ยั่งยืน/เรื่องสั้น ฉมังฉาย

เรื่องสั้น

ฉมังฉาย

 

ยั่งยืน

 

เขตปกครองพิเศษเชียงใหม่ พ.ศ.2662

แอลยืนอยู่ในห้องเพียงลำพัง เด็กชายรู้สึกหน่ายเซ็งที่ต้องอยู่บ้านคนเดียว และยิ่งรันทดท้อหนักเข้าไปใหญ่ เมื่อการเผชิญภาวะโดดเดี่ยวนี้ เป็นเพราะว่าพ่อเขาป่วยหนัก รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง โดยมีแม่เป็นคนเฝ้าไข้ใกล้ชิด ส่วนน้องสาว ซึ่งเยาว์กว่าหนึ่งปีอยู่ที่โรงเรียนกินนอน แอลฆ่าเวลานาทีที่ผ่านไปด้วยการดูหนัง ฟังเพลง และในที่สุดก็เปลี่ยนมาเป็นการปาลูกดอก

ป๊อก…ป๊อก…ป๊อก

เมื่อสมาธิไม่ดีพอ ลูกดอกไม่เข้าเป้า บางดอกไม่ปัก หลุดลงพื้นห้องนอน ครั้นหมดสนุกกับเกมโบราณ เด็กวัยสิบขวบทอดกายลงบนพื้นพรมอย่างสิ้นเรี่ยวแรง มองลูกดอกตรงหน้า ความเงียบของบ้านกัดกินจิตใจทารุณนัก ความวิตกจริตอันเกิดจากบิดาป่วยหนักโหมตีกระหน่ำอีกด้าน ตอนนี้ข้าศึกแห่งอารมณ์บุกทำร้ายแทบทุกทิศ เด็กชายแสนอ่อนใจ และผล็อยหลับด้วยความอ่อนล้า แต่ตอนบ่ายโมงต้องสะดุ้งเฮือก ครั้นได้ยินเสียงออดดังขึ้น

เด็กชายตกใจเมื่อโฮโลแกรมแสดงภาพบุคคลกลุ่มหนึ่งยืนอยู่ที่ประตูบ้าน “โปรดแสดงตัว” เสียงของใครคนหนึ่งดังขึ้นจากกลุ่ม

เด็กชายรีบยืนยันตัว “แอล 35325…”

เด็กชายยืนตัวเกร็ง หัวใจเต้นเร็ว ทราบดีว่าเจ้าหน้าที่ของ Mine To Mine Project Of Universal (MMPU) มาเยือนบ้านใครแล้ว มันไม่ใช่เรื่องธรรมดาสามัญ ครั้งนี้ต้องมีอะไรผิดพลาดเกิดขึ้นสักอย่างเป็นแน่แท้ เขาปลอบขวัญตนเอง

“ข้อมูลถูกต้อง การยืนยันตัวสิ้นสุดลง” เจ้าหน้าที่ตอบกลับ

เด็กชายโล่งใจ นึกว่ามีการเข้าใจผิดเกิดขึ้น เมื่อเข้าใจกันได้ก็ดีแล้ว แต่…แต่… “เปิดประตูบ้านเดี๋ยวนี้”

เสียงสั่งเฉียบขาดนัก

อาคารโครงการเปลี่ยนถ่ายจิตแห่งจักรวาล

(Mine To Mine Project Of Universal)

 

