิวสัดส่วนเปอร์เซ็นต์ของผู้ใช้สิทธิ์ทั้งหมดไปร้อยละ 51.84 มากกว่าฐานคะแนนรวมของผู้สมัครคนอื่นๆ อีก 29 คน เมื่อนำมามัดข้าวต้มเข้าด้วยกัน

ทิ้งห่างคู่แข่งที่ได้อันดับ 2 คือ “สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์” พรรคประชาธิปัตย์ซึ่งได้รับเลือกเพียง 254,647 คะแนน แบบไม่เห็นฝุ่น “ชัชชาติ” ผงาดเป็นผู้ว่าฯ กทม.ด้วยปาฏิหาริย์ “เลข 8” นำโชค

หมายเลขผู้สมัคร “เบอร์ 8” เป็นผู้ว่าฯ กทม.คนที่ 17 เอา 1+7 เท่ากับ 8 แล้วยังเป็นผู้ว่าฯ กทม.คนที่ 8 ที่มาจากการเลือกตั้ง ต่อจาก 1. “นายธรรมนูญ เทียนเงิน” 2. “พล.ต.จำลอง ศรีเมือง” 3. “ร.อ.กฤษฎา อรุณวงศ์ ณ อยุธยา” 4. “พิจิตต รัตตกุล” 5. “สมัคร สุนทรเวช” 6. “อภิรักษ์ โกษะโยธิน” 7. “ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร” และ 8. “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์”

“อาถรรพ์หมายเลข 8” อย่างน่าตื่นตะลึง

ทีนี้ตามไปดูสถิติย้อนหลังการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.กันเสียหน่อย “ครั้งที่ 1” พ.ศ.2518 “นายธรรมนูญ เทียนเงิน” ได้ 99,247 คะแนน ครั้งที่ 2 ปี 2528 “พล.ต.จำลอง ศรีเมือง” ได้ 408,237 คะแนน ครั้งที่ 3 ปี 2533 “พล.ต.จำลอง ศรีเมือง” ได้ 703,672 คะแนน ครั้งที่ 4 พ.ศ.2535 “ร.อ.กฤษฎา อรุณวงศ์ ณ อยุธยา” ได้ 363,668 คะแนน ครั้งที่ 5 พ.ศ.2539 “นายพิจิตต รัตตกุล” ได้ 668,994 คะแนน ครั้งที่ 6 ปี 2543 “นายสมัคร สุนทรเวช” ได้ 1,016,096 คะแนน ครั้งที่ 7 พ.ศ.2547 “นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน” ได้ 911,441 คะแนน ครั้งที่ 8 พ.ศ.2551 “นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน” ได้ 991,018 คะแนน ครั้งที่ 9 ปี 2552 “ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร” ได้ 934,602 คะแนน ครั้งที่ 10 ปี 2556 “ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร” ได้ 1,256,349 คะแนน

และเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2565 ครั้งที่ 11 ของการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” แลนด์ไลด์ ทุบสถิติเก่าลงอย่างราบคาบ ได้รับเลือกด้วยคะแนน 1,386,215 คะแนน

พรรคประชาธิปัตย์ ยึดหัวหาด ครองตำแหน่งเบอร์ 1 เสาชิงช้า มากที่สุด ประกอบด้วย “นายธรรมนูญ เทียนเงิน” ต่อด้วย “พิจิตต รัตตกุล” แม้ตอนชนะ จะลงสมัครในนามกลุ่มมดงาน แต่เป็นที่รู้ว่าสายเลือดประชาธิปัตย์ ตามด้วย “อภิรักษ์ โกษะโยธิน” ส่งไม้ต่อมายัง “คุณชายหมู” คนละ 2 สมัยซ้อน

แต่ประชาธิปัตย์ไปต่อไม่ได้ ฝันสลายด้วยฝีมือของผู้ที่ได้รับฉายาว่า “ผู้ชายแกร่งที่สุดในปฐพี” ที่ชื่อ “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” ถูกลบทิ้งไปกับการเลือกตั้งท้องถิ่น “จังหวัดเดียว” ครั้งแรก หลังจากว่างเว้นมาเป็นเวลา 9 ปี

เพราะถูก “คสช.” ใช้อำนาจนอกระบบมาจัดการ ส่งเข้าช่องฟรีซ แช่แข็งมาเป็นเวลา 9 ปีเต็ม กับการเลือกตั้งครั้งสุดท้าย เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2556 ที่ “คุณชายหมู สุขุมพันธุ์” ชนะเข้าวินเป็นคำรบที่ 2

แต่อยู่ได้ไม่ครบเทอม ถูก “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ใช้มาตรา 44 ตามอำนาจรัฐธรรมนูญชั่วคราวฉบับปี 2557 เด้งออกจากตำแหน่ง แล้วแต่งตั้ง “พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง” รองผู้ว่าฯ กทม. ขึ้นแป้นผู้ว่าฯ กทม.สืบแทน แบบสบายแฮแช่น้ำอุ่นมาเป็นเวลา 5 ปีกว่า

 

