ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 27 พฤษภาคม - 2 มิถุนายน 2565 |
---|---|
คอลัมน์ | ภาพยนตร์ |
ผู้เขียน | นพมาส แววหงส์ |
เผยแพร่ |
ภาพยนตร์
นพมาส แววหงส์
THE PERFECT FAMILY
‘ช้างเท้าหลัง?’
กำกับการแสดง
Arantxa Echevarria
นำแสดง
Belin Rueda
Jose Coronado
Gonzalo de Castro
Pepa Aniorte
Gonzalo Ramos
Carolina Yuste
คําพังเพยไทยที่เปรียบผู้หญิงเป็น “ช้างเท้าหลัง” น่าจะล้าสมัยไปแล้วในโลกแห่งเสรีภาพและความเสมอภาคของยุคปัจจุบัน
ผู้หญิงสมัยใหม่ต้องการชีวิตนอกบ้านที่สามารถยืนอยู่บนขาของตัวเองโดยไม่ต้องพึ่งพิงสามีเป็นหลักชีวิตอย่างเดียวและคอยเดินตามต้อยๆ อยู่ข้างหลัง สร้างตัวตนของตัวเองขึ้นด้วยความภาคภูมิในศักดิ์ศรีและความรู้ความสามารถของตัวเอง
ดังในหนังคอเมดี้จี้เส้นจากสเปนเรื่อง The Perfect Family นี้
เริ่มเรื่องด้วยภาพครอบครัวที่มั่งคั่งพรั่งพร้อม “สมบูรณ์แบบ” ของลูเชีย (เบลิน รูเอดา) กับสามีนักดาราศาสตร์ เออร์เนสโต (กงซาโล เดอ คาสโตร) ในคฤหาสน์อัครฐานที่มีสาวใช้เจ้าระเบียบดูแลจัดการ ขณะที่คุณผู้หญิงของบ้านคอยกำกับดูแลอีกที ไม่ให้ขาดตกบกพร่องสักกระเบียดนิ้ว
เห็นได้ชัดว่าครอบครัวนี้อยู่ในแวดวงชนชั้นสูงของสังคม เป็นที่นับหน้าถือตา รวมทั้งตกอยู่ในความอิจฉาตาร้อนของเพื่อนฝูง หากเห็นใครได้ดีเกินหน้า
ลูกชายโทนหัวแก้วหัวแหวนชื่อ ปาโบล (กงซาโล รามอส) เป็นหนุ่มเนื้อหอมสมบูรณ์แบบเหมือนกัน เพราะโขกออกมาจากพิมพ์ของสูตรสำเร็จแห่ง “ความสำเร็จในชีวิต”
ปาโบลเป็นทนายความในสำนักกฎหมายชื่อดัง หลังจากจบการศึกษานิติศาสตร์ในสถาบันที่มีชื่อเสียง
แน่นอนว่าพ่อแม่ต้องตั้งความหวังไว้สูงมากสำหรับลูกชายคนเดียวที่ “ได้ดังใจ” คนนี้
แต่การณ์กลับปรากฏว่า ปาโบลกำลังระทึกใจกับการพาพ่อแม่ไป “ดูตัว” สาวเพื่อจะได้รู้จักกับครอบครัวของผู้หญิงที่เขาตั้งใจจะตั้งครอบครัวเป็นปึกเป็นแผ่นด้วย
ลูเชียกับเออร์เนสโตแต่งตัวสวยงามเริ่ดหรูตามปกติวิสัย นั่งรถหรูข้ามเมืองฝ่าไปในย่านเสื่อมโทรมที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน จวบจนรถมาจอดอยู่หน้าอพาร์ตเมนต์โทรมๆ ของชนชั้นกรรมาชีพที่ทำงานหาเช้ากินค่ำ
และได้เข้าไปทำความรู้จักกับครอบครัวที่กำลังจะเข้ามา “ดอง” กัน
อัมปาโร (เปปา อานิออร์เต) แม่ของซารา เป็นพนักงานขับรถประจำทาง
มิเกล (โฆเซ คอโรนาโด) พ่อของซารา เป็นชายร่างกำยำแข็งแกร่ง ซึ่งทำอาหารเก่งและมีหัวศิลปะ
ซารา (คาโรลีนา ยูสเต) เป็นสาวที่มี “กิริยาส่อสกุล” ว่าไม่ได้รับการอบรมเยี่ยงผู้ดีตามแบบฉบับของสังคม เธอทำงานเป็นเทรนเนอร์หรือครูสอนการออกกำลังกายอยู่ในยิม หรือที่เราเรียกกันว่า ฟิตเนส