1

เด็กชายถูกนำไปยังห้องหนึ่ง ภายในขาวโพลน แลดูไร้ขอบเขต แต่ทว่ามันเป็นเพียงห้องไม่ใหญ่โตอะไร การใช้วัสดุมันวาวและขาวกั้นทำให้ห้องนั้นหลอกตา เด็กชายพยายามร้องตะโกนบอกพวกเขาว่า น่าจะมีการผิดพลาดอะไรสักอย่างแน่ เขาไม่ได้ผิดปกติใดๆ ไม่ใช่เด็กจรจัด หรือเป็นเด็กในเขตเสื่อมโทรมด้วย มีบ้านอาศัยในย่านคนร่ำรวย พ่อของเขาคือ ดร.นรที เป็นวิศวกรอวกาศ ทำงานอยู่ในสถานีอวกาศแม่ระมิงค์ ส่วนแม่เป็นนักสังคมวิทยาอวกาศ ชื่อศาสตราจารย์ ดร.เพ็ญศรี ทำงานให้กับศูนย์แห่งหนึ่งของรัฐบาล และเป็นอาจารย์สอนในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ด้วย แต่ตอนนี้พ่อป่วย นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล แต่ความพยายามของเขาไร้ค่านัก พวกนั้นหาได้สนใจคำอธิยายของเขาไม่ มั่นใจในข้อมูลว่าตนถูกต้อง เด็กชายได้กลิ่นสารระเหยบางอย่าง ต่อมามีอาการสะลึมสะลือ

เพียงไม่ถึงหนึ่งนาที เขาก็หมดสติไป

 

2

เด็กชายถูกนำตัวไปยังเครื่องเปลี่ยนถ่ายจิต เจ้าหน้าที่ประจำห้องนี้สวมชุดขาว จัดการต่อสายชุดเปลี่ยนถ่ายจิตบริเวณศีรษะของเด็กชาย จากนั้นปิดฝาครอบ ซึ่งมีลักษณะโค้งโปร่งใสลง แอลนอนในช่องแคบๆ หมดสิทธิ์รู้ว่าชายอายุห้าสิบสามคนหนึ่ง นอนแน่นิ่งอยู่อีกช่องข้างๆ ซึ่งมีการสวมชุดเปลี่ยนถ่ายจิตเช่นกันเป็นใคร

เครื่องเปลี่ยนถ่ายจิตเป็นนวัตกรรมชั้นเลิศแห่งยุค เป็นเทคโนโลยีที่นักวิทยาศาสตร์คิดประดิษฐ์และพัฒนาร่วมกันหลายชาติ มีไทย ญี่ปุ่น จีน เกาหลีใต้ และสิงคโปร์ เครื่องเปลี่ยนถ่ายจิตนี้มีการอัพเกรดมาแล้วหลายรุ่น และรุ่นที่ใช้ในทุกวันนี้เป็นรุ่นที่สมบูรณ์แบบที่สุด เป็นที่นิยมและมีจำหน่ายไปทั่วโลก

เครื่องเปลี่ยนถ่ายจิตเริ่มทำงาน เจ้าหน้าที่เฝ้ามองสัญญาณชีพของเด็กชายกับชายวัยห้าสิบสามผ่านจอมอนิเตอร์

 

3

เด็กชายขยับร่าง เป็นเพียงอาการกระตุกภายใต้เครื่องพันธนาการ ร่างนั้นยังคงสลบไสล เสียงน้ำไหลแผ่วเข้ามาในโสตประสาท กลิ่นน้ำโชยมากระทบฆานประสาท ถัดมาเขาเห็นลำธารสายหนึ่ง สายน้ำใสแจ๋ว หมู่ปลานานาชนิดว่ายวนอยู่ในลำธาร บางชนิดลำตัวสะท้อนแสงแดดแวววาว แอลกระโดดโลดเต้นจากก้อนหินก้อนนั้นไปก้อนโน้นอย่างเริงรื่น เหนือลำธารขึ้นไปเป็นทุ่งหญ้าเขียวขจี กว้างใหญ่ไพศาล เด็กชายทุ่มถลาตัวลงบนหญ้านุ่ม กลิ่นหญ้าติดกาย เด็กชายกลิ้งไปมาบนพื้นหญ้าอันรื่นรมย์ มีความสุขมากที่ได้พบสวรรค์แห่งนี้ ในเขตการปกครองพิเศษอันเป็นที่พักของครอบครัว เด็กชายไม่เคยได้สัมผัสกับสิ่งนี้มาก่อน เขาประหลาดใจอยู่ในที ตั้งคำถามว่า สิ่งนี้มีจริงหรือไม่ หรือว่านี่เป็นเพียงภาพนิมิตที่จิตของเขาเสกสร้างขึ้นมาเอง

