เปิดข้อสรุปคดีแตงโม พลัดตกท้ายเรือ-จมดับ ตร.ย้ำเป็นคดีประมาท ส่งฟ้องรูดแก๊งสปีดโบ๊ต/อาชญากรรม อาชญา ข่าวสด

อาชญากรรม

อาชญา ข่าวสด

 

เปิดข้อสรุปคดีแตงโม

พลัดตกท้ายเรือ-จมดับ

ตร.ย้ำเป็นคดีประมาท

ส่งฟ้องรูดแก๊งสปีดโบ๊ต

 

ถึงบทสรุปเสียที สำหรับคดีการเสียชีวิตของดาราสาว แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์ ที่ตกเรือสปีดโบ๊ต ขณะล่องเรือจิบไวน์ชมวิวในแม่น้ำเจ้าพระยา

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจแถลงสรุปสำนวนคดี เพื่อส่งให้อัยการยื่นฟ้องผู้ต้องหารวม 6 คน แบ่งเป็นคนในแก๊งสปีดโบ๊ตทั้ง 5 คน ซึ่งข้อหารุนแรงที่สุดก็คือประมาททำให้ผู้อื่นเสียชีวิต และอีก 1 คนที่ให้คำปรึกษาในฐานะกุนซือ ทำให้ทั้ง 5 คนประวิงเวลาในการมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ

โดยตำรวจสรุปคดีว่าเป็นการเสียชีวิตโดยการกระทำประมาทจากคนบนเรือ ตกจากท้ายเรือ และบาดแผลที่พบตรงขาเกิดขึ้นก่อนเสียชีวิต และตรงกับรอยใบพัดเรือ

ไม่ยืนยันว่าเป็นการไปปัสสาวะท้ายเรือ แต่ตกจากท้ายเรือแน่นอน และไม่ใช่คดีฆาตกรรม เพราะไม่มีฆาตกร พร้อมชี้แจงคลิปต่างๆ ที่เป็นที่สงสัยในโลกออนไลน์

หลังจากสรุปเสร็จ ก็ยื่นไม้ต่อให้อัยการเป็นผู้พิจารณาสั่งฟ้อง

ยืนยันทำคดีรอบคอบอย่างที่สุด ส่วนจะตอบข้อสงสัยสังคมได้หรือไม่นั้น คงต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์

ตร.แถลงสรุป

ส่งฟ้องรูด 6 ผู้ต้องหาคดีแตงโม

หลังจากเป็นข่าวใหญ่ที่คนติดตามกันมายาวนานร่วม 2 เดือน ก็ถึงบทสรุป โดยเมื่อเวลา 12.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภาค 1 พร้อมคณะนายตำรวจจาก บช.ภาค 1 และ บก.ภ.จว.นนทบุรี ตั้งโต๊ะแถลงสรุปสำนวนการเสียชีวิตของแตงโม-นิดา

โดยสรุปว่า ตลอดการสืบสวนสอบสวนคดีนี้ มีพยานบุคคลถูกสอบสวนไปทั้งสิ้น 124 ปาก แยกเป็นพยานที่ผู้ต้องหาโทรศัพท์ติดต่อปรึกษาหลังเกิดเหตุ 26 ปาก พยานผู้เชี่ยวชาญ ทำหน้าที่ในการตรวจพิสูจน์หลักฐาน ตรวจร่างกายผู้ต้องหา เช่น แพทย์นิติเวช เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน 16 ปาก, พยานบุคคลที่เกี่ยวข้อง 62 ปาก และพยานเจ้าหน้าที่ 20 ปาก

วัตถุพยานสำคัญทางคดี 335 รายการ โดยเฉพาะคลิปวิดีโอที่ปรากฏตามสื่อสังคมออนไลน์ 200 คลิป โดยมีมีคลิปหลักฐานยืนยันพฤติการณ์แตงโมตกเรือรวมอยู่ด้วย และยังมีพยานวัตถุอีก 88 รายการ รวบรวมพยานหลักฐานส่งให้อัยการได้รวมสำนวน 2,249 ฉบับ

