‘มีดบิน’ หมดฤทธิ์ ต่อ เทพบุตรพิสดาร ใจดำ ‘กิมซีกะ’ ลอยล่อง/บทความพิเศษ

บทความพิเศษ

 

‘มีดบิน’ หมดฤทธิ์

ต่อ เทพบุตรพิสดาร ใจดำ

‘กิมซีกะ’ ลอยล่อง

 

เป็นอันว่ากิมซีกะมิได้ตกอยู่ในมือของ “คนชุดเขียว” แม้จะเสนอ “หัตถ์อสูรเขียว” ผนวกเข้ากับ “กระบี่ไส้ปลา” มาเป็นเครื่องแลก

มิเพียงลี้คิมฮวงไม่ยินยอม

หากแต่ในความเป็นจริง กิมซีกะยังมิได้ตกอยู่ในมือของลี้คิมฮวงอย่างแท้จริงเพียงแต่สวมอยู่บนร่างของอั้งฮั่นมิ้ง

และเมื่อคล้อยหลังร่างของ “คนชุดเขียว” อำลาจากไป

พลันมีเงาร่างหนึ่งแม้อ้วนฉุพิการแต่กลับไม่อุ้ยอ้าย สองมือกดวูบกลิ้งตัวทอดหนึ่งก็ไปถึงหน้าเตาไฟ เมื่อกดสองมืออีกคราก็กระโดดขึ้นบนเตาราวคางคกตัวหนึ่ง ซากศพของอั้งฮั่นมิ้งยังอยู่ภายในหม้อ

เสื้อเกราะใยทองก็ยังสวมอยู่บนซากศพนั้น

คนผู้นี้ไม่แยแสสนใจลี้คิมฮวง ลงมือถอดเสื้อเกราะใยทองออกไป ที่น่าประหลาดคือ ลี้คิมฮวงยังนั่งแน่วนิ่วไม่เคลื่อนไหว มีดบินในมือก็ไม่ซัดออกไป

เพียงถลึงมองตัวประหลาดนี้ ในดวงตากลับทอแววประหวั่นพรั่นพรึง

 

ยิ่งเป็นความประหวั่นพรั่นพรึงมากยิ่งขึ้นเมื่อตัวประหลาดนั้นส่งเสียงหัวร่อดังๆ ว่า “ผู้อื่นล้วนเข้าใจว่าท่านไม่ได้ถูกพิษ แต่เราทราบว่าท่านถูกพิษแล้ว

เพียงแต่ท่านรักษาความเยือกเย็นไว้ ดังนั้น ผู้อื่นล้วนหลงกลของท่าน

แต่ท่านอย่าคิดหมายล่อลวงให้เราหลงกลด้วย ทั้งนี้ เพราะเราทราบว่าพิษที่ผสมอยู่ในสุราทั้งไร้สีและทั้งไร้รส จมูกของท่านต่อให้ปราดเปรียวกว่าสุนัขก็อย่าคิดหมายสูดดมออก

เราย่อมทราบกระจ่างยิ่ง ทั้งนี้ เพราะเราเป็นคนแพร่พิษเอง

ท่านถูกพิษหรือไม่เราก็ดูออก ท่านสามารถหลอกลวงผู้คนทั้งแผ่นดิน แต่หลอกลวงเราไม่ได้ หรือท่านไม่ต้องการทราบว่าตัวเองตายในเงื้อมมือผู้ใด ท่านมีภูมิรอบรู้กว้างขวางสมควรทราบว่าในยุทธจักรมีบุคคลที่ต่ำช้าไร้ยางอายที่สุด 7 คน

นั่นก็คือ “เจ็ดผู้พิสดาร” (ฉีกเหมียวนั้ง)

ผู้พิสดารทั้ง 7 นี้นับว่าบุรุษชั่วช้า สตรีสามานย์ ไร้ยางอายถึงที่สุด วิชาฝีมืออื่นพวกมันไม่เรียนรู้แต่ความสามารถในการแพร่พิษ มอมยา ลักเล็กขโมยนั้ย ล่อลวงลักพา จัดเป็นอันดับหนึ่งในบู๊ลิ้ม

ใน “เจ็ดพิสดาร” มีคนที่ต่ำช้าสามานย์ที่สุดคนหนึ่ง เรียกว่า “บุรุษพิสดารใจดำ” (เอ็กซิมเหมียวนึ้งกุน)

 

คนประหลาดนี้ย่อมเป็น “บุรุษพิสดาร” ฮวยฮง ที่คนส่วนใหญ่รับรู้นั้นแท้จริงมาจากฉายาเดิมที่ว่า “เอ็กซิมเหมียวนึ้งกุน” (บุรุษพิสดารใจดำ)

หากรับฟังจาก “คำ” ของมันเองจะยิ่งประหลาดใจ

คนผู้นี้ไม่รักดีถึงกับไม่กล้าปล้นสวาท เพียงรู้จักหลอกลวงสตรีดีงาม หลอกลวงทั้งเงินทองและร่างกาย แต่หากเอ่ยถึงความสามารถในการแพร่พิษ

บางครั้งแม้กระทั่ง “ทารกเบญจพิษ” แห่งถ้ำสุขนิรันดร์ยังเป็นรองมันขั้นหนึ่ง

เราย่อมรู้จักมันโดยซึ้งกระจ่าง ทั้งนี้เพราะ เราคือมัน มันคือเราเอง ท่านประหลาดใจนักหรือ บุรุษพิสดารใจดำไฉนเป็นลูกหนังเนื้อใบหนึ่ง