บนจอมอนิเตอร์ ตัวเลขแสดงการเปลี่ยนถ่ายจิตอยู่ที่สิบเปอร์เซ็นต์

 

4

ภาพที่แอลเห็น คือเขานั่งอยู่ที่โต๊ะกินข้าว แม่กำลังยกอาหารที่เหลือกลับไปเก็บ บนโต๊ะเหลือจานอาหารแค่ใบสองใบ น้องสาวเขานั่งอีกฟากหนึ่ง

“แม่ครับ ใกล้เวลาแล้วครับ” แอลร้องเตือน น้ำเสียงเร่งรัดมารดาอยู่ในที หญิงสาวเร่งมือตามที่ลูกชายว่า เอาจานใบสุดท้ายไปเก็บ “เรียบร้อยแล้ว” เธอปาดป้ายมือ พลางทรุดนั่ง ไม่ถึงครึ่งนาที มีแสงแปลบปลาบ ก่อนที่จะปรากฏภาพขึ้นมา

“พ่อครับ” เด็กชายร้องขึ้นด้วยความยินดี เพ็ญศรีจ้องภาพไม่กะพริบตา

“สวัสดีลูกๆ” นรทีกล่าว ยิ้มกว้าง ดวงตาเบิกบาน เขาทำงานบนสถานีอวกาศ อาศัยโฮโลแกรมติดต่อกับครอบครัวสม่ำเสมอ “กำลังทำอะไรอยู่” เขาหันไปถามภรรยา

“เพิ่งกินข้าวเย็นเสร็จ” เพ็ญศรีบอก

“กับข้าวน่าอร่อยนะ” เขานึกถึงอาหารพื้นเมือง เช่น แกงอ่อม แกงฮังเล จอผักกาด ไส้อั่ว จนน้ำลายสอ ที่ที่เขาอยู่มีแต่อาหารหลอด รสชาติไม่เอาอ่าวเอาเสียเลย

เด็กชายถาม “แล้วพ่อกินข้าวแล้วยังครับ”

“พ่อจัดการเรียบร้อยแล้วก่อนติดต่อมานี่”

เด็กชายมีความสุขอย่างยิ่งในความเป็นครอบครัวอบอุ่น แม้ว่าพ่อต้องขึ้นไปประจำที่สถานีอวกาศเป็นระยะๆ อันทำให้ที่บ้านไม่พร้อมหน้าพร้อมตากันบ้างก็ตาม

 

5

นํ้าสีคล้ำดำแผ่ขยายเป็นวงกว้าง ส่งกลิ่นโชยขึ้นมาแตะจมูกรุนแรง แสงแดดที่แผดเผายิ่งทำให้กลิ่นเพิ่มระดับขึ้นไปอีก ด้านตะวันออกของที่นี่เป็นชุมชนขนาดใหญ่ เด็กกลุ่มนี้มาจากที่นั่น เดินลุยน้ำซึ่งไม่ลึกมากไปยังกองขยะที่ตั้งทะมึนอยู่เบื้องไกล พวกเด็กๆ มาหาขยะอิเล็กทรอนิกส์ นำไปขายกัน อย่างที่รู้ ที่นี่อยู่ไกลจากเขตปกครองพิเศษของเชียงใหม่ เป็นเขตนอกกฎหมายของเชียงใหม่ ประชากรอยู่กันอย่างไร้ทิศทาง รัฐบาลกลางซึ่งตั้งอยู่ที่จังหวัดเพชรบูรณ์ ไม่ค่อยให้ความไยดีหรือเหลียวแลคนกลุ่มนี้ ทั้งนี้เพราะว่าพวกเขาคือพลเมืองชั้นสอง ซึ่งก็เหมือนพลเมืองชั้นสองที่ซึ่งตามหัวเมืองใหญ่ๆ ของประเทศนั่นแหละ

