ฉีดวัคซีน Booster เข็มที่สามในอเมริกา ศาลสูงสหรัฐห้ามบังคับฉีดวัคซีน อะไรจะเกิดขึ้น/รายงานพิเศษ

รายงานพิเศษ

มงคล วัชรางค์กุล

 

ฉีดวัคซีน Booster เข็มที่สามในอเมริกา

ศาลสูงสหรัฐห้ามบังคับฉีดวัคซีน

อะไรจะเกิดขึ้น

 

ผมฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มแรกเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2021 แล้วฉีดเข็มที่สอง วันที่ 8 มีนาคม 2021

ทั้งสองเข็มเป็นวัคซีนของ Moderna ต้องดิ้นรนเป็นอย่างมากกว่าจะได้ฉีดวัคซีน เพราะช่วงนั้นเป็นตอนแรกที่วัคซีนเพิ่งออกมา ยังมีจำนวนไม่มาก ต้องจัดสรรให้คนที่มีความจำเป็นต้องฉีดเร่งด่วนก่อน

ผมได้วัคซีนจากโควต้าคนไข้มะเร็งของโรงพยาบาล Penn State Health St. Joseph เมืองเรดดิ้ง รัฐเพนซิลเวเนีย

ถือว่าเป็นคนแก่รุ่นแรกๆ ที่ได้รับวัคซีนในอเมริกาต่อจากบุคลากรทางการแพทย์

พอช่วงหลังจากกลางปี ประธานาธิบดีไบเดนประกาศให้คนอเมริกันที่ฉีดวัคซีนเข็มที่สองผ่านมาแล้ว 8 เดือน ให้มาฉีดวัคซีน Booster เข็มที่สาม เช่น ฉีดวัคซีนเข็มที่สองต้นเดือนกุมภาพันธ์ ก็ให้มาฉีด Booster เข็มที่สามต้นเดือนตุลาคม

ต่อมาไบเดนประกาศร่นเวลาการฉีดวัคซีน Booster เข็มที่สามจากระยะห่างจากเข็มที่สอง 8 เดือนลดลงมาเหลือ 6 เดือน แปลว่าให้ฉีดเข็มกระตุ้นเร็วขึ้น

ส่วนคนที่ฉีดวัคซีนของ Johnson & Johnson ที่เป็นวัคซีนเข็มเดียว ก็ให้มาฉีด Pfizer เป็นเข็มกระตุ้นได้หลังจากฉีดครบ 3 เดือนแล้ว

ในช่วงเวลาตอนถึงปลายเดือนตุลาคม 2021 วัคซีนเข็มกระตุ้นมีออกมาเพียงของ Pfizer ยี่ห้อเดียว วัคซีนของ Moderna ยังไม่มีออกมา

ผมไปถามเภสัชกรของร้านยา Rite Aid ว่าผมฉีด Moderna มาแล้ว 2 เข็มจะฉีดของ Pfizer เป็นเข็มกระตุ้นได้ไหม (ในอเมริกา ตามร้านขายยาใช้เภสัชกรเป็นคนฉีดยา)

เธอตอบว่า ไม่ได้ เมื่อฉีด Moderna มาแล้ว 2 เข็มก็ต้องรอเข็มกระตุ้นที่เป็น Moderna อย่างเดียว ตัวเธอที่ฉีด Moderna มาแล้ว ก็ต้องรอเข็มกระตุ้นที่เป็น Moderna เหมือนกัน

ช่วงนั้น CDC ไม่มีนโยบายให้ฉีดวัคซีนไขว้

 

จนถึงกลางเดือนธันวาคม ไวรัสโอมิครอน (Omicron) เริ่มระบาดหนัก CDC จึงอนุมัติให้คนอเมริกันฉีดวัคซีนไขว้ได้ เรียกว่าที่หน่วยนั้นมีวัคซีนอะไรมาก็ขอให้ฉีด Booster เข้าไปเลย ไม่ต้องไปดูว่าเข็มที่สองเคยฉีดอะไรไว้

ขอให้ฉีดเข็ม Booster กระตุ้นได้มากที่สุดก็แล้วกัน

ตอนสัปดาห์สุดท้ายของเดือนตุลาคมมีข่าวว่า CDC ให้การรับรองวัคซีนเข็มที่สามของ Moderna แล้ว ผมไปถามที่ Rite Aid ถนน Penn St. 2 ครั้งก็ยังไม่มีวัคซีนเข้ามา

นึกถึงห้องคีโม โรงพยาบาล Penn State Health St. Joseph ที่ผมเคยได้รับวัคซีนมา 2 เข็ม ลองโทร.ไปติดต่อ ฝากข้อความไว้ก็ไม่มีการโทร.กลับมา วันอังคารที่ 7 พฤศจิกายน จึงเข้าไปติดต่อด้วยตัวเอง

เจ้าหน้าที่บอกว่า พรุ่งนี้ วันพุธ บ่ายสองโมงครึ่งเข้ามาฉีด Moderna เข็มกระตุ้นได้เลย ที่ไม่ได้โทร.กลับนั้นเป็นเพราะตอนนี้งานยุ่งมาก ไม่ได้โทร.กลับคนไข้คนไหนเลย