ไม่รู้ว่าบังเอิญ หรือจงใจกันแน่ “กกต.” กำหนดวันเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.วันที่ 22 พฤษภาคม เป็นวันเดียวกันเด๊ะ กับวันที่ “คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ (คสช.)” ของ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” เปิดปฏิบัติการรัฐประหาร ยึดอำนาจจากรัฐบาล “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” หยิบลูกคิด ไม่ว่ารางแก้ว หรือรางไม้มาดีด บวก-ลบ ปรากฏว่า 8 ปีบริบูรณ์

มหัศจรรย์ หมายเลข 8 พอดิบพอดีอีกต่างหาก จากหมายเลข 8 ผู้ว่าฯ กทม.ที่มาจากการเลือกตั้งคนที่ 8 เป็นคนที่ 17 เอา 1+7 เท่ากับ 8 แล้วยังมา 8 ปีพอดิบพอดีกับที่ “ลุงตู่” แกนำคณะยึดอำนาจ

 

การที่ “ดร.ทริป” ตีกรรเชียงมาลงสมัครในนามอิสระ แม้โดยนัยยะ การบริหารงาน กทม.จะไม่มีปัญหา “ส.ก.” พรรคเพื่อไทย กับก้าวไกล คงเป็นฐานที่มั่นให้ แต่ถือว่า “อยู่กลางดงเสือ”

ส่วนที่มีอำนาจเหนือกว่าคือ กระทรวงมหาดไทย ก็เขี้ยวลากดิน ฝั่งหนึ่งคือ รัฐบาล เบอร์ 1 ตึกไทยคู่ฟ้า ก็ชักจะอิจฉา ตาเหล่ เก็บอาการไม่อยู่ ออกตัวแรง ข่มขวัญ แต่เชื่อว่า “ชัชชาติ” ใช้ความสด สมองอันปราดเปรื่อง เลืองลือกว่า รับมือตีกินได้สบายๆ

ศึกเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ที่ชัยชนะตกอยู่กับ “ดร.ทริป” อย่างถล่มทลาย แม้จะเป็นแค่การเลือกตั้ง “เพียงจังหวัดเดียว” แต่มิต่างอะไรกับ “ก้อนกรวดในรองเท้าท็อปบู๊ต” ทั้ง “มหาดไทย-ทำเนียบ” ไม่เคี้ยวง่าย-ถ่ายคล่อง เหมือนผู้ว่าฯ ลากตั้ง

หลายอย่างทำท่าจะไม่รื่นไหล หวานคอแร้ง เป็นต้นว่า ปมรถไฟสายสีเขียว

เหนือสิ่งอื่นใด การที่คน กทม.เทคะแนน แต้มไหลไปให้ “ดร.ทริป” ขณะที่ซีก “2 ลุง” ให้การสนับสนุน ทั้งทางลับ-อีแอบ-เปิดเผย พากันแพ้ป่าราบ ไม่เหลือลาย ส่งสัญญาณต่อภาพรวมทางการเมืองของรัฐบาลไม่สู้จะดีนัก

ช่วงนี้ สภาผู้แทนราษฎรเปิดประชุมไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่องไทม์ไลน์ หลังหรือก่อน พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี “ฝ่ายค้าน” จะชิงเสนอญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม้ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลหรือทั้งคณะ

ลำพังข้อมูลเห็นว่า เตรียมไว้เผด็จศึกมากมายหลายเรื่อง ก็หนักหนาสาหัสเป็นทุนสำหรับรัฐบาล “บิ๊กตู่” มากอยู่แล้ว

ล่าสุดพรรคเศรษฐกิจไทย เครือข่ายของ “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” จำนวน 18 เสียง บวกกับปลาซิวปลาสร้อย “พรรคเล็ก” อีกจำนวนหนึ่ง จับกลุ่ม พากันวีนเป็นแตนอาละวาด หมายปั่นราคาเพิ่มค่ากล้วย

เจ้าของสวนอ่านหนังสือออก เริ่มมองไม่เห็นอนาคต “หมดนกซ่อนเกาทัณฑ์”

ศึกซักฟอก ครั้งที่จะถึงนี้ “ลำกล้องอักเสบ” พวกเสือป่าแมวเซาทั้งหลาย มีแนวโน้มรับประทานแห้วแทน “กล้วย”

มีโอกาสสูงยิ่งที่พรรคเล็ก-พรรคน้อยจะร่วมวงไพบูลย์กับฝ่ายค้านคว่ำกระดานรัฐบาล “บิ๊กตู่”

“กองทัพ” ไม่ว่าอยู่ค่ายไหน ต้อง “เดินด้วยท้อง” ไร้เสบียงกรัง พวกพ้องเดินด้วยกันยาก

มีข่าวว่า “ฝ่ายค้าน” กำหนดทำศึกซักฟอกเอาไว้แล้ว จะลงมือในเดือนสิงหาคม

ฤกษ์ล้มกระดานรัฐบาล “พล.อ.ประยุทธ์” ตรงกับ “เดือน 8” ป๊ะกันพอดิบพอดี เช่นเดียวกัน