เมอร์คิวรี่ : ฟุตบอลไทยไร้จินตนาการ สุดต้านทานกระแสโซเชียล

คอลัมน์เขย่าสนาม

ออกสตาร์ตทำผลงานได้ไม่สมราคาดีกรีแชมป์ซีเกมส์สูงสุด 15 สมัย และดีกรีแชมป์เก่าเมื่อ 2 ปีก่อนสำหรับทัพนักเตะ “ช้างศึกพลังหนุ่ม” “ทีมชาติไทย รุ่นไม่เกิน 23 ปี” ชุดทำศึกกีฬาซีเกมส์ 2017 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย

ทัพช้างศึกซีเกมส์ประเดิมทัวร์นาเมนต์ได้ค่อนข้างฝืด นักเตะเล่นกันแบบไม่ได้สวมหัวจิตหัวใจลงสนาม ผลงานกับทีมรองบ่อนอย่าง อินโดนีเซีย, ติมอร์ เลสเต, กัมพูชา หรือฟิลิปปินส์ ก็ทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร ก่อนที่จะมาชนงานหนักสุดกับเวียดนาม

ยิ่งไปกว่านั้นในแต่ละเกมนักเตะไทยต่างลงสนามด้วยความกดดัน และออกอาการเกร็งกันถ้วนหน้า จนส่งผลให้ฟอร์มการเล่นช่างไร้จินตนาการสิ้นดีทั้งการสร้างสรรค์เกมรุก

และการเล่นเกมรับที่ยังไม่เข้าที่เข้าทางนัก

 

นับตั้งแต่ทีมชาติไทยเริ่มกลับมาทำผลงานได้ดีจากการทวงแชมป์ซีเกมส์ เมื่อปี 2013 ต่อเนื่องจนถึงการคว้าแชมป์ซีเกมส์ เมื่อปี 2015 และมาจนถึงซีเกมส์ครั้งนี้เพิ่งจะรู้สึกได้อีกครั้งว่า ทีมชาติไทยเล่นได้กันอย่างน่าเบื่อเช่นนี้

จากฟอร์มที่ทุกคนได้เห็นในซีเกมส์ 2017 กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันสนุกมือของนักเลงคีย์บอร์ดบนโลกโซเชียลเน็ตเวิร์ก ซึ่งในปัจจุบันถือว่ามีอิทธิพลสูงมากเพียงแค่ปลายนิ้วก็ส่งผลโดยตรงต่อสภาพจิตใจของนักเตะ

แต่อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่า ทีมชาติไทยชุดซีเกมส์นี้ ภายใต้การคุมทัพของ “โค้ชโย่ง” “วรวุธ ศรีมะฆะ” หัวหน้าผู้ฝึกสอน ยังไม่สามารถวางผู้เล่น 11 ตัวจริงชุดหลักได้ลงตัว และได้มีการหมุนเวียนนักเตะสลับไปมาจนทีมไม่สมดุล

จากนัดแรกที่เสมออินโดนีเซีย 1-1 ได้ปรับทัพในนัดที่สองกับติมอร์ เลสเต ถึง 6 ตำแหน่ง โดยโค้ชโย่งได้สลับ “เควิน ดีรมรัมย์” จากแบ๊กซ้ายดันไปยืนริมเส้นฝั่งซ้าย และจับ “สิทธิโชค กันหนู” จากศูนย์หน้าเป้าไปยืนทางริมเส้นฝั่งขวา

ขณะที่ “พิชา อุทรา” ปีกที่มีความเร็วถูกจับยืนกองหน้าตัวเป้า ส่วน “ศศลักษณ์ ไหประโคน” สลับจากปีกขวาถอยข้ามฝั่งมายืนแบ๊กซ้ายตำแหน่งถนัด ด้าน “ชัยวัฒน์ บุราญ” และ “เจนรบ สำเภาดี” 2 แข้งความหวังก็ยังหาฟอร์มเก่งไม่เจอ

ถัดมาในแดนกลางทีมชุดนี้ก็ยังไม่ลงตัว เพราะยังหาแกนหลักไม่ได้ ซึ่งโค้ชโย่งได้ส่งมิดฟิลด์สนามไปลองปั้นเกม ทั้ง “พิธิวัต สุขจิตธรรมกุล, มนตรี พรหมสวัสดิ์, นพพล พลคำ, เชาว์วัตน์ วีระชาติ” และดาวรุ่งอย่าง “วรชิต กนิตศรีบำเบ็ญ”