สรุปดำเนินคดีกับผู้ต้องหา 6 คน ประกอบด้วย นายตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ หรือปอ ถูกตำรวจแจ้งดำเนินคดี 6 ข้อหา ได้แก่ กระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, เป็นผู้ควบคุมเรือโดยไม่มีประกาศนียบัตรรับรองถูกต้องตามกฎหมาย, ใช้เรือที่มีใบอนุญาตสิ้นอายุ, ทิ้งของปฏิกูลลงแม่น้ำ, ไม่ติดชื่อเรือทั้งอักษรไทย ฝรั่ง ที่หัวเรือ และแจ้งความเท็จ

นายไพบูลย์ ตรีกาญจนานันท์ หรือโรเบิร์ต ถูกตำรวจแจ้งดำเนินคดี 4 ข้อหา ได้แก่ กระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, เป็นผู้ควบคุมเรือโดยไม่มีประกาศนียบัตรรับรองถูกต้องตามกฎหมาย, ใช้เรือที่มีใบอนุญาตสิ้นอายุ, ทิ้งของปฏิกูลลงแม่น้ำ

นายวิศาพัช มโนมัยรัตน์ หรือแซน ถูกตำรวจแจ้งดำเนินคดี 1 ข้อหา ได้แก่ ประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

นายนิทัศน์ กีรติสุทธิสาทร หรือจ๊อบ ถูกตำรวจแจ้งดำเนินคดี 2 ข้อหา ได้แก่ ทำลายหลักฐาน ช่วยเหลือผู้อื่นมิให้ต้องรับโทษทางอาญา ทิ้งสิ่งปฏิกูลลงในแม่น้ำ

น.ส.อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ หรือกระติก ถูกตำรวจแจ้งดำเนินคดี 2 ข้อหา ได้แก่ แจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่พนักงานสอบสวน ทำลายหลักฐานช่วยเหลือผู้อื่นมิให้ต้องรับโทษทางอาญา

นายภีม ธรรมธีรศรี หรือเอ็ม ตำรวจแจ้งดำเนินคดี 2 ข้อหา ได้แก่ ช่วยเหลือผู้อื่นมิให้ต้องได้รับโทษทางอาญา และเป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นแจ้งความเท็จ

ส่งอัยการ

เป็นผู้ต้องหาทั้ง 6 ในคดีนี้

ตกจากท้ายเรือ-จมน้ำดับ

ขณะที่ไทม์ไลน์ของเหตุการณ์ ตร.ภูธรภาค 1 นำเสนอเป็นวีดิทัศน์ ระบุว่าพบบทสนทนาการแช็ตไลน์นัดหมายชวนกันไปเที่ยวบนเรือตั้งแต่วันที่ 16 กุมภาพันธ์ เมื่อถึงเวลานัดหมายในช่วงเย็นของวันที่ 24 กุมภาพันธ์ พบหลักฐานทุกคนทยอยเดินทางมาที่ท่าเรือ NBC boat club จากนั้นทั้ง 5 คน ยกเว้นแซน ขับเรือไปเติมน้ำมัน ก่อนกลับมารับแซนอีกครั้งที่ท่าเรือ NBC

ก่อนล่องเรือไปยัง จ.ปทุมธานี รับประทานอาหาร และล่องเรือกลับมายังบริเวณสะพานพระราม 8 ซึ่งพบหลักฐานการถ่ายรูปเป็นระยะ และไม่พบว่ามีการเปลี่ยนแปลงเวลาหรือข้อมูลในภาพ เนื่องจากเวลาในโทรศัพท์ตรงกับจีพีเอสของเรือ

และขณะที่ทั้งหมดกำลังเดินทางกลับซึ่งเชื่อว่าทุกคนอยู่ในสภาพมึนเมา พบการเรียกแอพพลิเคชั่นยูดริงก์ไอไดร์ฟ มารับที่ท่าเรือ และระหว่างที่ผ่านแม่น้ำเจ้าพระยา ช่วงอาคารรัฐสภา พบว่าบนเรือยังมีคนอยู่ทั้งหมด 6 คน