วันรุ่งขึ้น ผมไปที่ห้องคีโมตามนัด ลงทะเบียนตามระบบ คนที่มีประกัน ประกันจะเป็นผู้จ่ายค่าวัคซีน

ทุกบ่ายวันพุธ ห้องคีโมจะเป็นห้องฉีดวัคซีนเข็ม Booster และจะเป็น Moderna ล้วนๆ เพราะที่ผ่านมาห้องนี้ฉีดแต่ Moderna มาแต่แรก ทุกคนที่มาฉีดล้วนเป็นซีเนียร์ที่เคยทั้งให้คีโมและฉีดวัคซีน 2 เข็มแรกที่ห้องนี้

พยาบาลที่เปิดประตูออกมารับ เอ่ยทัก “Hi, Mo”

ผมผ่านการให้คีโม 12 ครั้ง ในเวลา 6 เดือนที่ห้องนี้ในช่วงครึ่งหลังของปี 2018 พยาบาลทุกคนของห้องนี้จึงคุ้นเคยกันดี

จำผมได้ทุกคน และเรียกชื่อผมว่า Mo (แทนที่จะเรียกว่า “มงคล” ซึ่งออกเสียงยากสำหรับพวกเขา)

พยาบาลที่ฉีดให้ผม มือนิ่มมาก ไม่รู้สึกเจ็บเลย ผมถามว่า วัคซีนเข็มที่ฉีดเป็นโดสสำหรับซีเนียร์ใช่หรือไม่ (ที่ถามเพราะเห็นว่าทุกคนที่เข้ามาฉีดล้วนเป็นซีเนียร์ทุกคน)

เธอตอบว่า ไม่ใช่ นี่เป็น Moderna แบบที่ฉีดให้คนทั่วไป

ฉีดเสร็จก็นั่งรอดูอาการ 15 นาทีบนเก้าอี้ให้คีโมที่กว้างนั่งสบายเหมือนเก้าอี้ชั้นธุรกิจบนเครื่องบิน ผมขอ Ice Tea เย็นชื่นใจมาจิบระงับความตื่นเต้น

ห้องนี้ให้บริการคนไข้ ทั้งชา กาแฟ Coke Pepsi Sprite โยเกิร์ต ไอศกรีม แซนด์วิช

กลับบ้าน ก่อนเข้านอนตอนเที่ยงคืน เริ่มปวดแขนตรงที่ฉีดวัคซีน กินยาแก้ปวด Tylenol 2 เม็ด แล้วหลับสบาย

วันรุ่งขึ้น อาการปวดระบมตรงต้นแขนที่ฉีดวัคซีนยังคงอยู่ แต่ไม่มีไข้ ก่อนนอนคืนนั้นจึงยังต้องกิน Tylenol อีก 2 เม็ด

ตื่นนอนวันต่อมา อาการปวดระบมหายไปแล้ว ไม่ต้องกินยาแก้ปวด นอนหลับสบาย

คนข้างกายที่ฉีดไฟเซอร์เข็มที่สามก่อนหน้านั้นหนึ่งเดือน เธอมีอาการจักแร้บวม ต้องกิน Tylenol อยู่ 3 วัน ทั้งที่ก่อนหน้านั้นฉีดเข็มที่หนึ่งและเข็มที่สองไม่มีอาการข้างเคียงใดเลย

อาการข้างเคียงที่เกิดขึ้นหลังฉีดวัคซีนโควิดจึงเป็นเรื่องของแต่ละบุคคล ไม่ควรจะต้องนำผลของคนอื่นมาคิดว่าจะเกิดขึ้นกับตัวเราด้วย แล้วทำให้ไม่กล้าฉีดวัคซีน

 

เมื่อการติดเชื้อโควิด-19 มาถึงยุคโอมิครอน ปลายเดือนธันวาคม ประธานาธิบดีไบเดนกล่าวปราศรัยเรียกร้องให้คนอเมริกันออกมาฉีดวัคซีน Booster เข็มที่สามให้มากที่สุด เพื่อสู้กับการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วของโอมิครอน

แต่ถึงจะระดมฉีดเพียงใดก็ยังไม่ทั่วถึง หลายแห่งมีวัคซีนไม่เพียงพอกับจำนวนที่จองเข้ามา ต้องเลื่อนเป็นวันต่อไป ส่วนคนที่ไม่ฉีดก็ยังไม่ยอมฉีดต่อไป มีการเดินขบวนประท้วงไม่ยอมฉีดวัคซีนในหลายเมือง

ในขณะที่การแพร่ระบาดของโอมิครอนเป็นไปอย่างรวดเร็วทั่วประเทศ

น.ส.พ. Reading Eagle ฉบับ 11 มกราคม 2022 รายงานว่าใน Berks County เขตที่เมืองเรดดิ้งสังกัดมีเคสติดเชื้อโควิดเกิน 1,000 เคส ติดต่อกันเป็นวันที่หก ในช่วงหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมาติดเชื้อมากกว่า 7,800 ราย โดยเฉพาะวันจันทร์ 10 มกราคม ติดเชื้อ 1,253 ราย ถัวเฉลี่ยอาทิตย์นี้ติดเชื้อวันละ 1,023 ราย