ส่วนแดนหลังนำโดย วรวุฒิ นามเวช แต่ยังหาคู่ขาไม่ได้ เพราะลองส่งทั้ง ชินภัทร์ ลีเอาะ, ศฤงคาร พรมสุภะ และ พีฬาวัช อรรคธรรม แต่ก็ยังไม่เห็นคู่เซ็นเตอร์ฮาร์ฟทีมที่เล่นด้วยกันได้ลงตัว และก็ยังปรับทัพอีกในนัดต่อมาจนทีมไร้สมดุล

 

สําหรับรูปแบบการเล่นของทีมซีเกมส์ชุดนี้ก็ยังไม่ได้เห็นการสร้างสรรค์เกมรุกได้น่าตื่นตาตื่นใจเหมือนกับชุดที่ผ่านมา โดยมีเพียงการจ่ายบอลขวางสนามไปมา หรือไม่ก็ส่งบอลคืนหลังไปตั้งเกมใหม่ ทำให้เกมบุกไปไม่ถึงพื้นที่สุดท้ายสักที

ส่วนใหญ่เกมบุกจะเน้นไปที่เกมริมเส้นด้วยการโยนบอลเข้ากลาง แต่ก็ยังจบสกอร์ไม่เด็ดขาด อีกทั้ง ไม่มีเกมบุกรูปแบบอื่น ทั้งการพลิกบอล แทงบอลทะลุช่อง ทำชิ่งติ๊กต๊อก หรือแม้แต่การเล่นลูกตั้งเตะก็ไม่มีความอันตรายใดๆ ทั้งสิ้น

โค้ชโย่งได้พยายามออกมากระตุ้นนักเตะให้มีความกระหายเพิ่มขึ้น และเล่นด้วยความมั่นใจ เพื่อสร้างผลงานให้ดีเหมือนกับทีมชาติไทยชุดก่อน ทั้งชุดแชมป์ซีเกมส์ครั้งก่อน รวมทั้งในยุคดรีมทีมของโค้ชโย่งเองด้วย

“เรามีโอกาสเยอะ แต่ทำไม่ได้ ซึ่งก็อยากจะบอกนักเตะทุกคนต้องมีความกระหายมากกว่านี้ ต้องไปดูชุดแชมป์ครั้งก่อน และชุดอื่นๆ รวมถึงชุดของผมด้วย เพื่อให้ลงเล่นให้มีมนต์ขลังของเสื้อทีมชาติ และเล่นให้ได้ใจคนไทยด้วย” โค้ชโย่งกล่าว

 

ส่วนกรณีที่มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันสนั่นโลกโซเชียลเน็ตเวิร์กนั้น โค้ชโย่งได้ออกมาน้อมรับคำวิพากษ์วิจารณ์ทั้งหมด และรู้ตัวเองดีว่า มีข้อผิดพลาดตรงไหน ซึ่งถือเป็นเรื่องดีที่ได้รับคำติชม เพื่อที่จะได้นำมาปรับแก้ไขต่อไป

โลกมันเปลี่ยนไป เขายิ่งติแสดงว่ายังมีข้อผิดพลาดเยอะ เราเป็นสาธารณะต้องรับฟังความคิดเห็น ผมไม่หงุดหงิดอยู่แล้ว แต่สำหรับน้องๆ อาจส่งผลต่อสภาพจิตใจ แต่หากเขานำวิจารณ์มาเป็นแรงกระตุ้นจะเป็นผลดีต่อตัวเขาเอง”

คำกล่าวข้างต้นของโค้ชโย่ง ทำให้ปฏิเสธไม่ได้ว่า กระแสโซเชียลในโลกยุคปัจจุบันถือว่าส่งผลต่อสภาพจิตใจนักเตะไทยชุดซีเกมส์ครั้งนี้อยู่มากพอสมควร และเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ทุกคนยังเค้นฟอร์มเก่งออกมาไม่ได้ในช่วงแรกของทัวร์นาเมนต์

 

สอดคล้องกับผลการวิจัยจาก “มหาวิทยาลัยเชฟฟิลด์” ของสหราชอาณาจักร ในหัวข้อว่า” “การเล่นโซเชียลทำให้เด็กมีความสุขน้อยลง”” โดยมีการพบว่า หากยิ่งมีการเล่นโซเชียลมากเท่าไรก็จะส่งผลให้ความสุขยิ่งลดน้อยลงมากเท่านั้น!