เพียงแต่คนผู้หนึ่งหากถูกฟันเท้าขาด้วน คุมขังอยู่ในห้องใต้ดิน

ทุกวันเพียงป้อนข้าวคลุกน้ำมันสุกรไม่ใส่เกลือให้แก่มันชามหนึ่ง ต่อให้มันเป็นบุรุษรูปงาม พัวอัน กลับชาติมาเกิด หลายปีหลังก็กลับกลายเป็นลูกหนังเนื้อแล้ว

ท่านถูกพิษของเรา มิเพียงไม่อาจใช้กำลัง

มิหนำซ้ำ ภายใน 3 ชั่วยามต้องตายแน่นอน ดังนั้น เราในตอนนี้จะไม่ฆ่าท่าน ปล่อยให้ท่านนั่งอยู่ที่นี้

ลิ้มลองรสชาติรอความตายอย่างแช่มช้า

 

เมื่อ “ลี้คิมฮวง” เผชิญกับรสชาติอันเลวร้ายเช่นนี้ในชีวิต ไม่เพียงแต่ต้องติดตามด้วยความระทึกหากแต่มีความจำเป็นต้องมองผ่านท่วงท่าอาการของ “ลี้คิมฮวง”

ที่ด้านนอกมีเสียงม้าร้อง เสียงฝีเท้าไกลออกไปทุกขณะ

ลี้คิมฮวงสงบนั่งในที่เดิม เหม่อมองป้านสุราบนโต๊ะแน่วนิ่ง ป้านนั้นแห้งไปแล้วแต่อีกป้านยังมีสุราอยู่ จึงยกป้านขึ้นดมแล้วชิมไปอึกหนึ่ง

“ไม่มีสี ไม่มีกลิ่นจริงๆ ฝีมือใช้พิษนับว่ายอดเยี่ยมจริงๆ”

ลี้คิมฮวงดื่มอีกอึกใหญ่ พริ้มตาพึมพำ “สุรานี้ยังไม่เลว ดื่มจอกเดียวก็ตาย ดื่มป้านหนึ่งก็ตาย เราไยไม่ดื่มให้มากกว่านี้เพื่อมิต้องย่ำยีสุรารสดีให้เสียเปล่า”

มันถึงกับดื่มสุราผสมยาพิษป้านนั้นจนหมดสิ้น

“ลี้คิมฮวงเอย ลี้คิมฮวง เจ้าสมควรตายเสียนานแล้ว ตายก็จะเป็นไร แต่อย่างน้อยย่อมไม่อาจตายในห้องครัว ตายร่วมกับซากศพเหล่านี้”

ดังนั้น จึงตะเกียกตะกายลุกขึ้นเดินออกจากห้องครัว

 

บนพื้นหิมะมีรอยเท้าม้าสับสนมุ่งตรงไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ลี้คิมฮวงเลือกพื้นหิมะที่สะอาดที่สุดแห่งหนึ่ง ทรุดกายนั่งขัดสมาธิ

ล้วงรูปที่ยังแกะสลักไม่เสร็จออกจากอกเสื้อ

รูปสลักนี้พอมีเค้าบ้างแล้ว ตาทั้งคู่คล้ายดังกำลังจ้องลี้คิมฮวง ปลายคิ้วและหางตาคล้ายดั่งมีความหม่นหมองอยู่เล็กน้อย

ลี้คิมฮวงฝืนยิ้มด้วยความรันทด

“ท่านไยต้องมองข้าพเจ้า ข้าพเจ้าเพียงแต่เป็นคนเสเพลที่ไม่มีทางเยียวยารักษา เป็นปีศาจสุราอันงมงาย ท่านแต่งให้โซ่วฮุ้นก็นับว่าถูกต้องแล้ว ที่ผิดคือข้าพเจ้า”

มันใช้กำลังแกะสลักอย่างรุนแรง หมายจะแกะให้สำเร็จ

แต่ทว่า มือไม่มั่นคงแล้ว กำลังก็ร่อยหรอลงจนหมดสิ้น คมมีดถึงกับไม่อาจกรีดเฉือนลงไปในเนื้อไม้ได้

อากาศมืดครึ้มหนักอึ้ง คล้ายท้องฟ้าลอยต่ำลงมา

หิมะโปรยปรายลงอย่างไม่ขาดสาย ลี้คิมฮวงฟุบและไออยู่บนพื้น ไออย่างต่อเนื่อง ไออย่างไม่หยุดยั้ง แต่ละครั้งที่ไอคล้ายกับเป็นเสียงร้อง

“ซีอีม ซีอิม”

ซีอิมได้ยินหรือไม่ เป็นไปไม่ได้ที่ซีอิมจะได้ยิน แต่กลับมีผู้ได้ยินอยู่คนหนึ่ง

 

เป็นอันว่าลี้คิมฮวงยังไม่รอดปลอดภัย เป็นอันว่าลี้คิมฮวงยังไม่สามารถถอดเสื้อเกราะใยทอง กิมซีกะได้ เป็นอันว่าลี้คิมฮวงต้องพิษอย่างแน่นอน

ถามว่าเขาจะรอดพ้นจากการล้มอยู่บนพื้นหิมะได้อย่างไร

ถามว่าเขาจะรอดพ้นจากพิษอัน “เทพบุตรพิสดารใจดำ” (เอ็กซิมเหมียวนึ้งกุน) ฮวยฮงไปได้อย่างไร