วันนี้ ‘เรตอาร์’ (2) | จ๋าจ๊ะ วรรณคดี

ญาดา อารัมภีร

บุคลิกภาพ วัยและประสบการณ์เป็นตัวกำหนดลีลาบทอัศจรรย์ หรือบทร่วมรักของตัวละคร

นางแก้วกิริยา ธิดาเจ้าเมืองสุโขทัยในเสภาเรื่อง “ขุนช้างขุนแผน” คือสาวที่มีหน้าตา ‘คมขำงามแฉล้มแจ่มใส คิ้วคางบางงอนอ่อนละไม’ กิริยามารยาทเป็นกุลสตรี ลีลารักของนางกับขุนแผนจึงงดงามละเมียดละไมสุภาพเรียบร้อยตามบุคลิกของนาง

เริ่มด้วยภาพสายลมขจรกลิ่นดอกไม้หอมฟุ้งทั่วทั้งห้อง ขณะที่พระอาทิตย์ พระจันทร์เกี่ยวกระหวัดประสานกัน เป็นช่วงเวลาดวงดาวและดวงเดือนสิ้นแสง ท่ามกลางความมืดมิด แสงระยิบระยับของฝูงหิ่งห้อยก็แพรวพรายทั่วต้นไม้ จากนั้นแมลงทับก็เที่ยวท่องจนพงไพรไหวสะท้าน

“พระพายชายพัดบุปผาชาติ เกสรสาดหอมกลบตรลบห้อง

ริ้วริ้วปลิวชายสไบกรอง พระจันทร์ผันผยองอยู่ยับยับ

พระอาทิตย์ชิงดวงพระจันทร์เด่น ดาวกระเด็นใกล้เดือนดาราดับ

หิ่งห้อยพร้อยไม้ไหวระยับ แมลงทับท่องเที่ยวสะเทือนดง”

ความเปลี่ยนแปลงของลีลาร่วมรักเห็นได้ชัดเจนจากพลายแก้วกับนางพิมพิลาไลย ซึ่งต่อมาคือขุนแผนกับนางวันทอง เมื่อครั้งที่พลายแก้วอายุเพียง 15 ปี บวชเป็นเณร ได้พบกับนางพิมพิลาไลย เพื่อนเล่นวัยเยาว์ เกิดต้องตาต้องใจซึ่งกันและกัน รักที่รุ่มร้อนเร่งเร้าให้เณรแก้วสึกเฉพาะกิจไปหานางพิมที่ไร่ฝ้ายตอนกลางวันและนัดพบกันต่อตอนกลางคืน ราวๆ สองยามกว่า เณรแก้วก็

“มาถึงบ้านนางพิมหาช้าไม่ เสกข้าวสารหว่านไปให้หลับสนิท

สะเดาะกลอนถอนลั่นทุกชั้นชิด ที่บานปิดก็เปิดออกทันใด

จึงกลิ้งครกเหยียบยืนขึ้นบนเรือน ไม่กระเทือนย่องมาหาช้าไม่

หมายสำคัญมั่นคงตรงไป เข้าในห้องพิมด้วยฉับพลัน”

ไปถึงบ้านสาวดึกขนาดนี้ สาวหรือจะรอไหว เณรแก้วจึงต้อง

“เปิดมุ้งเห็นหน้าเจ้าพิมนอน

สนิทหลับรับขวัญเจ้าทั้งหลับ ดังยิ้มรับให้พี่รีบมาร่วมหมอน

โฉมแชล่มแก้มยิ้มพริ้มเพรางอน งามเนตรเมื่อเจ้าค้อนพี่ยามชม

คอคางบางแบบกะทัดรัด เล็บยาวขาวขัดดูงามสม (อักขรวิธีตามต้นฉบับ)

ไม่พร่องบกอกนางอล่างนม ค่อยผงมสงวนต้องประคองทรวง

เลื่อนลดแก้สะกดให้พิมตื่น เป่าต้องน้องก็ฟื้นสงบง่วง

เจ้าอย่าแหนงแคลงจิตว่าพี่ลวง ดวงใจแม่จงตื่นขึ้นเถิดรา”

 

ปลุกนางแล้ว มือไม้เณรแก้วก็ไม่อยู่นิ่งจนฝ่ายหญิงต่อว่า

“มาจับมือถือแขนเอาง่ายง่าย ไม่มีอายทำเล่นเช่นเมียผัว

ที่นี่เรือนมิใช่ไร่ข้าไม่กลัว ถึงดีชั่วเพื่อนบ้านพยานมี

ยังเซ้าซี้มิไปให้พ้นห้อง มาจู้จี้นี้ก็ร้องให้อึงมี่

ไม่วางแขนแค้นใจใช่พอดี จะทำทีเหมือนที่ไร่ไม่ได้แล้ว”

 

เณรแก้วเห็นท่าทีนางพิมก็รู้ว่าปัดป้องปฏิเสธเป็นพิธีด้วยมารยาหญิง ใจจริงนั้นตรงข้าม จึงรุกเร้าไม่ยอมถอย

“เข้าชิดสะกิดพิมยิ้มละไม อุ้มแอบอกไว้ด้วยปรีดา

เอนอิงพิงประทับลงกับหมอน สะอื้นอ้อนอ่อนแอบลงแนบหน้า

กระเดือดเสือกดิ้นอยู่ไปมา ………………………………………..”