อย่างที่ทราบเด็กๆ เหล่านี้ต้องใช้ชีวิตอย่างหิวโหย โดยไม่เคยอิ่มท้องแม้สักวันเดียว โรงเรียนก็แทบไม่ไป เด็กที่นี่หมดความใฝ่ฝันถึงชีวิตที่ดีกว่ามานานแล้ว เด็กๆ ไม่เคยได้ย่างกรายเข้าไปในเขตปกครองพิเศษเลย ไม่รู้ว่าที่นั่นเจริญรุ่งเรืองขนาดไหน เพราะเจ้าหน้าที่ตั้งด่านสกัดเข้มงวดยี่สิบสี่ชั่วโมง ยกเว้นจะมีกรณีพิเศษเท่านั้น แต่ถึงกระนั้นใช่ว่าเด็กทุกคนจะเกิด เติบโตและจบชีวิต ณ ที่นี่เท่านั้น มีบ่อยที่เด็กจากเขตนี้หายตัวไป

แอลขยับตัว แม้ว่าเขาไม่เคยเห็นสภาพชุมชนแออัดแห่งนี้มาก่อนก็ตาม แต่เขารู้สึกได้ว่า เขตเสื่อมโทรมนี้เขามีความคุ้นชินระดับหนึ่ง ราวเหมือนกับว่าได้เคยใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ หรือไม่ ก็อาจเพราะว่ามันอยู่ในสายโลหิตเขาแต่เดิมแล้ว

บนจอมอนิเตอร์ ตัวเลขแสดงการเปลี่ยนถ่ายจิตอยู่ที่สิบห้าเปอร์เซ็นต์

 

6

ถึงจะอยู่บ้านหลังใหญ่โต แต่บางครั้งแอลรู้สึกเป็นคนแปลกหน้าคนหนึ่ง เขาเห็นสายตาที่ไว้ใจไม่ได้ของพ่อกับแม่ เขาไม่พูดเรื่องนี้กับใครเลย แต่พยายามคิดว่าตนเองอาจตาฝาดไป แต่…แต่คนเราจะตาฝาดได้บ่อยเชียวหรือ

แอลสะบัดศีรษะในจินตนาการ ไล่ภาพที่ปรากฏขึ้นในมโนคติขณะนี้ทิ้งไป

เจ้าหน้าที่มองจอมอนิเตอร์ ระบายยิ้มบนใบหน้า พอใจกับตัวเลข “ขณะนี้เป็นไปด้วยดี” เขาพึมพำ

 

7

หญิงสาวคนหนึ่งอยู่ภายใต้ผ้าคลุมหน้ามายืนอยู่หน้าบ้านหลังใหญ่ โดยมีเจ้าหน้าที่ MMPU ยืนขนาบอยู่สี่คนอย่างเคร่งครัด หญิงชายเจ้าของบ้านปักหลักตรงธรณีประตู หญิงเจ้าของบ้านยื่นมือไปรับเด็กทารกมาจากสามี พึงพอใจที่สุด

เด็กชายทารกเขม้นมองหญิงชายเจ้าของบ้านอย่างไร้เดียงสา

 

8

เด็กชายยืนอยู่นอกบ้าน หิมะโปรยลงมาอย่างหนัก มองไปทางไหนมีแต่ความขาวโพลน ที่บ้านเด็กชายหิมะเกาะตามขอบประตูหน้าต่างและหลังคา เขายืนเดียวดาย จ้องมองบ้านที่สว่างไสวด้วยหลอดไฟด้วยจิตหม่นหมอง เด็กชายขยับตัว ทำร่างกายให้อบอุ่น เสียงลมพัดอู้ๆ หิมะปลิวตามแรงลม ไฟในบ้านดับลงทีละดวงๆ แต่ภายในห้องนอนพ่อกับแม่ชั้นบนยังคงสว่างโร่ ส่วนบ้านอื่นพากันปิดไฟนอนหมดแล้ว

เด็กชายกวาดสายตาไปรอบๆ โลกยามนี้เต็มไปด้วยความวิเวกเกินไป…เกินกว่าเด็กวัยสิบปีอย่างเขาจะทนทานไหว

 