ทั้งรัฐเพนซิลเวเนีย วันจันทร์ที่ผ่านมามีคนติดเชื้อ 21,425 ราย ทั้งรัฐมีคนติดเชื้อแล้ว 2.3 ล้านราย

เมื่อวันจันทร์ ในเขต Berks มีคนติดเชื้อตาย 2 ราย เขตนี้มีคนตายสะสม 1,368 ราย ทั้งรัฐเพนซิลเวเนียติดเชื้อตายไป 37.686 ราย

คนติดโควิดอยู่ในโรงพยาบาลใน Berks เพิ่มสูงขึ้น 4 เท่าจากวันก่อน วันนี้มี 212 ราย, 20 รายอยู่ใน ICU, 16 รายติดเครื่องช่วยหายใจ

ขณะที่เขียนรายงานนี้ ICU 50 เตียงในโรงพยาบาล Reading เต็มหมด 30 เตียงในโรงพยาบาล St. Joseph ก็เต็ม

เมื่อมีรถพยาบาลเปิดหวอนำคนป่วยมาส่งโรงพยาบาล ทางโรงพยาบาลจะปฏิเสธไว้ก่อนว่าเตียงเต็ม ไม่รับคนไข้ใหม่

มีเรื่องเล่าว่า มีผู้หญิงเจ็บท้องใกล้คลอด เรียกรถพยาบาลมารับไปโรงพยาบาลที่ฝากท้องไว้ พอไปถึงทางโรงพยาบาลเห็นรถหวอก็ปฏิเสธไว้ก่อน รถพยาบาลพาคนไข้จะไปคลอดอีก 7 โรงพยาบาล ไม่มีที่ไหนยอมรับแม้แต่แห่งเดียว ท้ายที่สุด ผู้หญิงคนนั้นย้อนกลับมาโรงพยาบาลที่ฝากท้องไว้ด้วยตัวเอง ไม่ได้มากับรถหวอ จึงได้เข้าโรงพยาบาล แต่ตอนที่จะไปห้องคลอด เธอคลอดลูกที่พื้นระหว่างทางเดิน

ยังโชคดีที่เด็กที่คลอดออกมาสมบูรณ์ดี มิฉะนั้น โรงพยาบาลคงถูกฟ้องป่นปี้

ขอยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้นที่โรงพยาบาลในเมืองเรดดิ้ง

วันอังคาร 11 มกราคม 2022 Fox News รายงานว่า วันจันทร์เมื่อวาน อเมริกาทำสถิติติดเชื้อสูงสุด 1.35 ล้านราย เฉลี่ยทั้งอาทิตย์ถึง 16 มกราคม ติดเชื้อวันละ 700,000 ถึง 800,000 คน โรงพยาบาลแทบทุกแห่งเตียงเต็ม ไม่ยอมรับคนไข้เพิ่มขึ้น

จำนวนคนตายก็เพิ่มขึ้น

แต่ CDC ก็ออกประกาศใหม่ว่า คนที่ติดเชื้อ เมื่อผ่านไป 5 วันแล้วให้กลับเข้าทำงานโดยไม่ต้องมีการตรวจเทสต์อีก เพราะคนงานในอเมริกากำลังขาดแคลน

 

The Wall Street Journal วันศุกร์ 14 มกราคม 2022 และข่าวทีวีทุกช่องบ่ายวันที่ 13 มกราคม 2022 รายงานว่า ศาลสูงสหรัฐบล็อก (Blocks) ยกเลิกกฎวัคซีนของไบเดน, Reading Eagle บอกว่าศาลสูง quashed ล้มเลิก vaccine Mandate ที่บังคับให้คนงานทุกคนใน Big Business ต้องฉีดวัคซีน

ผู้พิพากษาศาลสูง 9 คน มีความเห็นตรงกันว่า Covid-19 แพร่ระบาดในที่ทำงาน (work places), บ้าน, โรงเรียน และในที่ที่มีคนมารวมกลุ่มกันอยู่แล้ว การประกาศกฎเรื่องการบังคับฉีดวัคซีนจึงเป็นอำนาจของ OSHA (the Occupational Safety and Health Administration) สำนักงานบริหารความปลอดภัยและสุขภาพอนามัย เท่านั้นที่จะมีอำนาจออกคำสั่งได้

ไม่ใช่อำนาจของประธานาธิบดีหรือทำเนียบขาว

คำพิพากษานี้มีผลให้ธุรกิจที่มีคนงานเกิน 100 คน ครอบคลุมคนงาน 84 ล้านคน จะฉีดวัคซีนหรือไม่ฉีดก็ได้

คะแนนนิยมของไบเดนลดลงเหลือแค่ 33%

เดโมแครตเริ่มโปรโมตฮิลลารี คลินตัน แล้ว