สาวน้อยพิมพิลาไลยตกเป็นของเณรแก้วภายในห้องนอนของนางเอง ลีลารักของหนุ่มสาวคู่นี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรง ดังที่กวีถ่ายทอดผ่านภาพของท้องฟ้ากับก้อนเมฆมหึมาดำทะมึนฉับพลัน พร้อมกับเสียงพายุอึงอล และฝนห่าแรกที่ถั่งโถมลงมาทั่วทั้งสามโลก

“เกิดมหาเมฆมืดโพยมบน

ฮือฮืออื้อเสียงพยุพัด กลิ้งกลัดเกลื่อนกลุ้มชอุ่มฝน

เป็นห่าแรกแตกพยับโพยมบน ไม่ทานทนทั่วกระทั่งทั้งแดนไตร”

เมื่อวันเวลาผ่านไป วัยและประสบการณ์ชีวิตที่เพิ่มพูนขึ้นตามกาลเวลาทำให้ลีลารักของทั้งคู่ต่างไปจากครั้งยังหนุ่มสาว ฝ่ายหญิงและฝ่ายชายกลายเป็นพ่อแม่วัยกลางคนที่มีพลายงามลูกชายโตเป็นหนุ่ม รับราชการเป็นถึงจมื่นไวยวรนารถ ตอนนี้ฝ่ายหญิงอยู่ในฐานะเมียขุนช้าง เมื่อขุนแผนรู้ว่าพระไวยลูกชายพรากนางวันทองจากขุนช้างพาไปไว้ที่บ้าน ก็ถือเป็นโอกาสรื้อฟื้นสัมพันธ์รัก

“ออกจากห้องย่องเดินดำเนินมา ถึงเรือนลูกยาหาช้าไม่

เข้าห้องวันทองในทันใด เห็นนางหลับใหลนิ่งนิทรา

ลดตัวลงนั่งข้างวันทอง เตือนต้องด้วยความเสน่หา

สั่นปลุกลุกขึ้นเถิดน้องอา พี่มาหาแล้วอย่านอนเลย”

นางวันทองไม่ยอมคล้อยตามคำหวานของขุนแผนที่เพียรงอนง้อขอโทษ นางเอ่ยถึงลูกชายว่าเป็นต้นเหตุให้นางตกที่นั่งลำบาก ทั้งยังเตือนสติขุนแผนให้ตระหนักถึงความถูกต้องเหมาะควร

“เจ้าพลายงามตามรับเอากลับมา ทีนี้หน้าจะดำเป็นน้ำหมึก

กำเริบใจด้วยเจ้าไวยกำลังฮึก จะพาแม่ตกลึกให้จำตาย

มิใช่หนุ่มดอกอย่ากลุ้มกำเริบรัก เอาความผิดคิดหักให้เหือดหาย

ถ้ารักน้องป้องปิดให้มิดอาย ……………………………………….”

แม้ขุนแผนจะพยายามเล้าโลมนางวันทองสุดความสามารถ นางก็ไม่โอนอ่อนผ่อนตามแต่อย่างใด

“ว่าพลางคลึงเคล้าเข้าแนบข้าง จูบพลางทางปลอบประโลมขวัญ

ก่ายกอดสอดเกี่ยวพัลวัน วันทองกั้นกีดไว้ไม่ตามใจ

พลิกผลักชักชวนให้ชื่นชิด เบือนบิดแบ่งรักหาร่วมไม่”

เมื่อนางวันทองไม่ยอมร่วมมือด้วย ภาพของการตบมือข้างเดียวจึงเป็นดังนี้

“พระพายพัดมาลัยตรลบลอย

แมลงภู่เฝ้าเคล้าไม้ในไพรชัฏ ไม่เบิกบานก้านกลัดเกสรสร้อย

บันดาลคงคาทิพย์กะปริบกะปรอย พรมพร้อยท้องฟ้านภาลัย

อสนีครื้นครั่นสนั่นก้อง น้ำฟ้าหาต้องดอกไม้ไม่

กระเซ็นรอบขอบสระสมุทไท หวิวใจแล้วก็หลับกับเตียงนอน”

(อักขรวิธีตามต้นฉบับ)

ยอดนักรักเจอบทอัศจรรย์ที่ไม่อัศจรรย์เข้าจนได้