9

แอลตัดสินใจสืบเท้าเข้าไปหาประตูบ้าน หิมะที่กองอยู่บนพื้นหนามาก เขาย่างก้าวไม่ง่ายนัก แต่ถึงอย่างไรก็ต้องไปถึงประตูบ้านให้ได้

แอลยกมือขึ้นกดออด นานครันกว่าภาพโฮโลแกรมจะปรากฏขึ้น พ่อเขายืนทำหน้าบึ้ง ขยับปาก แต่ยังไม่มีเสียงใดหลุดรอดออกมาให้ได้ยิน แอลยืนสั่นสะท้าน เครื่องแต่งกายมิพอป้องกันความหนาวได้แล้ว “ได้โปรดเมตตาผมเถิดครับ พ่อ” แอลวิงวอน สายตาหม่นเศร้าจับจ้องบิดาไม่กะพริบ

“ฉันบอกแล้วไง ไปให้พ้นจากบ้านฉัน” เสียงพ่อเหี้ยมเกรียมนัก มองเด็กชายราวคนแปลกหน้า ทั้งที่เลี้ยงดูเขามาเกือบสิบปี

เด็กชายระลึกถึงแววตานั้นได้ แววตาอันไว้ใจมิได้ แต่ถึงอย่างไรเขาก็ต้องวิงวอนขอความเห็นใจต่อไป “ผมจะแข็งตายอยู่แล้วพ่อ เปิดประตูให้ผมเข้าไปเถิดนะ…นะครับ” พูดแล้วน้ำตารินไหล ปากสั่นระริกความทุกข์ระทมล้นหัวใจ

“เอ๊ะ ฟังไม่รู้เรื่องไง ไปจากบ้านฉันนะ” ดร.นรทีตะคอก แอลตกใจ ขวัญผวา พยายามมองหาศาสตราจารย์ ดร.เพ็ญศรี หวังเกลี้ยกล่อมเธอ “แม่ล่ะ แม่อยู่ไหน”

 

10

เด็กทารกเห็นใบหน้าของคนที่อุ้มเขา เพราะผ้าคลุมขยับเลื่อนขณะที่มีการส่งตัวเขาให้กับเจ้าของบ้านหลังใหญ่

ดร.นรทียื่นซองเงินให้แก่หญิงสาวซึ่งมาจากเขตเสื่อมโทรม จากนั้นก็รับเอกสารจากเจ้าหน้าที่ MMPU “เรียบร้อยแล้วนะ” เจ้าหน้าที่ถาม พวกเขาต้องคุมหญิงสาวกลับ และต้องส่งหล่อนออกไปจากเขตปกครองพิเศษให้เร็วที่สุด เด็กชายดิ้นอยู่ในมือของหญิงเจ้าของบ้านหลังถูกส่งผ่านมาจากคนเป็นสามีแล้ว

ทารกชายมองคนทั้งคู่ เพราะความไร้เดียงสาทำให้เขาไม่อาจคิดอะไรได้ลึกซึ้งกว่านั้น

 

11

แอลทรุดนั่งอยู่ที่ริมรั้ว หิมะโรยตัวลงมาเรื่อยๆ อากาศหนาวจัดลงไปอีกเมื่อเวลาผ่านเข้าสู่ช่วงดึก เด็กชายสับสน ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดจึงถูกขับออกจากบ้านตนเอง ที่แล้วมาเขาใช้ชีวิตอย่างบรมสุข แม้ว่าหลายครั้งพ่อกับแม่เขาแลดูใจจืดใจดำไปบ้าง ซึ่งเขาเข้าใจว่า นั่นเป็นเพราะพ่อ-แม่พยายามเข้มงวดเขา เพื่อให้เขามีชีวิตสืบไปอย่างดีมีคุณภาพ

“ให้ผมเข้าไป นี่มันบ้านผม” แอลระดมกำลังทุบประตูบ้าน หอบหายใจหนัก ข้างนอกวังเวงอ้างว้างเกินขนาด หิมะก็ตกลงมาอย่างหนักหน่วง แอลเดินออกมาจากประตูบ้านหลังจากไม่มีการตอบสนองใดๆ เจ็บระบมที่มือ แต่ยังน้อยกว่าการเจ็บที่ใจ เขายืนคอตก สิ้นหวัง มองไปยังตัวบ้านซึ่งเคยได้รับความรักและความอบอุ่น