โดยระหว่างที่วิ่งผ่านท่าเรือพิบูลสงคราม 1 ช่วงเวลา 22.34 น. ซึ่งดูจากภาพวงจรปิดความละเอียดสูง พบว่าบนว่าด้านท้ายเรือเหมือนมีวัตถุอยู่ ซึ่งบังแสงไฟท้ายเรือ จนกระทั่งเวลา 22.34.10 น. วัตถุดังกล่าวหายไป และพบเห็นไฟท้ายเรือเต็มดวงอีกครั้ง

ซึ่งสอดคล้องกับจีพีเอสของเรือ ที่มีการหยุดแล้ววกกลับก่อนวนที่บริเวณดังกล่าวหลายรอบมาก ขณะที่พบโทรศัพท์ของคนบนเรือ พยายามติดต่อบุคคลอื่น ทั้งจากไลน์ และโทรศัพท์ พบว่าหลังจากเหตุตกเรือ 15 นาที มีการติดต่อบุคคลถึง 66 คน

จากนั้นสปีดโบ๊ตไปเทียบที่ท่าเรือพิบูลสงคราม 1 ในเวลา 23.48 น. จากนั้นกระติก และโรเบิร์ตจึงขึ้นเรือไปขอเข้าห้องน้ำ และนั่งแกร็บกลับไปยังอู่ NBC ส่วนปอ จ๊อบ และแซน นั่งเรือกลับไปที่อู่เรือ จากนั้นวงจรปิดจับภาพเพื่อนของแตงโมมาที่อู่เรือ ก่อนทยอยแยกย้ายกัน โดยแซน ปอ โรเบิร์ต จ๊อบ ไปรวมตัวกันที่ปั๊มน้ำมันย่านพระราม 5 เวลา 01.53 น. เพื่อพูดคุยกับบุคคลหนึ่ง ส่วนกระติกกลับไปบ้านแตงโม เพื่อเอารถตัวเองกลับบ้าน

ต่อมาเวลา 02.26 น. บุคคลดังกล่าวให้คำแนะนำทางไลน์ ให้ผู้ต้องหาทั้งหมดเลื่อนนัดพนักงานสอบสวนไปก่อน เนื่องจากทั้งหมดมีแอลกอฮอล์ในร่างกาย จากนั้นวันรุ่งขึ้นเวลา 11.00-15.00 น. ทั้งหมดนัดพบกันที่ร้านอาหารย่านทองหล่อ และเวลาประมาณ 17.00 น.ไปพบกับทนายชื่อดัง ที่ร้านอาหารถนนราชพฤกษ์ ก่อนที่จะออกจากร้านเวลา 19.17 น. และพบพนักงานสอบสวนที่ สภ.นนทบุรี เวลา 20.00 น.

ทั้งนี้ การชันสูตรศพของแตงโม พบว่ากระดูกทุกส่วนของร่างกายเป็นปกติไม่มีแตกหัก พบแอลกอฮอล์ที่ตรวจจากน้ำในลูกตามี 93 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ และพบโคลนในหลอดลม บางส่วนมาจากการเน่าของศพ

บาดแผลที่พบตามร่างกายพบรวม 26 แผล แบ่งเป็น 10 กลุ่ม แผลที่ใหญ่สุดอยู่ที่โคนขาด้านในฝั่งขวา กว้างขนาด 7 เซนติเมตร ยาว 26 เซนติเมตร ลึก 1.5 เซนติเมตร โดยแผลนี้ตำรวจและผู้เชี่ยวชาญนำใบพัดเรือตรวจสอบพบว่าบาดแผลกับใบพัดเข้ากันได้กับรอยเว้าโค้ง

นอกจากนี้ยังได้พิสูจน์จากรอยแผลขนาดเล็กใกล้เคียงพบว่าเกิดจากใบพัดเรือขณะทำงาน ซึ่งบาดแผลทั้งหมดพบเกล็ดเลือดที่ทำให้ระบุได้ว่าเกิดก่อนการเสียชีวิตทั้งหมด และแพทย์ได้สรุปการเสียชีวิตว่าเกิดจากการขาดอากาศหายใจจากการจมน้ำ