ปาโบลหลงรักซารา และมั่นใจว่าเธอจะทำให้เขามีความสุข เนื่องจากเธอเป็นผู้หญิงที่ต่างไปจากผู้หญิงในขนบแบบที่เขาเคยเจอะเจอ เขาบอกแม่ว่าเธอทำให้เขารู้สึกมีชีวิตชีวาอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน
แม้จะไม่เห็นด้วย แต่ลูเชียกับเออร์เนสโตก็คล้อยตามไปตามความปรารถนาของลูก โดยไม่ขัดใจให้เกิดเรื่องแตกร้าวหรือแตกหักกันไปในครอบครัว
ลูเชียเดินทางไปชนบทกับปาโบลและซารา ซึ่งพ่วงเอาพ่อของเธอ มิเกล นั่งรถไปด้วย
และโลกทัศน์ของลูเชียกำลังจะเปลี่ยนไป หรือจะพูดให้ถูก คือ พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ ณ จุดพลิกผันในชีวิตจุดนี้
จากชีวิตใน “ครอบครัวสมบูรณ์แบบ” ที่เธอรู้สึกในความพร่องบางอย่างที่จับต้องไม่ได้
เมื่อแต่งงาน ลูเชียทิ้งอาชีพการเป็นครูที่เธอรักและสนุกที่จะทำ มาส่งเสริมบารมีของสามีและทุ่มเทเวลาดูแลบ้านช่องและเลี้ยงดูลูกชายคนเดียวอย่างเต็มที่
ครั้นเมื่อ “งาน” ในชีวิตครอบครัวดูเหมือนจะสิ้นสุดลงแล้ว ลูกชายกำลังจะไปตั้งครอบครัวใหม่ของเขาเอง ลูเชียเริ่มรู้สึกเคว้งคว้างว่างเปล่า
โดยเฉพาะเมื่อได้เห็นความสุขในชีวิตที่เติมเต็ม แม้จะกะพร่องกะแพร่งในทางอื่น ของ “ผู้หญิงทำงาน” คนอื่นๆ
หนังเล่าเรื่องราวของลูเชีย และนำเสนอจากแง่มุมที่แสดงให้เห็นแคแร็กเตอร์ของเธอ
เกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวงในชีวิตของลูเชีย จาก “ครอบครัวสมบูรณ์แบบ” ซึ่งโปสเตอร์ออกแบบวลีที่เป็นชื่อเรื่องนี้ ให้อักษรตัวสุดท้ายบิดเบี้ยวและกระเด็นหล่นจากบรรทัด โดยไม่เป็นข้อความที่สมบูรณ์ในที่ในทางตามที่ควร
เนื้อหาของหนังเป็นเรื่องยอดฮิตติดตลาดแบบหนึ่ง อย่างที่หลายคนอาจเรียกว่าเป็นเรื่องของ “สตรีนิยม” (feminism) ก็ดี การเสริมสร้างกำลังใจให้ผู้หญิง (women empowerment) ก็ดี ซึ่งเป็นแนวทางความเคลื่อนไหวที่มีผู้สนับสนุนและติดตามมากมาย
และตัวละครเอกของเรื่องก็เป็นคนแบบที่คนดูจะเอาใจช่วยอยู่ด้วย เป็นหญิงสามารถฉลาดเฉลียวอย่างที่เราอยากจะอยู่ฝ่ายเดียวด้วยโดยตลอด ซึ่งได้ “ค้นพบ” ตัวเอง ฝ่าฟันและก้าวไปข้างหน้าสู่อนาคตที่เธอจะยืนหยัดด้วยศักดิ์ศรีและความทระนงตน แบบที่ไม่ต้องซ่อนอยู่เบื้องหลังของสามี
จะมีข้อติติงอยู่ก็ตรงที่ว่า “มุขตลก” ทั้งหลายทั้งปวงนั้นออกจะเว่อร์ จำเจวนเวียนอยู่กับมุขเก่าๆ ที่เอามาใช้แล้วใช้อีกจนขาดความแปลกใหม่ จะพูดว่าเป็นมุขเชยๆ ทั้งหลายทั้งปวงก็ว่าได้
ไม่ว่าจะเป็นความประดักประเดิดที่ตัวละครประสบในสถานการณ์ที่แตกต่างไปจากมาตรฐานของ “ผู้ดี” หรือการวางตัวละครที่ตั้งใจให้ “ตลก” แต่ออกจะเป็นมุขฝืดๆ อย่างเช่น ตัวละครที่เป็นสาวใช้ ซึ่งมีลักษณะ “ล้น” จนหาจุดยืนไม่ได้ เป็นต้น
แต่โดยรวมๆ แล้ว ก็เป็นหนังที่พอดูได้เพลินๆ นะคะ •
ชมตัวอย่างภาพยนตร์ The Perfect Family ได้ที่นี่