ความมืดสนิทครอบงำบ้านหมดแล้วยามนี้

เด็กชายนั่งหลบที่ต้นไม้ต้นหนึ่ง ขดตัวอย่างทุกข์ทรมาน พยายามรักษาอุณหภูมิภายในร่างให้อุ่นมากที่สุด เพื่อต้านความหนาวเหน็บที่รุมกัดกิน-กัดกินจนถึงกระดูกทุกชิ้นทุกอัน

บนจอมอนิเตอร์ ตัวเลขแสดงการเปลี่ยนถ่ายจิต อยู่ที่หกสิบเก้าเปอร์เซ็นต์

เจ้าหน้าที่ยิ้ม พลางเปรยอย่างอารมณ์ดี “เยี่ยมยอด”

 

12

ไม่มีใครเห็นเด็กชายตอนเช้าวันใหม่ แต่หากมีการคุ้ยหิมะกองโตใต้โคนต้นไม้นั่น พวกเขาก็จะพบร่างของแอลนอนแข็งตายอยู่ แต่ใครจะสนใจเล่า

ชะตากรรมของแอลไม่ต่างจากเด็กหลายคนในเขตเสื่อมโทรมซึ่งหายตัวไปบ่อยๆ

 

13

เด็กชายฟื้นขึ้นในช่องของเครื่องเปลี่ยนถ่ายจิต เขานอนทบทวนความจำ แต่ไม่รู้อะไรทั้งนั้นเกี่ยวกับตนเองเลย ยกเว้นความทรงจำของ ดร.นรที วิศวกรอวกาศ

เจ้าหน้าที่ออกไปนอกห้อง MMPU ยื่นมือไป

“ยินดีด้วยนะครับ การเปลี่ยนถ่ายจิตสมบูรณ์แบบแล้วครับ คุณได้ ดร.นรทีกลับคืนมาแล้วครับ” น้ำเสียงของเขาเต็มล้นไปด้วยความภาคภูมิใจในภารกิจหนนี้

ศาสตราจารย์ ดร.เพ็ญศรีส่งมือออกไปสัมผัสมือเจ้าหน้าที่ เขย่ากันเบาๆ แล้วเอ่ยคำขอบคุณอย่างสุดซึ้ง

จากนั้นสายตาจับจ้องไปยังร่างที่ไร้วิญญาณของสามี ซึ่งขณะนี้กำลังถูกเคลื่อนย้ายออกไปจากเครื่องเปลี่ยนถ่ายจิต เพื่อไปสู่ขบวนการเผาทำลาย

 

MMPU

โครงการเปลี่ยนถ่ายจิตแห่งจักรวาล (Mine To Mine Project Of Universal) มีวัตถุประสงค์เพื่อความอมตะของมนุษยชาติ หลักการทำงานของมันคือ จะดับจิตเด็ก และใส่จิตผู้ใหญ่ที่ต้องการมีชีวิตเป็นนิรันดร์เข้าไปแทน ซึ่งเด็กที่นำมาดับจิตนั้นมาจากเขตเสื่อมโทรม โดยมีการซื้อ-ขายกันอย่างถูกต้องตามกฎหมาย การซื้อ-ขายมีสองแบบ หนึ่ง…ซื้อกันแบบปัจจุบันทันด่วนเมื่อจำเป็นต้องใช้ กับสอง…ซื้อเด็กมาเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรมไว้ก่อน และเมื่อถึงคราต้องใช้ ก็เอาเด็กคนนั้นมาเข้าสู่กระบวนการได้เลย แต่บางครั้งก็มีการขโมยเด็กจากเขตเสื่อมโทรม หรือนำบุตรแท้ๆ มาใช้สืบทอดความเป็นอมตะด้วย ซึ่งผิดกฎหมาย

แต่เจ้าหน้าที่ยอมรับสินบน ร่วมทำผิดอย่างไม่เกรงกลัวใดๆ