ประเด็นวิเคราะห์ 3 ข้อหลักของผลการวิจัยคือ

ข้อแรก การเปรียบเทียบตัวเองบนโลกออนไลน์กับคนอื่น

ข้อสอง การกลั่นแกล้งในโลกออนไลน์ ทั้งล้อเลียนคุกคามผ่านโลกออนไลน์ได้

และข้อสุดท้าย การมีเวลาทำกิจกรรมในโลกจริงๆ ลดน้อยลง

ยิ่งกลุ่มคนในช่วงวัยรุ่นที่มีระดับของฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงขึ้นๆ ลงๆ และมีความไวต่อความรู้สึก หรือเซ็นซิทีฟ หากยิ่งเสพกระแสโซเชียลด้านลบเหล่านี้มากเท่าไรก็ยิ่งส่งผลต่อสภาพจิตใจให้แย่ลงได้ โดยเฉพาะกับแข้งช้างศึกพลังหนุ่มชุดนี้

อย่างไรก็ตาม แม้ว่ากระแสโซเชียลจะมีอิทธิพลอย่างมากต่อสภาพจิตใจของผู้คนในโลกยุคปัจจุบัน และเราไม่สามารถปฏิเสธต่อสิ่งเหล่านี้ได้ แต่เราสามารถปรับพฤติกรรมเสพให้น้อยลง และปรับจิตใจอย่าผูกมัดกับกระแสโซเชียลต่างๆ นานา

 

สําหรับนักเตะไทยชุดซีเกมส์ถ้าหากสามารถปรับพฤติกรรม และปรับสภาพจิตใจให้หลุดพ้นจากวังวนกระแสโซเชียลออกไปได้ และแปรเปลี่ยนให้กลายเป็นแรงกระตุ้นจะถือเป็นพลังชั้นดีให้เค้นฟอร์มเก่งออกมาเพื่อพิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็น

อย่างไรก็ตาม นับเป็นบทเรียนครั้งสำคัญของนักเตะไทยรุ่นนี้ที่หลายคนเพิ่งจะเข้าร่วมการแข่งขันซีเกมส์เป็นครั้งแรก ซึ่งต้องแบกรับความกดดันเอาไว้อยู่พอสมควรอยู่แล้ว ยิ่งเมื่อเจอกับกระแสลบในโซเชียลก็ยิ่งส่งผลต่อจิตใจไปกันใหญ่

แต่หากนักเตะทุกคนรวมใจกันต่อสู้เป็นหนึ่งเดียว ไม่ว่ากระแสโซเชียลจะถาโถมเข้ามามากเท่าไรก็ไม่สามารถทำลายจิตใจอันเป็นหนึ่งเดียวของทีมลงได้

และไม่ว่าผลการแข่งขันจะออกมาเป็นเช่นไร หากพวกคุณทุกคนเล่นด้วยหัวจิตหัวใจเกินร้อยก็สามารถชนะใจคนไทยทั่งประเทศแล้วโดยไม่ต้องไปใส่ใจถึงกระแสโซเชียลต่างๆ แต่อย่างใด

ถือเป็นบทพิสูจน์ครั้งสำคัญของนักเตะทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ชุดนี้ ก่อนที่จะก้าวไปสู่ทีมชาติชุดใหญ่ในอนาคตที่จะยิ่งทวีคูณความกดดันเพิ่มเป็นเท่าตัว และรุ่นพี่นักเตะไทยทุกคนต่างผ่านจุดนี้กันมาแล้วแทบทั้งสิ้น

ท้ายที่สุดนี้เชื่อมั่นว่าหากช้างศึกพลังหนุ่มเหล่านี้สามารถก้าวผ่านจุดไปได้จะกลายเป็นช้างศึกที่มีความสง่างามได้อย่างแน่นอน…