กระติก-แซนหลังพบอัยการ

ยันไม่ใช่ฆาตกรรม-ไม่มีฆาตกร

ขณะที่ พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม ผบก.สส.ภูธรภาค 1 เผยว่า ข้อสงสัยเรื่องการทำร้ายร่างกายหรือฆาตกรรมนั้น ได้ตรวจสอบความสัมพันธ์ของกลุ่มคนบนเรือ มูลเหตุจูงใจต่างๆ รวมทั้งในการตรวจพิสูจน์ของ พฐ. เกี่ยวกับคราบเลือดหรืออะไรต่างๆ ไม่พบร่องรอยคราบเลือด รวมทั้งเรื่องสาเหตุอื่นๆ ที่โกรธเคืองกันมา เพราะว่าอยู่ดีๆ จะเอาคนไปฆ่าสักคน ในทางสืบสวนก็ต้องมีมูลเหตุจูงใจในการทำร้ายร่างกาย

ส่วนคลิปวิดีโอที่อ้างว่าเป็นภาพการทำร้ายร่างกายใช้สิ่งของฟาดไปที่ศีรษะนั้น พบว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากที่แตงโมตกเรือไปแล้ว และเมื่อเปิดคลิปต้นฉบับ พบเป็นการโยนขวดไวน์ทิ้งลงน้ำ เนื่องจากกลัวความผิดเพราะอยู่ในสภาพมึนเมาด้วยกันทั้งหมด

ขณะที่ พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ระบุว่าถ้าคิดว่าเป็นคดีฆาตกรรม ก็ต้องมีฆาตกร ก่อนที่แตงโมจะตกน้ำไม่กี่อึดใจ ฆาตกรจะลงมือทันได้อย่างไร พร้อมยืนยันไม่มีการต่อสู้บนเรือ แต่เป็นการตกเรือโดนไม่ตั้งตัวและเสื้อชูชีพไม่ได้ใส่ รวมถึงโดนใบพัดเรือ ท่านเจ็บไหม ร้องไหม จึงเป็นเหตุให้สำลักน้ำและน้ำเต็มปอด น้ำเต็มกระเพาะแล้วจมลงไปทันที

บาดแผลขนาดใหญ่ที่เกิดขึ้น เป็นการถูกใบพัดดูดลงไป เป็นการบังคับขาให้งอเข้า-ออก ไม่สามารถที่จะช่วยเหลือตัวเองไหว จึงเป็นเหตุให้จมน้ำ

ส่วนเรื่องปัสสาวะบนเรือหรือไม่ ไม่สามารถพิสูจน์ได้เพราะคราบยูเรียละลายในน้ำ อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าคดีนี้ถือเป็นคดีประมาททำให้ผู้อื่นเสียชีวิต ไม่ใช่อุบัติเหตุที่ตกลงไปเอง

และหลังจากแถลงสรุปสำนวน เจ้าหน้าที่ตำรวจก็นำผู้ต้องหาทั้ง 6 คน มาส่งให้พนักงานอัยการนนทบุรีสั่งฟ้อง โดยมีนายธีระนนท์ ไหวดี อธิบดีอัยการสำนักงานอัยการภาค 1, นายอิทธิพร แก้วทิพย์ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา ในฐานะโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด, นายประยุทธ เพชรคุณ รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ ในฐานะรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด และ น.ส.สุภาภรณ์ นิปวณิชย์ อัยการจังหวัดนนทบุรี มาเป็นตัวแทนในการรับสำนวน

โดยจะพิจารณาสั่งฟ้องหรือไม่ภายใน 30 วัน โดยช่วงนี้อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว โดยหลักทรัพย์เดิมในชั้นพนักงานสอบสวนรายละ 200,000 บาท

ส่วนเงื่อนไขการประกันตัวก็ใช้เงื่อนไขเดิมในชั้นพนักงานสอบสวน และจะมีนัดฟังคำสั่งพนักงานอัยการในวันที่ 27 พฤษภาคมนี้ เวลา 09.00 น. ที่สำนักงานอัยการ จ.นนทบุรี

เป็นอีกก้าวสำคัญของคดี ที่คลี่คลายคดีแตงโม

แต่ยังมีการพิจารณาในศาลอีกที่ต้องจับตาว่าจะมีบทสรุปอย่างไร