เผยแพร่ |
---|
ยิ่งใกล้ถึงเดือนธันวาคม 2560 บทบาทของ 1 กรธ. และ 1 สนช.ยิ่งถูกจับตามอง
มองไปยัง “กฎหมายลูก”
เพราะนับจากวันที่ 6 เมษายน 2560 ที่ประกาศและบังคับใช้ รัฐธรรมนูญ
เดือนธันวาคม 2560 จะเป็นหลักไมล์สำคัญ
หากกรธ.สามารถส่งร่างพรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญสุดท้ายว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.ไปถึงสนช.ได้เรียบร้อย
จากนั้น “เผือกร้อน” ก็อยู่ในมือ”สนช.”
ข้อน่าเป็นห่วงที่ว่าอาจจะมีการ”เตะถ่วง”รั้งดึงกฎหมายลูกหรือไม่ อย่างไร ก็จะได้เห็นตอนนี้
บทบาทของ”สนช.”จึงสำคัญ
ต้องยอมรับว่านับแต่สนช.กำเนิดมาตามรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว พ.ศ.2557 ทุกอย่างล้วนเรียบ”โร้ย”
การถอดถอนสำเร็จตามเป้า
ไม่ว่าจะเป็น นายประชา ประสพดี นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล กระทั่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
สนช.ล้วนยกมือเหมือน”ฝักถั่ว”
การผ่านร่างกฎหมายบางฉบับก็ 3 วาระรวดตามความต้อง การของฝ่ายบริหารทุกประการ
ไม่เคยมี”กระทู้” ตั้งข้อ”สงสัย”
มีแต่การปรบมือแสดงการสนับสนุนและให้กำลังใจคสช.และรัฐบาล
เพราะเป็น 1 ใน “แม่น้ำ 5 สาย”
จากพื้นฐานความเป็นจริงที่ “ชาวบ้าน” รับรู้มา 3 ปีเศษหลังรัฐประ หารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557
การพิจารณาร่าง”กฎหมายลูก”จึงทรงความหมาย
จะสามารถทำให้ “โรดแมป”ว่าด้วย “การเลือกตั้ง” บรรลุตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้หรือไม่
ขึ้นอยู่กับ”สนช.”ในที่สุด
แสงแห่งสปอตไลต์ย่อมฉายจับไปยังการประชุมและพิจารณาของสนช.อย่างเด่นชัด เดือนพฤศจิกายน 2561 จะได้เลือกตั้งหรือไม่น่าจะมีคำตอบ
หากคำตอบบิดๆเบี้ยวๆก็”ตัวใครตัวมัน”